เมื่อเห็นหลินหยุนถาม เว่ยหลีก็พูดทันที "มันก็เป็นเรื่องปกติ เนื่องจากศูนย์สวรรค์กว้างใหญ่ไพศาลมากๆ และคนที่เข้ามาอยู่ในศูนย์สวรรค์ก็มีเพียงแค่สำนักเท่านั้น ไม่ได้มีอาณาเขตของสำนักเลย!"
"พูดกันตามตามตรง พวกเขาไม่มีอำนาจอะไรเลย!"
"ดังนั้นการปกป้องแผ่นดินเป็นหน้าที่ของราชวงศ์!"
"ราชวงศ์จัดตั้งหน่วยกำกับดูแลขึ้นเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบแผ่นดิน แต่จำนวนของหน่วยกำกับดูแลก็มีจำกัด ไม่สามารถรับประกันได้ว่าทุกที่จะได้รับความปลอดภัยและไม่มีอันตราย!"
"เมื่อเป็นแบบนี้ ทำให้โจรพวกนั้นมีโอกาสมากขึ้น!"
หลินหยุนพยักหน้า เรื่องนี้ก็ถือได้ว่าเป็นเหตุผลข้อหนึ่ง แต่เขาก็ถามด้วยความสงสัย"อย่างไรก็ตาม ราชวงศ์ก็ไม่ควรปล่อยให้โจรพวกนั้นมีอำนาจและอิทธิพลมากขึ้น? ยกตัวอย่างเช่นซ่องโจรจากเขากุยหยวน ฉันคิดว่าโจรพวกนี้คงอยู่ที่นี่มานานแล้ว!"
"ทำไมหน่วยกำกับดูแลไม่กำจัดโจรพวกนี้ละ?"
"ทำไมมันถึงกลายเป็นภารกิจของสถาบันราชภัฏ?"
เว่ยหลีพูดด้วยรอยยิ้ม"ซ่องโจรในเขากุยหยวนอยู่ที่นี่ไม่ค่อยนานเท่าไหร่ น่าจะไม่ถึงสามปี เพราะการตรวจสอบของหน่วยกำกับดูแลนั้นจะทำทุกๆสามปี!"
"อันที่จริงนี่ก็คือวิธีการอย่างหนึ่ง การที่ตรวจสอบทุกๆสามปี ประการแรกเพราะมีคนจัดการเรื่องนี้ไม่พอ!"
"ประการที่สอง อันที่จริงซ่องโจรพวกนี้ พวกเขาตั้งใจเหลือเอาไว้ให้ลูกศิษย์ของสถาบันราชภัฏไปจัดการ"
"นี่คือการทดสอบอย่างหนึ่ง!"
"แน่นอนว่าสถาบันราชภัฏไม่ได้มีไว้เพื่อฝึกฝนอย่างเดียว และลูกศิษย์ไม่เคยเผชิญความเป็นความตาย เรื่องนี้สถาบันราชภัฏไม่อนุญาตอยู่แล้ว!"
"อนาคตของลูกศิษย์จากสถาบันราชภัฏ ส่วนใหญ่จะเป็นทหารและเข้าไปในสนามรบหมื่นจักรวาล ถ้าทุกคนรู้จักแค่ฝึกฝน และไม่เคยเผชิญหน้ากับความเป็นความตายมาก่อน เมื่อพวกเขาเข้าไปเป็นทหารและไปที่สนามรบหมื่นจักรวาล มันคือการส่งพวกเขาไปตายชัดๆ"
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ของเว่ยหลี ทำให้หลินหยุนเข้าใจทันที
อันที่จริงราชวงศ์ไม่ได้บีบบังคับหรือกดดันซ่องโจรเลย บางทีตอนที่หน่วยกำกับดูแลตรวจสอบแผ่นดิน พวกเขาคงได้รับคำสั่ง ให้ปล่อยโจรพวกนี้ไป ทำเหมือนโจรพวกนี้ไม่มีตัวตน
ถ้ากำจัดซ่องโจรจนหมด ลูกศิษย์ของสถาบันราชภัฏก็คงไม่มีหินลับมีดที่จะทำให้จิตใจของพวกเขาแข็งแกร่งอีกแล้ว
สี่คนเดินมาแล้วสามวัน เมื่อถึงตอนเช้ารุ่งของวันที่สาม ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเมืองกุยหยวนที่อยู่ใกล้ๆเขากุยหยวน
เมืองแห่งนี้ เนื่องจากอยู่ใกล้เขากุยหยวนก็เลยได้ชื่อนี้
เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาในเมือง ทั้งสี่คนก็ได้ยินทันที มีคนจำนวนไม่น้อยกำลังคุยเรื่องของเขากุยหยวน
น้ำเสียงของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ
เกิดเรื่องไม่ดีกับผู้นำของเขากุยหยวนแล้ว ดูเหมือนเรื่องนี้ได้ถูกแพร่กระจายออกไปแล้ว
เนื่องจากช่วงนี้เขากุยหยวนเงียบผิดปกติ ทำให้ทุกคนไม่ต้องหวาดกลัวอีกต่อไป
ทุกคนตบมือชื่นชมด้วยความดีใจ มีนักบำเพ็ญเซียนบางส่วนต่างสนทนากันอย่างลับๆ พวกเขาอยากใช้โอกาสที่เขากุยหยวนมีปัญหาในครั้งนี้ พวกเขาร่วมมือกันและบุกขึ้นเขาไปเลย และกำจัดเขากุยหยวนให้สิ้นซาก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากก่อนหน้านี้ เขากุยหยวนทำให้พวกเขาหวาดกลัวมากจนเกินไป ทำให้ไม่มีใครกล้าลงมือจริงๆ
เว่ยหลีพูด"ศิษย์พี่ชิงเฟิง เรื่องนี้ต้องรีบๆจัดการ ถ้ารอนานๆอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าข่าวเรื่องของเขากุยหยวนแพร่กระจายไปถึงสำนัก สำนักก็คงลดระดับของภารกิจนี้ได้ทุกเมื่อ!"
"เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าพวกเราอยากจะได้คะแนนภารกิจสี่พันแต้ม มันก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว!"
เมื่อชิงเฟิงได้ยินก็พยักหน้าทันทีแล้วพูด"ศิษย์น้องพูดถูกแล้ว ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ตอนนี้พวกเราควรตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดของเขากุยหยวนอย่างละเอียดออกมา ถ้าข้อมูลที่ได้ไม่แตกต่างจากข้อมูลที่ศิษย์น้องได้มาก่อนหน้านี้ ถ้างั้นคืนนี้พวกเราก็ลงมือได้เลย!"
"บางทีอาจจะไม่ต้องรอถึงกลางคืน กลางวันก็ลงมือได้ มันไม่ต่างอะไรกันเลย!"
ยอดฝีมือแดนจิตปฐมตอนปลายสามคน พวกเขาไม่ได้อยู่ในสายตาของชิงเฟิงอยู่แล้ว
เว่ยหลีพยักหน้าทันทีและพูด"โอเค พวกเราสี่คนไปหาโรงเหล้าคนละที่ และไปหาข้อมูลทั้งหมดก่อน หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง พวกเราก็พบกันที่ประตูทิศใต้!"
หลินหยุนกับชิงจื้อก็พยักหน้าทันที จากนั้นสี่คนก็แยกทางกันทันที
หลังจากเวลาผ่านไปสองชั่วโมง ทั้งสี่คนก็มาพบกันที่ประตูทิศใต้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...