หลินหยุนส่ายหน้า และพูดขึ้นมาว่า “ไท่จื่อ สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบัน มีทางแก้ไขหรือไม่?”
เมื่อได้ยินคำถามของหลินหยุน ไท่จื่อหุบยิ้ม และอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “ไม่มี! สถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถแก้ไขได้!”
“เว้นแต่ฟูจื่อปรากฏตัว!”
“ไม่อย่างนั้น มันเป็นไปไม่ได้!”
“ฉันรู้ว่าช่วงนี้นายก็คิดเรื่องนี้เช่นกัน น่าจะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนก่อนดีใช่ไหม?”
หลินหยุนก็ไม่ได้ปฏิเสธ และพยักหน้าพูดขึ้นมาว่า “เป็นเช่นนั้นจริงๆ!”
ไท่จื่อพูดขึ้นมาว่า “ต่อไปจะมีเรื่องสำคัญให้นายทำ หากนายทำได้สำเร็จ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็อาจมีโอกาสแก้ไขความสมดุลได้!”
“บางทีมันอาจจะสั่นคลอนสถานการณ์ปัจจุบันได้เล็กน้อย!”
หลินหยุนแววตาเปล่งประกาย และอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “ไท่จื่อพูดถูก สถาบันกำลังจะเริ่มต้นการประลองของเขาต่างๆ?”
สถาบันมีเก้าเขา
มีการประลองหนึ่งครั้งทุกปี!
จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องปกติมาก
ไม่ใช่แค่สถาบัน
สำนักใหญ่และเล็กต่างๆก็จะมีการประลองแบบนี้เหมือนกัน!
แต่ครั้งนี้ มันต้องแตกต่างออกไป!
ภายในสถาบัน แม้แต่ชนชั้นสูงก็เอนเอียงมาทางไท่จื่อมากขึ้น!
ถึงขนาดอย่ามองว่ามีลูกศิษย์มากมายมาจากสำนักใหญ่ต่างๆ แต่ว่าถึงเวลานั้นพูดอะไร เข้าสถาบันแล้ว ก็จะคิดถึงแต่ตัวเองมากขึ้น
ดังนั้น ก็ลูกศิษย์ส่วนหนึ่ง สนับสนุนไท่จื่อ
แต่สนับสนุนองค์ชายสามก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆอย่างแน่นอน!
ถึงกับมากกว่าด้วย!
เดิมทีทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้แย่งชิงอะไรกันมาโดยตลอด ต่างก็ทำสิ่งต่างๆตามกฎของสถาบัน
เพียงแต่ว่าแยกแยะได้อย่างชัดเจน
แต่ครั้งนี้จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ สถานการณ์ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง!
อันที่จริงองค์ชายสามไม่มีตรงไหนที่สามารถที่จะโจมตีไท่จื่อได้ก่อน
และสถาบัน ก็เป็นสถานที่ยอดเยี่ยมที่สุด และเป็นโอกาสครั้งหนึ่งที่ดีด้วย!
ดังนั้น หากต้องการเคลื่อนไหว ต้องอยู่ในสถาบัน!
ครั้งนี้หากไม่มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น จะต้องทำให้เกิดแรงผลักดันมหาศาลล่วงหน้า
ก่อให้ทางไท่จื่อนี้ กับทางองค์ชายสามนี้ต้องปะทะกัน และต้องการที่จะกำราบสถานการณ์ซึ่งกันและกัน
และหลินหยุน เป็นอาจารย์ของรัชทายาททั้งสองพระองค์ในตำหนักไท่จื่อ เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะคนสนิทของไท่จื่อ! นอกจากนี้ยังมีการดำรงอยู่ของไท่จื่อที่รวบรวมจากงานย่องเยาว์ไปยังผู้ใต้บังคับบัญชา
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ต้องตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะ
ดังนั้นไท่จื่อเรียกหลินหยุนเข้าพระราชวังในวันนี้ ไม่ใช่เพื่อแก้ไขสถานการณ์ ประเด็นสำคัญที่อยากจะพูด ก็คือเรื่องการประลองของสถาบัน!
นิ่งไปชั่วครู่ ไท่จื่อมองไปทางหลินหยุนแล้วพูดต่อว่า “นายต้องเตรียมใจไว้! คนเหล่านั้นรับมือได้ยาก พวกเขาล้วนเป็นสุดยอดอัจฉริยะที่ไร้เทียมทาน!”
“แม้ว่านายจะมีวิธีการนับพัน!”
“แต่มันต้องมีแรงกดดันมากแน่ๆ!”
“ฉันมีคำขอร้องเพียงข้อเดียวสำหรับนาย นั่นก็คือกำราบแดนจิตปฐมทั้งหมด! สำหรับคนที่ทะลวงดั่งเทพ งั้นนายก็ไม่ต้องไปสนใจ มีคนมาจัดการกับมันเอง!”
“ด้วยแบบนี้ ความกดดันของนายน่าจะน้อยลงมาก!”
“อย่างไร? ยังมีความมั่นใจอยู่ใช่ไหม?”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดอย่างราบเรียบว่า “ถ้าหากเป็นเพียงแค่จิตปฐม ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีความกดดันใดๆ!”
เมื่อได้ยินหลินหยุนพูดเช่นนี้ ไท่จื่อก็หัวเราะฮ่าฮ่าดังลั่นขึ้นมาอีกครั้ง และพูดขึ้นมาว่า “ฉันก็ชอบท่าทางที่มั่นอกมั่นใจมากของนาย! ก็ดี มีความมั่นใจก็ดี!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ไม่มีรั้งนายไว้แล้ว นายกลับไปเตรียมการที่สถาบันเถอะ!”
“วันประลองใกล้เข้ามาแล้ว!”
“สามารถที่จะเพิ่มระดับได้บางก็จะดีที่สุด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...