สรุปเนื้อหา บทที่ 1658 วงศ์สกุลโบราณกาล – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 1658 วงศ์สกุลโบราณกาล ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เพราะนักบำเพ็ญเซียนที่อยู่ในสนามรบหมื่นจักรวาล ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าไหน พวกเขาก็ผ่านเรื่องความเป็นความตายมาเยอะแล้ว!
ถ้าเจอคู่ต่อสู้จริงๆ พวกเขาคงสู้อย่างสุดชีวิต เมื่อทำอย่างนี้ถึงจะมีโอกาสรอดชีวิตได้!
มิฉะนั้นคงต้องตายสถานเดียว
หรือว่าตอนนี้สนามรบหมื่นจักรวาลได้เปลี่ยนไปแล้ว?
หลินหยุนไม่ได้คิดมาก เขาบินมายืนอยู่ข้างๆอีกฝ่าย ในเวลานี้ เขาถึงได้มองเห็นคนที่อยู่ในหมอกสีขาว เขาเป็นเพียงแค่เด็กน้อยอายุยี่สิบต้นๆเท่านั้น
เมื่อมองเห็นหลินหยุนบินมา เด็กหนุ่มก็รีบคุกเข่าและพูดอีกครั้ง"ผู้อาวุโสไว้ชีวิตฉันด้วย! ผู้อาวุโสได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย!"
"ฉันเป็นนักบำเพ็ญเซียนของวงศ์สกุลเขาหยิน ขอให้ผู้อาวุโสเห็นแก่หน้าวงศ์สกุลเขาหยินของพวกเรา ได้โปรดไว้ชีวิตฉันด้วย!"
สายตาของหลินหยุนเปล่งประกาย "วงศ์สกุลเขาหยิน ฉันไม่เคยได้ยินชนเผ่านี้มาก่อน สำหรับคำว่าวงศ์สกุล……ฉันเคยได้ยินมาบ้าง!"
ในเวลานี้ เจียซินที่อยู่ในหลินไถพูดทันที"ฉันจำได้แล้ว! คำว่าวงศ์สกุลนั้นเป็นคำที่โบราณมากๆ น่าจะเป็นชนเผ่าที่สืบทอดมาจากโบราณกาล!"
"วงศ์สกุลเหล่านี้ เมื่ออยู่หมื่นจักรวาล พวกเขาอาศัยอยู่ในที่ห่างไกลและกันดารเท่านั้น"
"เพราะในสายตาของนักบำเพ็ญเซียนหมื่นจักรวาล วงศ์สกุลเป็นพวกกากเดนของโบราณกาล!"
"เป็นพวกทาสรับใช้ในโบราณกาล!"
"ดังนั้นหลายร้อยปีที่ผ่านมา วงศ์สกุลยิ่งอยู่ก็ยิ่งมีน้อยลง!"
"ถึงแม้จะยังมีอยู่ ก็คงอยู่ส่วนลึกของดินแดนห่างไกลและกันดารเท่านั้น!"
หลินหยุนพยักหน้า เขาไม่ได้คิดอะไรมาก มันเป็นอย่างที่เจียซินพูดจริงๆ มีเพียงวงศ์สกุลที่แข็งแกร่งหน่อยถึงอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้และอยู่ในโลกใบเล็กๆได้ แต่พวกเขาก็คงปิดโลกของตัวเอง และไม่กล้าเดินออกมา!
ส่วนวงศ์สกุลที่เหลืออยู่ในหมื่นจักรวาลนั้น เป็นวงศ์สกุลที่อ่อนแอและเหลืออยู่น้อยมากๆ
หลินหยุนพูดอย่างเคร่งขรึม "วงศ์สกุลเขาหยินของนายห่างจากที่นี่ไกลเท่าไหร่? มีคนอยู่เท่าไหร่? คนที่แข็งแกร่งที่สุดฝึกฝนถึงขั้นไหนแล้ว? ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง นายชื่ออะไร?"
เมื่อเด็กหนุ่มได้ยิน ก็รีบตอบทันที"กราบเรียนผู้อาวุโส ฉันชื่อเว่ย! วงศ์สกุลเขาหยินของเราห่างจากตรงนี้ไม่ไกล ใช้เวลาเดินหนึ่งเดือนเท่านั้น เผ่าของเรามีอยู่หลายหมื่นคน คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือผู้อาวุโสของเผ่าเรา เขาฝึกฝนถึงแดนสู่ธรรมะระดับสาม!"
สายตาของหลินหยุนเปล่งประกาย "แดนสู่ธรรมะระดับสาม……"
เจียซินนึกว่าหลินหยุนฟังไม่รู้เรื่อง เธอก็เลยเอ่ยปากพูด"สำหรับการแบ่งระดับแบบนี้ มีเพียงวงศ์สกุลโบราณกาลเท่านั้นที่ใช้แบบนี้ แดนต่างๆจะแบ่งเป็นเก้าระดับ แดนสู่ธรรมะระดับสาม ก็คือแดนสู่ธรรมะตอนต้นบริบูรณ์ และกำลังจะเข้าสู่แดนธรรมะตอนกลาง"
"วงศ์สกุลนี้ สามารถมีคนอยู่หลายหมื่นคน และมียอดฝีมือแดนสู่ธรรมะด้วย ถือว่าไม่เลวแล้ว! สถานที่ที่พวกเขาอยู่นั้นคงห่างไกลและกันดารมากๆ! มิฉะนั้นวงศ์สกุลนี้คงไม่สามารถมีประชากรเยอะขนาดนี้!"
ชนเผ่าเล็กๆหลายหมื่นคน เมื่ออยู่ในสนามรบหมื่นจักรวาล พวกเขาไม่ต่างอะไรกับหยดน้ำที่อยู่ในทะเลเลย!
แต่สำหรับวงศ์สกุลโบราณกาลแล้ว มันเป็นชนเผ่าที่ไม่เล็กแล้ว!
หลินหยุนพยักหน้าและมองเว่ยแล้วพูด "ชนเผ่าของนายอพยพมาจากที่ไหน?"
หลินหยุนเข้าใจแล้ว ทำไมคนๆนี้ถึงได้หวาดกลัวมากๆ ดูเหมือนเขาไม่ค่อยมีประสบการณ์ความเป็นความตายเลย
พวกเขาอยู่ในที่ห่างไกลและกันดารมาหนึ่งยุคสมัย ทำให้พวกเขาไม่มีประสบการณ์ด้านความเป็นความตาย มันก็เป็นเรื่องปกติ!
เมื่อเว่ยได้ยินก็รีบพูด"ผู้อาวุโส เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้! ถ้าผู้อาวุโสอยากรู้ก็กลับไปที่ชนเผ่าของฉันก็ได้ จากนั้นคุณก็ไปถามผู้อาวุโสของชนเผ่าเรา เขาน่าจะรู้เรื่องพวกนี้!"
ตอนนี้เว่ยรู้สึกประหลาดใจมากๆ
เพราะเขาก็สัมผัสได้ นักบำเพ็ญเซียนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ดูเหมือนจะไม่ใช่นักบำเพ็ญเซียนของที่นี่
คำถามเขาแปลกประหลาดมากๆ
แต่กฎระเบียบของชนเผ่าเคยพูดเอาไว้ คนของชนเผ่าไม่สามารถออกจากดินแดนของตัวเอง
เพราะถ้าคนจากภายนอกมองเห็นพวกเขา คนพวกนั้นก็จะสังหารพวกเขาทันที
นี่คือเหตุผลที่เขาคุกเข่าอ้อนวอนทันที เมื่อเขาสัมผัสได้ถึงเรื่องที่ผิดปกติ!
สีหน้าของเว่ยแย่มากๆ เขาหายใจลึกๆ จากนั้นก็พยักหน้าและบินนำทางทันที
ส่วนหลินหยุนตามอยู่ด้านหลังเขา และค่อยระมัดระวังตัวตลอดเวลา
เพราะการระมัดระวังตัวเป็นเรื่องจำเป็นมากๆในเวลานี้
เว่ยทำตัวค่อนข้างซื่อสัตย์ หลังจากบินมาสามเดือนแล้ว ด้านหน้าของพวกเขาสองคนก็มีดินแดนที่กำลังลอยอยู่กลางอากาศ
เว่ยชี้นิ้วมือออกไปและพูด"ผู้อาวุโส ตรงนั้นเป็นที่อยู่ของวงศ์สกุลน้ำดำ!"
หลินหยุนพยักหน้า เขาไม่ได้พูดอะไรอีกเลย รีบเก็บซ่อนพลังของตัวเองและยืนรออยู่
เว่ยมองเห็นหลินหยุนไม่มีการเคลื่อนไหว เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลินหยุนคิดอะไรอยู่
เขาก็ทำได้แค่ยืนรอเท่านั้น หลังจากรอไปครึ่งเดือน ดินแดนที่ลอยอยู่กลางอากาศก็เงียบสงบมากๆ ไม่มีนักบำเพ็ญเซียนเข้าออกเลย
แต่หลินหยุนมีความอดทนสูงมากๆ
ถ้าเด็กหนุ่มที่ชื่อเว่ยไม่ได้พูดโกหก ถ้างั้นในวงศ์สกุลน้ำดำต้องมียอดฝีมือแดนสู่ธรรมะตอนกลางอย่างแน่นอน และอาจจะมียอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่านั้นอีก
เขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามอยู่แล้ว
ด้วยพลังที่เขามีอยู่ในตอนนี้ อย่าพูดถึงการเผชิญหน้ากับยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะเลย แม้แต่ยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนกลาง เขาก็สู้ไม่ไหวอยู่แล้ว เขาทำได้แค่หนีเท่านั้น
ระหว่างรอคอย หลินหยุนก็ถามเรื่องต่างๆของวงศ์สกุลเขาหยินตลอดเวลา และถามถึงสถานการณ์ของวงศ์สกุลน้ำดำด้วย
จากคำพูดของเว่ย วงศ์สกุลเขาหยินของพวกเขา มีผู้อาวุโสของชนเผ่าที่เป็นยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะระดับสามเพียงคนเดียวเท่านั้น
สำหรับยอดฝีมือแดนดั่งเทพมีทั้งหมดห้าคน และเขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งของชนเผ่า และเป็นยอดฝีมือแดนดั่งเทพที่อายุน้อยที่สุดในรอบพันปีที่ผ่านมา
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เว่ยก็แสดงความภาคภูมิใจออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...