นิ่งไปชั่วครู่ ผู้อาวุโสเจียงพูดต่อไปว่า “แต่ว่า แค่พูดออกมาจากปาก งั้นก็คัดค้านอะไรไม่ได้ ภายนอก ไท่จื่อดูเหมือนจะเหนือกว่า แต่องค์ชายสามไม่ใช่คนอ่อนแอที่รังแกได้ง่ายๆ คำโบราณกล่าวไว้ได้ดี กล่าวไว้ว่าหมาเห่าไม่กัด!”
“ไท่จื่ออยากสืบราชบัลลังก์ให้สำเร็จ งั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างแน่นอน ไม่พูดถึงอย่างอื่น ตอนนี้แม้แต่สถาบันก็กำลังสั่นไหวไม่มั่นคง!”
“นายคิดว่าเขามีโอกาสชนะจริงๆมากแค่ไหน?”
“อย่างน้อยบอกว่ารอได้ฝึกวิชาสำเร็จแล้วกลับมา นั่นก็เป็นเรื่องที่ว่าไม่รู้เมื่อไหร่!”
“รอไม่ไหว!”
หลินหยุนขมวดคิ้ว ไม่รู้ทำไมจู่ๆอีกฝ่ายในเวลานี้ อยู่ที่นี่ จะพูดเรื่องราวแย่งชิงบัลลังก์กับเขา!
แต่ว่าหลินหยุนยังเอ่ยปากถามไถ่ว่า “ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสคิดอย่างไร?”
ผู้อาวุโสเจียงพูดขึ้นมาว่า “ง่ายมาก นายชนะการประลองสถาบัน จากนั้นค่อยให้สถาบันแสดงท่าที สนับสนุนไท่จื่อ สถาบันออกหน้ากำราบอำนาจของสำนักใหญ่ต่างๆ!”
“แบบนี้ ก็ไม่ต้องรอให้ฝึกวิชาสำเร็จแล้วกลับมา ไท่จื่อก็สามารถสืบทอดบัลลังก์ได้!”
หลินหยุนขมวดคิ้วพูดว่า “ต่อให้ผมกำราบคนของฝ่ายองค์ชายสามได้ ผมก็ไม่สามารถควบคุมท่าทีของสถาบันได้?”
ผู้อาวุโสเจียงหัวเราะฮ่าฮ่า และพูดขึ้นมาว่า “นั่นมันก็แน่นอนอยู่แล้ว! แต่ว่า นายควบคุมไม่ได้ มีคนสามารถควบคุมมันได้!”
หลินหยุนก็มองไปทางอีกฝ่ายอย่างกะทันหัน
ผู้อาวุโสเจียงพยักหน้าพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถูกต้อง นั่นก็คือฉัน! ฉันไม่เพียงสามารถช่วยให้นายทำให้สถาบันแสดงท่าที ยังสามารถทำให้นายอยู่ในการประลองกำราบองค์ชายสามได้อย่างมั่งคั่ง!”
“คุณรู้ได้อย่างไร?”
เมื่อได้ยินหลินหยุนเช่นนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะเผยให้เห็นสายตาที่สงสัยเล็กน้อย
ผู้อาวุโสเจียงก็พูดขึ้นมาว่า “ไอหนุ่ม ไม่ต้องสงสัยอะไร ฉันบอกว่าฉันทำได้ งั้นก็ย่อมทำได้ นายแค่พูดว่า อยากทำหรือไม่ก็พอ!”
หลินหยุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดขึ้นมาว่า “งั้นผู้อาวุโสต้องการทำอะไร?”
ผู้อาวุโสเจียงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “นี่ก็ถูกต้องแล้ว อันที่จริงสิ่งที่ฉันต้องการนั้นง่ายดายมาก ถ้าหากนายไปที่สนามรบหมื่นจักรวาล ฉันต้องการให้นายทำสิ่งหนึ่งให้ฉัน!”
หลินหยุนพูดขึ้นมาว่า “ทำอะไร?”
ผู้อาวุโสเจียงพูดขึ้นมาว่า “ไม่ต้องกังวล นายแค่รับปากก็พอ! บอกตอนนี้นายก็ทำไม่ได้ เผยแพร่ออกไปก็ไม่ดี! รอตอนที่นายไปที่สนามรบหมื่นจักรวาลอย่างแท้จริง ฉันค่อยบอกกับนาย!”
หลินหยุนก็พูดอย่างไม่คิด “ก็ได้! ผมรับปาก!”
เมื่อผู้อาวุโสเจียงได้ยินเช่นนี้ก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจอย่างมาก และพูดขึ้นมาว่า “นี่ก็รับปากเลยเหรอ? นายไม่อยากรู้จริงๆเหรอว่าฉันให้นายไปทำเรื่องอะไร?”
หลินหยุนพูดอย่างราบเรียบว่า “เรื่องอะไรก็ไม่สำคัญ! ขอแค่ผมทำได้!”
ผู้อาวุโสเจียงหัวเราะฮ่าฮ่าอย่างมีความสุขขึ้นมา และพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “ดี! เด็กดี! ฉันยิ่งอยู่ยิ่งถูกใจนายจริงๆ!”
“อีกสามวันไปหาฉันที่หลังเขา”
“ด้วยผลการฝึกตนตอนนี้ของนาย ยังกำราบสองคนทางนั้นไม่ได้!”
หลังจากที่พูดจบ ร่างของผู้อาวุโสเจียงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และหายไปจากที่เดิม
และหลินหยุนก็ออกไปทันที กลับไปที่ถ้ำของตัวเอง
คราวนี้เข้าสู่บ่อเลี้ยงจิตวิญญาณ และเขาก็ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก
บรรลุถึงจิตปฐมหลังบริบูรณ์ทั้งหมด
ต่อมา ก็สามารถเตรียมพร้อมทะลวงแดนดั่งเทพ!
แต่ว่าจิตปฐมดั่งเทพ ไม่ง่ายดายเลย
หลังจากที่ต้องการทะลวง กระโดดกลายเป็นแข็งแกร่งก็ยิ่งไม่ง่าย!
จิตปฐมดั่งเทพ ต้องการสิ่งรองรับ
ไปแบกรับพลังของดั่งเทพ
และการเลือกของสิ่งรองรับก็เป็นขั้นตอนที่ยากมาก
สิ่งรองรับก็ไม่เพียงแต่ทรงพลังอย่างมากเท่านั้น!
ยังต้องเหมาะสมกับตัวเองอย่างดี!
ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เกี่ยวข้องกับอนาคตด้วย
การเลือกสิ่งรองรับที่เหมาะสมได้ ตอนที่ทะลวงสู่ธรรมะในอนาคต ก็ง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง ก็จะทรงพลังเป็นอย่างมาก!
แต่ถ้าหากไม่ใช่สิ่งรองรับที่เหมาะสม ถ้าอย่างนั้นก็จะลำบากมากในอนาคต
สิ่งรองรับไม่เพียงแต่แบกรับพลังการเปลี่ยนแปลงจิตปฐมเท่านั้น ก็ยังต้องแบกรับกฎเกณฑ์ด้วย!
เหตุผลที่จำเป็นต้องมีสิ่งรองรับที่ทรงพลัง ก็เป็นเพราะว่าสิ่งรองรับยิ่งทรงพลังเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถที่จะแบกรับกฎเกณฑ์ได้มากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...