จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1649

สรุปบท บทที่ 1649 ข้อเรียกร้อง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 1649 ข้อเรียกร้อง – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 1649 ข้อเรียกร้อง ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“เรื่องนี้ นายพิจารณาเอาเองเถอะ! ”

“แต่ว่าฉันก็ยังคงยืนยันคำเดิม ต่อให้นายจะไม่พูดออกมา ฉันก็ยังคงจะปกป้องคุ้มครองนายอย่างเต็มที่! แต่ท้ายที่สุดจะปกป้องคุ้มกันได้หรือไม่นั้น ฉันเองไม่สามารถที่จะรับประกันอะไรได้! ”

หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องขอบคุณไท่จื่อเป็นอย่างมากเลย! ฉันขอพิจารณาเรื่องนี้ก่อนแล้วค่อยมาว่ากันอีกครั้ง! ”

เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็ออกไปจากพระราชวัง กลับไปยังตำหนักไท่จื่อ

โดยที่ไม่ได้กลับไปสถาบันอีก

เพราะว่าตอนนี้สำหรับเขาแล้ว ตำหนักไท่จื่อ คือสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับตัวเขามากที่สุด

อีกทั้งฉินหลันก็ยังอยู่ในตำหนักไท่จื่อด้วย

เขาไม่ได้พูดอะไรกับไท่จื่ออีก ดาวไกอาในตอนนี้ ก็เป็นเพียงแค่ยุคเสื่อมธรรม!

และก็ไม่ได้ไปพูดว่า ที่จริงแล้วดาวไกอานั้นก็ไม่ได้มีการสืบทอดที่แข็งแกร่งอะไรอยู่เลย!

เพราะว่าเรื่องดังกล่าวนี้ จะพูดหรือไม่พูด ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแม้แต่น้อย!

ซึ่งคงไม่มีผู้ใดเลือกที่จะเชื่อในคำพูดของเขาอยู่แล้ว!

ดั่งที่ไท่จื่อพูดเอาไว้ว่า

ทุกคนต่างก็ต้องการไปยังดาวไกอา

ทุกคนต่างก็ต้องการที่จะได้รับการสืบทอดที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานกันทั้งนั้น!

เห็นหลินหยุนกลับมาแล้ว ฉินหลันก็รีบออกมาต้อนรับอย่างดีอกดีใจ และพูดว่า “เสี่ยวหยุน ในที่สุดนายก็กลับมาแล้ว! ”

หลินหยุนพยักหน้า ยิ้มเล็กน้อย แล้วก็เดินเข้าไปโอบกอดฉินหลันเอาไว้ในอ้อมอก

ฉินหลันเหมือนจะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนไปของหลินหยุน จึงได้สอบถามขึ้น ขณะที่อยู่ในอ้อมอกหลินหยุน “เสี่ยวหยุน เป็นอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ? ”

หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดว่า “ไม่มีอะไร พี่ฉินหลัน ฉันรู้สึกเหนื่อย อยากที่จะพักผ่อนสักครู่! ”

ฉินหลันรีบพูดขึ้นว่า “ตกลง งั้นก็รีบเข้าไปในห้องเถอะ! ”

เมื่อกลับมาถึงห้องพัก หลินหยุนก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาลงทันที

และดวงตาก็แสดงเจตนาสังหารที่ไร้ขีดจำกัดขึ้นโดยพลัน

แต่ไม่นานนัก เจตนาสังหารก็ค่อย ๆ มลายหายไป

สาวน้อยคนนั้นยังไม่ถึงกับที่เขาต้องลงมือจัดการหรอก!

เรื่องที่หลินหยุนเป็นผู้บำเพ็ญเซียนดาวไกอานั้น เพียงแค่คนที่ตั้งใจคิดไตร่ตรอง ไม่นานก็คงจะเข้าใจได้ว่า เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปได้อย่างไร

เพียงแค่คิดถึงตรงจุดนี้แล้ว ก็คงจะต้องไปสืบค้นอย่างแน่นอน

หนึ่งคนหรือสองคน หนึ่งสำนักหรือสองสำนัก บางทีเมื่อทำการสืบค้น อาจจะยังมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่เมื่อผู้บำเพ็ญเซียนทุกคนต่างก็เข้าร่วมมากันทั้งหมดแล้ว

อย่างนั้นก็คงไม่สามารถที่จะปิดบังหลบซ่อนอะไรได้เลย

ต่อให้หญิงทั้งสองคนนั้นจะหลบซ่อนตัวอย่างดีแค่ไหน ก็คงจะเปล่าประโยชน์แน่นอน!

ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปลงมือจัดการเลย!

เวลานี้ เขาจำเป็นที่จะต้องคิดว่าจะแก้ไขรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างไร

ครุ่นคิดไปมา ก็มีอยู่เพียงวิธีเดียวเท่านั้นคือต้องไปยังสนามรบหมื่นจักรวาล

คิดถึงตรงนี้แล้ว หลินหยุนก็รีบออกไปจากห้องพัก เพื่อไปหาไท่จื่อเฟย

ในเวลาเดียวกัน ก็ได้ส่งข่าวไปให้องค์หญิงเก้ารับทราบ

เมื่อพบกับไท่จื่อเฟย หลินหยุนก็ไม่ได้อ้อมค้อม พูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ขอให้ไท่จื่อเฟยแจ้งกับไท่จื่อหน่อยว่า ฉันจะไปยังสนามรบหมื่นจักรวาล! ”

เมื่อพูดจบ หลินหยุนก็กลับไปยังลานที่พัก และก็ได้รับข้อความตอบกลับจากองค์หญิงเก้า

หลินหยุนรีบที่จะส่งข้อความกลับทันที ซึ่งเป็นเนื้อหาเดียวกับที่พูดกับไท่จื่อเฟย เพื่อให้องค์หญิงเก้าคิดหาวิธีส่งตัวเขาและฉินหลันไปยังสนามรบหมื่นจักรวาล!

ไม่นานนัก องค์หญิงเก้าก็ตอบข้อความกลับมาว่า “ถึงแม้จะไปที่สนามรบหมื่นจักรวาล เขาก็ไม่มีทางที่จะหนีรอดไปได้! เพราะว่าในสนามรบหมื่นจักรวาลนั้นก็ล้วนแต่เป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่มาจากแต่ละสำนักใหญ่”

“ดังนั้นจะไปหรือไม่ไป ก็ไม่แตกต่างอะไรกัน! ”

หลินหยุนพูดขึ้นว่า “เพียงแค่สามารถส่งตัวเขาและฉินหลันไปยังสนามรบหมื่นจักรวาลได้ ก็เท่ากับว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณของเขาที่ได้ช่วยชีวิตเอาไว้! ”

สุดท้าย องค์หญิงเก้าก็ตอบกลับมาเพียงว่า “จะพยายาม! ”

เวลานี้ ความต้องการของหลินหยุนนั้นก็ได้ส่งต่อไปถึงตำหนักบูรพาของไท่จื่อแล้ว

เมื่อเจ้าสำนักนิกายวิญญาณ์บริสุทธิ์เพิ่งจะกลับออกไป องค์หญิงเก้าก็มาถึง

เมื่อเห็นองค์หญิงเก้า ไท่จื่อก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “ฉันรู้อยู่แล้วว่า เธอจะต้องมาแน่นอน! ”

องค์หญิงเก้าเองก็ไม่พร่ำเพรื่อ โดยได้พูดขึ้นว่า “เรื่องที่หลินหยุนต้องการจะไปยังสนามรบหมื่นจักรวาลนั้น เสด็จพี่คงจะทราบแล้วใช่ไหมล่ะ? ”

ไท่จื่อพยักหน้า และพูดว่า “ฉันทราบแล้ว! แต่ว่า ต่อให้ไปที่นั่นจริง ๆ แล้วจะอย่างไรล่ะ? มันมีความแตกต่างอะไรอย่างนั้นเหรอ? ”

องค์หญิงเก้าพูดว่า “ตอบตกลงเขาไปเถอะ! ”

ไท่จื่อได้ยินดังนั้นก็ดวงตาเป็นประกาย และพูดขึ้นว่า “ลองพูดมาหน่อยสิ? ”

องค์หญิงเก้าพูดว่า “เสด็จพี่น่าจะยังไม่รู้ว่าใช่ไหมล่ะว่า ที่สถาบันราชภัฏแสดงท่าที ฝักใฝ่สนับสนุนทางเสด็จพี่นั้น นั่นก็เป็นเพราะหลินหยุน? ”

ไท่จื่อก็พลันตกใจขึ้นและพูดว่า “อะไรนะ? ”

องค์หญิงเก้าดวงตาเป็นประกายและพูดขึ้นว่า “เสด็จพี่ไม่ต้องทำเป็นตื่นตกใจไป! เรื่องนี้ คนส่วนใหญ่ไม่รับรู้ก็ถือเป็นเรื่องปกติ แต่เสด็จพี่ทำไมถึงยังไม่รับรู้ล่ะ? ”

“ก่อนหน้าที่หลินหยุนจะแสดงท่าทีตอนที่อยู่ในสถาบันนั้น ในขณะการประลองเขาได้กดดันทางฝ่ายขององค์ชายสามเอาไว้”

“จากนั้นก็ช่วยเหลือสถาบันให้มาอยู่ทางฝ่ายของเสด็จพี่! ”

“ช่วยให้เสด็จพี่ครอบครองสถานะองค์ชายอย่างมั่นคงโดยที่ไม่ต้องมีการสู้รบ! ”

“รอคอยให้เวลานั้นมาถึง ก็สามารถขึ้นครองบัลลังก์ได้เลย! ”

“นี่เป็นเรื่องที่คนส่วนมากต่างก็รับรู้รับทราบกัน! ”

“ถ้าหากแม้แต่ความปรารถนาเพียงเล็กน้อยเสด็จพี่ก็ยังไม่สามารถที่จะตอบตกลงกับเขาได้ อย่างนั้นภาพลักษณ์ของเสด็จพี่ในสายตาของคนในใต้หล้านั้น คงจะตกต่ำลงอย่างรวดเร็วเป็นแน่! ”

“ยิ่งไปกว่านั้น ดั่งคำพูดของเสด็จพี่ที่ได้กล่าวเอาไว้ว่า ถ้าจะส่งตัวเขาไปยังสนามรบหมื่นจักรวาลแล้วจะอย่างไร? ”

“มีความแตกต่างอะไรกันไหม? ”

“ก็ไม่เห็นจะมีเลย! ”

“ในทางกลับกันหากเสด็จพี่คิดต้องการที่จะลงมือจริง ๆ แล้วล่ะก็ ในสนามรบหมื่นจักรวาลนั้น กลับยิ่งจะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คนเลย! ”

“นี่ไม่ใช่ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวหรอกเหรอ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์