อ่านสรุป บทที่ 1650 ขลุ่ยหยก จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บทที่ บทที่ 1650 ขลุ่ยหยก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ไท่จื่อครุ่นคิดอยู่สักพักใหญ่ แล้วก็พยักหน้า “น้องเก้าพูดได้อย่างมีเหตุผล แต่เรื่องนี้ในตอนนี้นั้น ฉันไม่อาจที่จะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้แล้ว! ”
องค์หญิงเก้าได้ยินดังนั้น ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความเย็นชา “ใครจะกล้ามาบังคับ ทำให้เสด็จพี่ต้องตกอยู่ในสภาพที่ไร้มนุษยธรรมและไร้ความยุติธรรมด้วย! พวกคนแบบนี้ ปล่อยให้มีชีวิตอยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์! ”
ไท่จื่อถอนหายใจ และพูดขึ้นอย่างจำใจว่า “พูดน่ะมันง่าย ถ้าหากมีเพียงแค่หนึ่งคนหรือสองคน หรือต่อให้มีเป็นสิบคน ก็ไม่ถือว่าหนักหนาอะไร แต่เรื่องของหลินหยุนนี้ เกรงว่าทุกคนคงจะไม่ตกลงที่จะให้ทำแบบนี้เป็นแน่”
องค์หญิงเก้าขมวดคิ้วขึ้นและพูดว่า “แม้แต่ความกล้าหาญเพียงเท่านี้ก็ยังไม่มีเหรอ? เสด็จพี่อย่าลืมนะว่า ยังมีองค์ชายสามอยู่อีกคน ถ้าหากยังรับประกันความปลอดภัยของหลินหยุนไม่ได้ แล้วจะสามารถรับประกันความปลอดภัยของเขาได้อย่างนั้นเหรอ? ”
“ถ้าหากแม้แต่ชีวิตของพวกเขายังปกป้องเอาไว้ไม่ได้ แล้วราชวงศ์นี้จะมีอยู่ต่อไปเพื่ออะไร? ”
“ถ้าหากเสด็จพี่ยังคงรู้สึกว่าลำบากใจ ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงจะต้องไปเชิญให้เสด็จอาช่วยเหลือแล้ว! ”
ได้ยินคำว่าเสด็จอา ไท่จื่อก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที และรีบพูดขึ้นว่า “อย่าเอะอะโวยวายไป! ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ให้กับกษัตริย์องค์ก่อน น้องสาวคิดว่าฉันเองไม่อยากที่จะขึ้นปกครองใต้หล้าเหรอ? ไม่อยากที่จะไร้การขัดขวางอย่างนั้นเหรอ? แต่ตอนนี้ฉันยังทำแบบนั้นไม่ได้! เรื่องแค่นี้เธอก็ยังไม่เข้าใจอีกใช่ไหม? ”
องค์หญิงเก้าหัวเราะเยาะ “ตอนนี้มีสถาบันให้การสนับสนุน แต่เสด็จพี่อย่าลืมนะว่า เรื่องนี้ สถาบันยังไม่ได้แสดงท่าทีอะไร หลินหยุนก็ยังคงเป็นลูกศิษย์ของสถาบันอยู่! ”
ไท่จื่อได้ยินดังนั้นก็คิดไตร่ตรองอีกครั้ง ผ่านไปสักครู่ ก็พยักหน้า “พูดได้ถูกต้อง เรื่องนี้ยังคงต้องดูท่าทีของทางสถาบันก่อน ไม่รีบร้อน ตอนนี้ทุกอย่างยังคงไม่มีผลสรุปที่แน่นอน! ปล่อยให้เขาอยู่ในตำหนักไท่จื่อไปก่อนแล้วกัน”
ขณะที่พูด เขาก็มองไปที่องค์หญิงเก้าและพูดว่า “น้องเก้า เธอไปยังสถาบันหน่อยแล้วกัน ไปดูสิว่าทางสถาบันมีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง”
“แต่เธอห้ามที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามโดยเด็ดขาด! ”
“เรื่องนี้มีความเกี่ยวพันกับหลายสิ่งหลายอย่าง แม้ฉันไม่พูดเธอเองก็น่าจะรับรู้อยู่แล้ว! ”
“ห้ามทำอะไรโดยไม่ยับยั้งชั่งใจเด็ดขาด”
องค์หญิงเก้าเฉลียวฉลาดและมีไหวพริบอย่างที่สุด แต่เธอในตอนนี้ เหมือนจะเปลี่ยนไปจากเดิมเป็นอย่างมาก
ทำให้เขารู้สึกว่ามันผิดปกติ
เหมือนจะเกิดความเกี่ยวข้องอะไรกันกับหลินหยุน
ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่เก่งกาจมีความสามารถมากแค่ไหน แต่เมื่อเกิดความรู้สึกชื่นชอบขึ้นแล้ว ก็จะไม่เป็นตัวของตัวเองอีกต่อไป
น้องสาวที่เฉลียวฉลาดและมีไหวพริบอย่างที่สุดของตนเองนั้น ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เธอพูดได้ถูกต้อง ไม่ว่าอย่างไรเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น ก็ยังจะต้องรอดูท่าทีของสถาบันก่อน
นี่......
กลับถือว่าเป็นโอกาสที่ดีอย่างมากเลย!
สถาบันสามารถที่จะปกป้องความปลอดภัยแก่หลินหยุนได้!
สำหรับเขาแล้วนั้น ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างที่สุด!
สถาบันปกป้องคุ้มครองหลินหยุน เขาก็สามารถที่จะปล่อยเลยตามเลย เมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าราชวงศ์องค์ไหน หรือจะเป็นแต่ละสำนักใหญ่หรือว่าผู้ฝึกอิสระ ก็คงจะไม่เจาะจงมาที่ตัวเขาอย่างแน่นอน!
ถึงแม้จะไม่กล้าลงมือ แต่ในใจก็คงจะเกิดความรังเกียจเคียดแค้นสถาบันอยู่บ้าง
เรื่องที่น้องสามจะช่วงชิงบัลลังก์นั้น ก็กลายเป็นทำให้แต่ละสำนักใหญ่หมดอิทธิพลลงไปบ้าง
สถาบันก็เหมือนกับกลุ่มเมฆที่หนาทึบ ปกคลุมอยู่เหนือศีรษะของทุกคน
หากครั้งนี้เป็นเพราะเรื่องของหลินหยุนอีก ความรู้สึกดังกล่าวนั้นก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น
แรงพลังดังกล่าวนี้ ก็จะค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น
ต่อให้ในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้ จะยังคงไม่สามารถที่จะข่มขู่สถาบันได้
แต่ตราบใดที่มีจิตใจเช่นนี้แล้ว ก็จะทำให้เกิดพัฒนาการที่ยิ่งใหญ่ต่อเนื่อง!
แม้แต่องค์ชายสามกับองค์หญิงเก้าต่างก็มีจิตใจที่มักใหญ่ใฝ่สูง แล้วเขาผู้ที่เป็นถึงองค์ชายที่แท้จริงล่ะ?
ดังนั้น เขายิ่งหวังอย่างมากว่า ทางสถาบันจะตัดสินใจปกป้องความปลอดภัยของหลินหยุน
หลังจากที่ออกมาจากพระราชวัง องค์หญิงเก้าก็ตรงไปยังสถาบันเลย
เพื่อขอเข้าพบกับผู้อาวุโสไท่ซ่างทั้งสามคนของสถาบัน
แต่กลับไม่ได้พบเจอ โดยมีเพียงแต่ฟางเอี่ยน ที่ออกมาทำการต้อนรับเธอ
องค์หญิงเก้าไม่พูดจาพร่ำเพรื่อ โดยได้ถามขึ้นตรง ๆ ว่า “ผู้อาวุโสฟาง เรื่องของหลินหยุน ทางสถาบันคงน่าจะรับทราบมาก่อนแล้ว ซึ่งที่ฉันมาในครั้งนี้ ต้องการที่จะสอบถามถึงท่าทีของทางสถาบันดูสักหน่อย โดยที่ไม่สนว่าก่อนหน้านี้หลินหยุนจะมีสถานะอะไร แต่ตอนนี้คือลูกศิษย์ของสถาบัน! ”
หลินหยุนกำลังพูดคุยอยู่กับฉินหลัน องค์หญิงเก้าก็เดินเข้ามา
หลินหยุนทำการแนะนำเล็กน้อย ส่วนทางฉินหลันก็เข้าใจสถานการณ์จึงได้เดินกลับเข้าไปในห้อง
องค์หญิงเก้ามองไปที่หลินหยุน และพูดขึ้นว่า “คิดดีแล้วใช่ไหม? ถ้าหากจะไปที่สนามรบหมื่นจักรวาลนั้นจริง ๆ ล่ะก็? นายจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม ที่จริงแล้วที่สนามรบหมื่นจักรวาลกับที่ตรงนี้นั้น บางทีอาจจะไม่มีความแตกต่างกันเลยก็เป็นได้! ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้ฉันรับรู้เป็นอย่างดี แต่ว่า นอกเหนือจากนี้ ก็คงจะไม่มีวิธีการอะไรที่ดีไปกว่านี้แล้ว! สนามรบหมื่นจักรวาล ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาส! ซึ่งฉันเองก็ต้องการโอกาสนี้มาโดยตลอดเช่นกัน! ”
องค์หญิงเก้าพยักหน้า
เรื่องนี้เธอเองก็ทราบดี
ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ เป้าหมายของหลินหยุนนั้น ก็คือสนามรบหมื่นจักรวาล!
หยุดชะงักไปชั่วครู่ หลินหยุนก็มองไปที่องค์หญิงเก้า และพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “ฉันมีเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องพูด ที่จริงแล้วดาวไกอานั้นได้กลายเป็นยุคเสื่อมธรรมไปแล้ว! ”
“ต่อให้พวกเธอไปที่นั่น ก็คงจะไม่สามารถได้รับการสืบทอดที่แข็งแกร่งอะไรอย่างที่จินตนาการเอาไว้หรอก! ที่นั่นในตอนนี้ก็คือโลกมนุษย์! ”
“ถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ฉันเองก็คงจะไม่ตัดสินใจออกมาจากที่นั่น ในขณะที่ฉันมีพลังบำเพ็ญขั้นแดนยาทองหรอก! ”
“ตรงกันข้ามเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว จึงสามารถสำเร็จบรรลุขั้นแดนจิตปฐมได้! ”
“คำพูดนี้ บางทีเธออาจจะเชื่อบ้างก็เป็นได้! ”
“สำหรับคนอื่น ก็คงจะไม่มีทางเชื่อโดยเด็ดขาด! ”
“ฉันเองก็แค่จะแสดงความคิดเห็นอย่างหนึ่งเท่านั้น! ”
“ถึงแม้วันใดวันหนึ่ง พวกเธอจะไปยังดาวไกอานั้นจริง ๆ ก็ควรที่จะวางตัวเงียบ ๆ เอาไว้จะเป็นการดีที่สุด อย่าได้ไปรบกวนมนุษย์ธรรมดาในดาวไกอาเหล่านั้น! ”
“ไม่อย่างนั้นแล้ว ฉันไม่สนใจว่าจะเป็นราชวงศ์ของพวกเธอก็ดี หรือว่าจะเป็นผู้บำเพ็ญเซียนของดาวนกขาวก็ดี! ”
“ถ้าหากทำลายดาวไกอาแล้ว ฉันเองคงจะไม่ยอมปล่อยให้จบลงอย่างง่ายดายเป็นแน่! ”
“บางทีคำพูดของฉันในตอนนี้ เธออาจจะรู้สึกว่ามันน่าขัน รู้สึกว่าฉันพูดโอ้อวดเกินไป แต่ฉันรับรองว่า!ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาจริง ๆ ฉันสาบานว่าจะทำลายโลกฉองหลงลงให้สิ้นซาก! “
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...