สีหน้าของผู้อาวุโสเจียงเคร่งขรึม และตะโกนด้วยน้ำเสียงน้ำหนักแน่น “โวยวายอะไรกัน? หากโวยวายเสียงดังอีก ก็ไสหัวออกไปให้พ้น!”
เมื่อเหล่าลูกศิษย์เช่นนี้ ก็หยุดลงมาทั้งหมดในทันที
ผู้อาวุโสเจียงเป็นคนเจ้าอารมณ์มาก นี่เป็นสิ่งที่รู้กันดีในสถาบันทั้งหมด
อย่าว่าแต่ลูกศิษย์อย่างพวกเขาเหล่านี้ แม้แต่ผู้อาวุโสคนอื่นๆก็ยังไม่กล้าที่จะยั่วโมโหอย่างง่ายดาย
ภายในสถาบันทั้งหมด สามารถทำให้ผู้อาวุโสเจียงให้เกียรติได้ แทบจะไม่เกินสามคน
เนื่องจากพลังและสถานะก็อยู่ที่นั่นทั้งหมด
ไม่อย่างนั้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้เธอมาดูแลบ่อเลี้ยงจิตวิญญาณที่สำคัญแห่งนี้
ในขณะนี้ ชายหนุ่มในชุดธรรมดาคนหนึ่ง ก้าวเดินช้าๆมาทางนี้ เมื่อเห็นชายหนุ่ม กลุ่มลูกศิษย์ทั้งหมดก็ทักทาย
“ศิษย์พี่ปี้โหยว!”
“สวัสดีครับศิษย์พี่ปี้โหยว!”
ทุกคนทักทายชายหนุ่มด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเดินไปทางผู้อาวุโสเจียง คารวะแสดงความเคารพ และพูดขึ้นมาอย่างแผ่วเบา “ผู้อาวุโส แม้ว่าจะต้องปิดบ่อเลี้ยงจิตวิญญาณ ก็ต้องแจ้งให้ผมรับรู้ ว่าเหตุผลในนั้นคืออะไรกันแน่ และสามารถที่จะเปิดใหม่ได้เมื่อไหร่ แบบนี้ก็ไม่ถึงกับต้องปล่อยให้ทุกคนรออย่างเปล่าประโยชน์”
ปี้โหยว!
ผู้แข็งแกร่งอันดับสามของลูกศิษย์สถาบัน!
ลูกศิษย์เขาสิ้นทุกข์!
ภายในสถาบันทั้งหมด สถานะสูงมาก
อิทธิพลที่ใหญ่อย่างมาก
ผู้อาวุโสบางคน ก็ต้องให้เกียรติ
เพราะว่าการมีอยู่แบบนี้ ไม่ว่าต่อไปจะอยู่ในสถาบันหรือไม่ ยังเข้าสู่ราชสำนักหรือต่อสู้ในสนามรบหมื่นจักรวาล ก็ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
เป็นของคนที่มีอนาคตไม่จำกัด
เมื่อได้ยินคำพูดของปี้โหยว กลุ่มลูกศิษย์ทุกคนก็ตื่นเต้นทั้งหมด
ดูเหมือนว่าปี้โหยวจะเป็นบุคคลสำคัญ
ผู้อาวุโสเจียงไม่สนใจพวกเขา ไม่ได้ให้ความสำคัญกับพวกเขา แต่นี่คือศิษย์พี่ปี้โหยวเลยนะ น่าจะให้คำอธิบายด้วย?
แต่ว่า สิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงก็คือ เมื่อผู้อาวุโสเจียงได้ยินเช่นนี้อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย สายตาก็จับจ้องไปที่ปี้โหยว และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไม? นี่นายกำลังตั้งคำถามกับฉันเหรอ?”
ปี้โหยวโค้งคำนับ พูดอย่างแผ่วเบาว่า “ลูกศิษย์ไม่กล้า แต่ว่าลูกศิษย์ก็แค่อยากทราบ เหตุผลที่ปิดบ่อเลี้ยงจิตวิญญาณอย่างกะทันหันเท่านั้นเอง และยังหวังว่าผู้อาวุโสจะแจ้งให้ทราบ!”
ผู้อาวุโสเจียงตะโกนด้วยน้ำเสียงโกรธ “ฉันจะบอกแกบ้าอะไร! ไอ้เด็กเปรต ยังพยายามทำเป็นอ้อมค้อมกับฉัน ไสหัวไปให้พ้น ไม่อย่างนั้นกูไม่เกรงใจมึงแล้ว”
เดิมทีผู้อาวุโสเจียงก็โมโห แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลังจากที่ออกมาถูกคนพวกนี้โวยวายก็ยิ่งโมโหมากขึ้น
สุดท้ายปี้โหยวก็ออกมา และยังอยากจะตั้งคำถามกับตัวเองด้วย
หรือว่าช่วงนี้ตัวเองไม่ได้ต่อสู้กับคน
เด็กเปรตกลุ่มนี้ในสถาบัน ลืมนิสัยของตัวเองไปแล้วเหรอ?
หน้าด้านจริงๆ!
ปี้โหยวยังคงสงบจิตสงบใจ ท่าทางมีมารยาทและสุภาพเรียบร้อย และพูดด้วยน้ำเสียงอย่างแผ่วเบา “ผู้อาวุโสเจียง ผมคิดว่าเหล่าลูกศิษย์ต้องการคำอธิบาย ก็น่าจะเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”
“ถ้าผู้อาวุโสไม่สามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้ เหล่าลูกศิษย์ทำได้เพียงแค่รายงานกับสถาบันเท่านั้น!”
เปลือกตาผู้อาวุโสเจียงกระตุก ยิ้มในทันที และพูดขึ้นมา “รายงานกับสถาบันเหรอ? ได้สิ! ไปเดี๋ยวนี้เลย รีบไสหัวออกจากตรงหน้ากูซะ! ปี้โหยว แกคิดว่าแกปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหม? ขนาดกูก็กล้ามาท้าทาย?”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ลมปราณบนตัวของผู้อาวุโสเจียงก็ระเบิดออกมาทันที หันหน้ามองไปทางเขาสิ้นทุกข์ด้วยสายตาที่เย็นชา และตะโกนด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เซี่ยอู๋โยว นี่ก็คือลูกศิษย์ที่แกสั่งสอนออกมาเหรอ? แกรีบไสหัวมาเดี๋ยวนี้! ภายในสามวินาทีหากแกไม่มา กูจะทำลายเขาสิ้นทุกข์ของแก!”
เสียงของผู้อาวุโสเจียงดังมาก เหมือนเสียงระเบิดดังสนั่น กระจายไปทั่วทั้งสถาบัน
ทุกคนตกใจ ตามด้วยมองไปทางบ่อเลี้ยงจิตวิญญาณ
ผู้อาวุโสเจียงก็บ้าขึ้นมาอีกแล้ว?
ในไม่ช้า แสงสีฟ้าก็พุ่งออกมาจากเขาสิ้นทุกข์ และในชั่วพริบตาก็มาถึงบ่อเลี้ยงจิตวิญญาณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...