เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า
ทั้งภายในและภายนอกราชสำนัก ต่างก็เงียบสงบลงไปโดยสิ้นเชิง
ทางฝ่ายขององค์ชายสาม ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย!
ฝ่ายของไท่จื่อ ก็เช่นเดียวกัน
ยิ่งทางสถาบันก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน!
ทุกคนทุกฝ่ายเหมือนจะหยุดทุกการกระทำและการเคลื่อนไหว!
กำลังรอคอยอะไรกันอยู่เหรอ
และในเวลานี้เอง ผู้หญิงสองคน ทั้งที่เป็นผู้ใหญ่และเด็ก ก็ได้มาถึงด้านล่างของปลายเขาที่เป็นที่ตั้งของสถาบัน
หลังจากลูกศิษย์ที่เฝ้าอารักขาภูเขาสอบถามความประสงค์ที่ผู้หญิงทั้งสองคนมายังที่นี่แล้ว ก็รีบขึ้นไปบนเขาเพื่อแจ้งให้กับหลินหยุนทราบ
หลินหยุนเองก็คาดคิดไม่ถึงเลยว่า
หญิงทั้งสองคนจะมาหาเขาในเวลานี้
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก ก็ได้เดินออกมาจากวิมาน
ที่ปลายเขา
ทั้งสามคนได้พบเจอกัน
โม่หยู่มีท่าทางที่กระสับกระส่ายอยู่บ้าง เหมือนจะต้องการเข้ามาทักทายหลินหยุนด้วยความอบอุ่น และพูดสอบถามอะไร แต่เมื่อเธอมองไปเห็นคู่ดวงตาของหลินหยุนแล้วนั้น ความกล้าหาญที่ได้รวบรวมขึ้นอย่างยากเย็นก็พลันสูญสิ้นไปทั้งหมด
เมื่อเห็นโม่หยู่มีท่าทางแบบนี้ ซินเอ๋อที่อยู่ด้านหลังก็เดินขึ้นมาด้านหน้า และพูดกับหลินหยุนอย่างยิ้มแย้มว่า “พี่หลินหยุน คือคุณเองจริง ๆ ด้วย! ”
“ในช่วงเวลาที่ฉันกับพี่โม่หยู่เดินทางตระเวนไปทั่วนั้น ต่างก็ได้ยินผู้คนพูดถึงชื่อของคุณอยู่เป็นประจำ เดิมทีพวกเราก็แค่คิดว่า เป็นคนที่มีชื่อเดียวกันกับพี่หลินหยุนเท่านั้น! ”
“ต่อมาพี่โม่หยู่ก็พูดว่าผู้ที่สามารถทำให้เกิดความเคลื่อนไหวอย่างยิ่งใหญ่ในเขตกลางฟ้าได้นั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นพี่หลินหยุนอย่างไม่ต้องสงสัย! ”
“ทั้งที่พี่โม่หยู่พูดแบบนี้แล้ว ฉันเองก็ยังไม่เชื่อ เธอจึงได้พาฉันมาที่สถาบันเพื่อตามหา! ”
“คิดไม่ถึงเลยว่า จะเป็นพี่หลินหยุนจริง ๆ ด้วย! ”
ซินเอ๋อค่อนข้างจะตื่นเต้นอยู่บ้าง ดวงตาที่มีขนาดใหญ่และสดใสทั้งสองข้างนั้น กระพริบเป็นประกาย มองดูแล้วช่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสาอย่างที่สุด!
แต่เมื่อหลินหยุนได้ยินดังนั้น ดวงตาก็พลันเบิกกว้าง และพูดถามขึ้นว่า “พวกเธอมาหาฉันมีธุระอะไรเหรอ? ”
ในเมื่อตอนนั้นหญิงทั้งสองคนได้ตัดสินใจที่จะแยกจากไป แล้วในตอนนี้ ก็ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว
ความสัมพันธ์เพียงอย่างเดียวก็คือมีสายเลือดดาวไกอาเหมือนกัน
เพียงแค่นี้เท่านั้น!
สำหรับพวกผู้บำเพ็ญเซียนสายเลือดดาวไกอาที่อยู่ในดินแดนที่หนาวเย็นนั้น ตอนนี้หลินหยุนยังคงไม่สามารถที่จะไปจัดการช่วยเหลือได้!
นอกจากว่าจะรอให้ไท่จื่อขึ้นครองบัลลังก์อย่างเป็นทางการแล้ว แบบนั้น ก็คงจะพอมีโอกาสอยู่บ้าง!
ตอนนี้ เขามองออกอย่างชัดเจนแล้วว่า
นิกายวิญญาณ์บริสุทธิ์ สำหรับในเขตกลางฟ้าแล้ว อันที่จริงก็เป็นแค่สำนักระดับสองเท่านั้น
ที่สามารถลงมือจัดการกับเผ่ามนุษย์ดาวไกอาได้นั้น ก็เป็นเพราะคำสั่งของราชวงศ์!
นี่ไม่ใช่เรื่องราวที่ธรรมดา
อีกทั้ง เรื่องนี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่กษัตริย์องค์ก่อนยังคงมีชีวิตอยู่
จวบจนวันนี้ไท่จื่อเองก็ยังไม่ได้ขึ้นครองบัลลังก์ จึงไม่สามารถที่จะจัดการแก้ไขเรื่องนี้ได้!
แม้ว่าจะรอให้ไท่จื่อขึ้นครองบัลลังก์แล้ว สำหรับคำสั่งของกษัตริย์องค์ก่อน จะสามารถแก้ไขได้หรือไม่นั้น ก็ยังไม่อาจพูดได้อยู่ดี!
แต่ก็ยังถือว่าพอมีโอกาสอยู่บ้าง!
ถึงแม้จะไม่สามารถแก้ไขได้ในเร็ววัน แต่สามารถที่จะทำให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้บ้างในแดนเหมันต์ โดยไม่ให้นิกายวิญญาณ์บริสุทธิ์ไปไล่ล่าสังหารอีก แค่นี้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว!
เห็นท่าทางของหลินหยุนแล้ว โม่หยู่ก็รีบเดินขึ้นมาด้านหน้า และพูดว่า “พี่หลินหยุน ที่จริงพวกเรา......”
ไม่ทันรอให้เธอพูดจบ หลินหยุนก็ยกมือขึ้นขวางไว้ และพูดว่า “ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก ฉันเคารพในการตัดสินใจของพวกเธอ พูดมาสิ ที่มาหาฉันมีธุระอะไรกัน? ”
โม่หยู่ก้มหน้าและพูดขึ้นอย่างหมดหวัง “พี่หลินหยุน ฉันกับซินเอ๋อยังต้องการที่จะติดตามอยู่ข้างกายของคุณ! หวังว่าพี่หลินหยุนจะตอบตกลงด้วย! ”
หลินหยุนพูดว่า “เวลานี้ฉันคือลูกศิษย์ของสถาบัน! ซึ่งไม่สะดวกที่จะให้พวกเธอติดตามอยู่ข้างกาย ดังนั้น เรื่องนี้ก็ไม่ต้องพูดอะไรกันมากแล้ว! ”
โม่หยู่เหมือนจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหลินหยุนจะต้องพูดออกมาในลักษณะนี้ จึงรีบพูดต่อว่า “ฉันทราบดี พี่หลินหยุน สถานที่อย่างสถาบันนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเราจะสามารถเข้ามากันได้ง่าย ๆ แต่พี่หลินหยุนเพียงแค่ให้ฉันกับซินเอ๋อไปอยู่ด้วยกันกับพี่ฉินหลันก็เพียงพอแล้ว! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...