หลังจากที่ส่งเว่ยหลีและชิงเฟิงกลับไป หลินหยุนก็ตกอยู่ในห้วงความคิด
เห็นได้ชัดว่าทั้งสองมองออกหลายสิ่งหลายอย่างที่นี่ ทั่วทั้งสถาบันน่าจะเริ่มจะแสดงอำนาจกันแล้ว ดังนั้นถึงได้เป็นเช่นนี้
จะเห็นได้ว่า แม้ว่าการประลองยังมีช่วงเวลาหนึ่งที่จะเริ่มขึ้น
แต่ว่าตอนนี้ เขาน่าจะตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์ในที่สาธารณะแล้ว
ถ้าหากหวูตี๋คนนั้นเป็นเหมือนกับที่เว่ยหลีและชิงเฟิงพูด ก็แข็งแกร่งมากจริงๆ
ถ้าหากต้องการจัดการ ยังต้องเพิ่มระดับผลการฝึกตนอีกครั้ง
หากเขาเข้าสู่จิตปฐมตอนปลายเหมือนกัน ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!
ในแดนเดียวกัน ในสายตาของหมื่นจักรวาล เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้ใครอยู่ในสายตา
หลังจากไตร่ตรองเป็นเวลานาน หลินหยุนส่ายหน้าเล็กน้อย เดิมทีตอนที่โลกกำลังภายในตัวของเขาไม่ได้ขยายถึงขีดสุด และไปเพิ่มระดับจิตปฐม
แต่ว่าตอนนี้ บางทีอาจไม่ยอมก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอก ทำได้เพียงไปบ่อเลี้ยงจิตวิญญาณก่อน!
“แต่ว่ายังมีเวลาอีกเกือบหนึ่งเดือน น่าจะยังทันเวลา!”
“ตราบใดที่มีคะแนนภารกิจเพียงพอ สามารถเข้าสู่หอกลั่นวิญญาณ์ได้”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินหยุนไปห้องโถงภารกิจอีกครั้ง
เมื่อเห็นหลินหยุนมาถึง เว่ยหลีอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพูดขึ้นมาว่า “ศิษย์น้อง ช่วงนี้นายยังจะรับทำภารกิจต่อไปอยู่เหรอ?”
กวาดสายตามองไปแวบหนึ่ง เว่ยหลีลดเสียงลงพูดขึ้นมาว่า “ศิษย์น้อง ช่วงนี้ทางที่ดีอยู่ในสถาบัน ไม่ต้องออกไปจะดีกว่า!”
หลินหยุนเข้าใจความหมายของเว่ยหลีในทันที แต่ว่ายังส่ายหน้าพูดขึ้นมาว่า “ศิษย์พี่วางใจได้ ฉันรู้ดีแก่ใจ ฉันหลินหยุนไม่ใช่คนอ่อนแอที่รังแกได้ง่ายๆ ก็ไม่ใช่ว่าใครอยากจะรังแกก็รังแกได้! กล้ามาหาเรื่องฉัน งั้นก็เตรียมตัวตายได้เลย!”
เมื่อเห็นหลินหยุนยืนกราน เว่ยหลีก็ไม่มีทางเลือก
หลินหยุนก็เริ่มช่วงทำภารกิจอย่างบ้าคลั่งอีก
และรับห้าภารกิจในครั้งเดียว
สามวันต่อมา หลินหยุนก็กลับมา และก็รับอีกห้าภารกิจ
ยังเป็นสามวัน
สำเร็จทั้งหมด
ภายในครึ่งเดือน หลินหยุนทำภารกิจสำเร็จสิบห้างาน
และคะแนนภารกิจที่เขาสะสมไว้บนตัว ก็บรรลุมากกว่าแปดพัน
เหลือเวลาอีกครึ่งเดือน ก็จะถึงวันประลองของสถาบัน
ในขณะที่ทั่วทั้งสถาบันแทบจะไม่เห็นใครเลย
ลูกศิษย์เกือบทั้งหมดก็กำลังอยู่ท่ามกลางการเก็บตัว
เพราะว่าการประลองของทุกปี ลูกศิษย์ทั้งหมดก็ต้องเข้าร่วม
นี่คือการทดสอบหนึ่งครั้ง
ดังนั้นจึงต้องบีบคั้นเข้มงวด!
หลินหยุนส่งมอบภารกิจ ก็ตรงไปที่หอกลั่นวิญญาณ์!
เมื่อเห็นหลินหยุนมาถึง ผู้อาวุโสก็ไม่ได้แปลกใจ ช่วงนี้สถานการณ์บางอย่างในสถาบัน ก็ปิดบังคนแก่เหล่านี้ไม่ได้
สำหรับตัวตนและสถานการณ์ของหลินหยุน พวกเขาก็รู้ดี
ตอนที่หลินหยุนมาถึง ผู้คนมากมายกำลังรออยู่ คนที่ต้องการเข้าสู่หอกลั่นวิญญาณ์ เห็นได้ชัดว่ามากกว่าเวลาปกติก่อนหน้านี้
เมื่อเห็นหลินหยุน ผู้อาวุโสควักมือให้กับเขา “ไอหนุ่ม เข้ามาสิ!”
หลินหยุนก้าวเดินเข้ามา และพูดขึ้นมาว่า “ผู้อาวุโส ต้องต่อแถวนานแค่ไหน?”
ผู้อาวุโสพูดขึ้นมาว่า “นายไม่ต้องเข้าแถว ทำการคะแนนภารกิจ จากนั้นเข้าไปเถอะ!”
หลินหยุนพยักหน้า ก็ทำคะแนนภารกิจสามพันในทันที
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่หอกลั่นวิญญาณ์
เมื่อเห็นหลินหยุนได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ ลูกศิษย์หลายคนที่ต่อแถวด้านนอกก็ประท้วงทันที “ท่านอู๋ แบบนี้ไม่ถูกต้องนะ? ผมมารอก่อนกลับต้องต่อแถวอยู่ที่นี่ หลินหยุนคนนี้มาช้ากว่ารายการ แต่กลับได้รับอนุญาตเข้ามาในทันที?”
ยังมีคนพูดขึ้นมาว่า “นั่นนะสิ! ท่านอู๋ แม้ว่าหอกลั่นวิญญาณ์นี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของท่าน แต่ว่าท่านก็ไม่สามารถแหกกฎอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ได้?”
“ใช่ ท่านอู๋ ต้องให้คำอธิบายเรื่องนี้กับพวกเรา!”
“ไม่เช่นนั้นเราจะรายงานไปที่สถาบันอย่างแน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...