องค์หญิงเก้าได้ยินดังนั้น ก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “ทำไมถึงไม่ต้องการให้ฉันหาสถานที่เงียบสงบแล้วเหรอ? ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ตอนนั้นกับตอนนี้มันแตกต่างกัน ก่อนหน้านี้ถ้าหากไม่มีองค์หญิงเก้า สำหรับไท่จื่อแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้มองว่า ควรจะมีองค์หญิงเก้าจึงจะเป็นการดีที่สุด! ดังนั้นจึงไม่ต้องหาสถานที่สงบเงียบอะไรอีกแล้ว! ”
องค์หญิงเก้ามองไปที่หลินหยุนอย่างลึกซึ้งในทันที “นายนี่ช่างตรงไปตรงมาเสียจริง! ”
หลินหยุนยิ้มและพูดขึ้นว่า “ฉันก็เป็นคนแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว! ”
เมื่อพูดจบ ก็ออกไปจากโรงเหล้าในทันที
ช่วงเช้าของวันถัดมา องค์หญิงเก้าก็มาถึงสถาบัน
แล้วก็ตรงไปยังวิมานของหลินหยุน
หลังจากที่เข้าไปด้านในแล้ว ก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย......
เป็นเวลาสิบวันติดต่อกัน
องค์หญิงเก้าไม่ได้ออกมาด้านนอกเลยแม้เพียงครั้งเดียว
วิมานของหลินหยุนก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนขึ้นในทันที
ลูกศิษย์ของสถาบันต่างก็งุนงงกันไปทั้งหมด!
เป็นที่ทราบกันว่า องค์หญิงเก้านั้นเป็นคนของฝ่ายองค์ชายสาม
ส่วนหลินหยุนเป็นคนของฝ่ายไท่จื่อ!
คิดไม่ถึงว่าสองคนนี้ จะมาลงเอยร่วมกันได้
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อนเลย
ทางฝ่ายของไท่จื่อเองนั้นก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
เขาทราบดีว่าหลินหยุนนั้นรับรู้ว่าองค์หญิงเก้าอยู่ฝ่ายเดียวกันกับเขา
แต่ การที่ทั้งสองคนอยู่ร่วมกันอย่างเปิดเผย ไม่มีการปกปิดแม้แต่น้อยแบบนี้ ก็ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ค่อยสบายใจอยู่เหมือนกัน
แต่ทางหลินหยุนกับองค์หญิงเก้านั้นไม่ได้ไปสนใจเรื่องราวเหล่านี้
เวลานี้หลินหยุน ก็ยังคงมุ่นมั่นรักษาอาการป่วยขององค์หญิงเก้าอยู่
โรคร้ายในร่างกายขององค์หญิงเก้านั้น รักษายากอย่างยิ่ง
ซึ่งเป็นโรคร้ายที่มีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด!
ถือว่าเป็นอาการผิดปกติที่มีมาตั้งแต่กำเนิด
น่าจะได้รับบาดเจ็บอย่างหนักตอนที่อยู่ในครรภ์มารดา
ดังนั้นเมื่อกำเนิดออกมาก็มีโรคร้ายนี้ติดตัวตามมาด้วย
การที่หลินหยุนจะรักษาให้หายนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย
จนกระทั่งถึงวันที่สิบ องค์หญิงเก้าก็ได้ส่งเสียงร้องโอดครวญอันเจ็บปวดขึ้น
จึงดึงดูดความสนใจของทุกคนในสถาบันทันที
แต่ในขณะนั้นเอง สถานที่ต้องห้ามด้านหลังภูเขาก็เกิดเสียงร้องดังลั่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ลูกศิษย์ทุกคนในสถาบันต่างก็ตื่นตะลึงกันขึ้นโดยพลัน
กลุ่มยอดฝีมือผู้บริหารระดับสูง ต่างก็ออกมาจากวิมานและยอดเขาของตนเองในทันที พร้อมกับเหาะเหินมุ่งหน้าไปยังสถานที่ต้องห้ามนั้นโดยเร็ว
ภายในวิมานของหลินหยุน
องค์หญิงเก้าในเวลานี้มีสีหน้าที่ขาวซีดอย่างที่สุด ทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยรอยคราบเลือดสีดำ
แต่ในตอนนี้กลิ่นอายลมหายใจแห่งชีวิตของเธอนั้นค่อนข้างจะสมบูรณ์เป็นหนึ่งเดียวกันมากขึ้นแล้ว
ได้ยินเสียงดังสะเทือนเลือนลั่นและความเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้น องค์หญิงเก้าก็มองมาที่หลินหยุนทันที แล้วร่างกายก็หายวับออกไปจากวิมาน หลินหยุนจึงรีบตามออกไป ซึ่งทั้งสองคนได้มุ่งหน้าไปยังสถานที่ต้องห้ามด้านหลังภูเขานั้น
ขณะที่ทั้งสองคนมาถึง
หินศิลาที่เดิมทีตั้งตระหง่านอยู่อย่างสงบนิ่ง ก็ได้เกิดการสั่นไหวขึ้นอย่างรุนแรง ไม่นานนัก ด้านหลังของหินศิลาก็ปรากฏช่องทางเส้นหนึ่งขึ้น
จากนั้นกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงอย่างที่สุด ก็ได้ส่งกลิ่นกระจายออกมาจากช่องทางนั้น
หลังจากนั้น ทุกคนก็มองเห็น เงาร่างร่างหนึ่งที่ผอมบางและเต็มไปด้วยเลือด ได้คืบคลานอย่างยากลำบากออกมาจากช่องทางดังกล่าวนั้น
“ศิษย์พี่! ”
“ศิษย์น้อง! ”
“......”
ฟางเอี่ยน รวมไปถึงท่านอู๋และท่านหลิว เห็นแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่าคนผู้นั้นคือผู้อาวุโสเจียง
จึงได้รีบเข้าไปประคองร่างของผู้อาวุโสเจียงขึ้นจากพื้น
ร่างกายและลมหายใจของผู้อาวุโสเจียงนั้นอ่อนแออย่างมาก แต่เวลานี้กลับอยากที่จะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่มีแรงกำลังที่จะหัวเราะออกเสียงแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...