จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1661

สรุปบท บทที่ 1661 กลับมาอย่างแท้จริง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 1661 กลับมาอย่างแท้จริง – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1661 กลับมาอย่างแท้จริง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เมื่อหลินหยุนพาฉินหลันเข้ามาในเมือง ทหารเฝ้าประตูคนหนึ่งก็ได้แอบเดินจากไปในทันที

หลินหยุนชะงักชั่วครู่ แล้วก็พาฉินหลันเดินเข้าไปในเมืองต่อ

ไม่นานนักก็หายเข้าไปในกลุ่มคน

หลินหยุนได้เก็บกลิ่นอายลมหายใจทั้งหมด แล้วพาฉินหลันไปหายังสถานที่เปล่าเปลี่ยว เพื่อทำการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์และการแต่งกาย จากนั้นก็เดินเข้ามาในเมืองต่อ

แต่ว่า หลังจากที่ไปสำรวจตลาดมาสามแห่งแล้ว

ก็ยังไม่พบสถานที่ใดที่ขายแผนผังดาวจักรวาลเลย

จึงทำให้หลินหยุนอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

อีกทั้งผู้คนในเมืองแห่งนี้ ให้ความรู้สึกในแบบที่ไม่ค่อยมีชีวิตชีวา

สายตาที่มองมายังตัวเขาและฉินหลันนั้น ต่างก็แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก

แม้ว่ายังหาซื้อแผนผังดาวจักรวาลไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะกลับมามือเปล่า

หลินหยุนได้ซื้อของวิเศษที่ใช้เหาะเหินที่ถือว่าดีพอใช้ได้มาหนึ่งชิ้น

เมื่อมีของวิเศษที่ใช้เหาะเหินแล้ว พละกำลังของเขาก็จะสิ้นเปลืองน้อยลงไปอย่างมาก ฉินหลันเองก็จะสบายตัวมากขึ้นด้วย

หลังจากที่ซื้อเสร็จแล้ว หลินหยุนก็พาฉินหลันออกไปนอกเมือง

ทหารเฝ้าประตูที่หน้าประตูก็ไม่ได้ทำการขัดขวางอะไร

แต่ว่า หลังจากที่ออกมาจากเมืองได้ไม่นาน ก็มีกลิ่นอายลมหายใจที่แข็งแกร่งไล่ตามมาทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

โดยเป็นผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพตอนต้นเหมือนกัน

และด้านหลังยังมีผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมคนหนึ่งติดตามมาด้วย ซึ่งก็คือทหารเฝ้าประตูที่หน้าประตูคนนั้นตอนก่อนหน้านี้

หลินหยุนไม่ได้หันกลับไปมอง โดยรีบเผ่นหนีต่อไปอย่างรวดเร็ว

ผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพตอนต้นนั้น เขาไม่เกรงกลัวอยู่แล้ว

แต่ยังมีผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนต้นอีกคนหนึ่งด้วย ซึ่งก็จะแตกต่างกันออกไป

เพราะว่าเขานั้นยังมีฉินหลันที่ไม่มีพลังบำเพ็ญอะไรเลยแม้แต่น้อย

จากการที่หลินหยุนหลบหนีอย่างบ้าคลั่งนั้น ผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพที่อยู่ด้านหลังก็ได้เร่งความเร็ว ส่วนผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนต้นนั้น ก็ถูกทิ้งระยะห่างออกไปอย่างรวดเร็ว

หลินหยุนหลบหนีอยู่หลายวันติดต่อกัน

ผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพตอนต้นที่อยู่ด้านหลังนั้น กลับไม่ได้แสดงท่าทีล้มเลิกแต่อย่างใดเลย

เห็นได้ชัดว่ามีความคิดอย่างแน่วแน่ที่จะไม่ยอมปล่อยให้หลินหยุนหลบหนีไปได้อย่างเด็ดขาด

เพราะถ้าหากปล่อยให้หลินหยุนหลบหนีไปได้แล้ว ก็อาจจะทำให้เมืองมู่เหมียนถูกเปิดเผยออกไปก็เป็นได้!

หลินหยุนไม่ได้สนใจเรื่องอื่น เอาแต่หลบหนีอย่างบ้าคลั่งต่อไป

การหลบหนีในครั้งนี้ยาวนานติดต่อกันนับเดือน

หลินหยุนสิ้นเปลืองพละกำลังไปอย่างมาก

โดยผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพคนนั้นก็เป็นไปในลักษณะเดียวกัน แต่ก็ยังคงไม่ยอมปล่อยให้หลินหยุนหลบหนีไปได้

จนวันหนึ่ง

หลินหยุนได้หยุดลงอย่างกะทันหัน

เพราะว่ายาทองในร่างกายของเขานั้นได้สูญสิ้นพละกำลังไปหมดแล้ว!

การที่ถูกผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพไล่ล่า มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเอาเสียเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝ่ายตรงข้ามอาจจะมีผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมตามมากันอีกก็เป็นได้

แต่เวลานี้ หลินหยุนกลับไม่ได้มีความกังวลแบบนั้นแล้ว

เพราะว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ห่างไกลจากเมืองมู่เหมียนมากแล้ว!

ตรงกันข้ามหากยังจะหลบหนีต่อไปอีก

ผู้บำเพ็ญเซียนที่อยู่ด้านหลังนั้นก็คงจะสามารถไล่ตามตนเองมาได้ทันอย่างแน่นอน!

หลินหยุนสีหน้าขาวซีดเล็กน้อย พยายามทรงตัวและมองไปยังฝ่ายตรงข้าม ภาพที่เห็นนี้กับชายวัยกลางคนของวงศ์สกุลน้ำดำคนนั้น ช่างเหมือนกันอย่างมากเลยทีเดียว!

หลินหยุนไม่มีความคิดในเรื่องอื่นที่ไร้สาระอะไรอีก!

ถ้าหากฝ่ายตรงข้ามมีแผนผังดาวจักรวาลอยู่จริง ก็จะยิ่งดีมาก ถ้าไม่มี ก็ไม่เป็นไร!

เขาทำได้เพียงอาศัยความทรงจำโดยรวมในชาติที่แล้วของเขาเกี่ยวกับลักษณะพื้นที่ของเขตเหม่า เพื่อมากำหนดตำแหน่งที่ตนเองอยู่ในตอนนี้

ทันใดนั้น หลินหยุนก็พลันกระโดดขึ้นไปในอากาศ และแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ย่ำฟ้าเก้าทีออกมา

แรงพลังกดทับที่แข็งแกร่งไร้ขอบเขตก็ปรากฏขึ้นในทันที

เวลานั้น ผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพตอนต้นคนนั้นก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที กระบี่ยาวที่อยู่ในมือนั้นก็กลายร่างเพิ่มจำนวนมากขึ้น และกระหน่ำฟาดฟันออกไปอย่างบ้าคลั่ง แต่ขณะที่หลินหยุนย่ำก้าวที่ห้าขึ้นไปนั้น ก็ยังคงสามารถที่จะระงับพลังกระบี่เอาไว้ได้อย่างหมดสิ้น

แส้วิญญาณของเจียซินได้อาศัยช่วงจังหวะนี้ กระหน่ำฟาดตีออกไป เพื่อลอบทำร้าย

ฝ่ายตรงข้ามร้องตะโกนอย่างเจ็บปวดทรมาน

หลินหยุนไม่รอช้า ใช้ดาบเฮ่าเทียนทิ่มแทงออกไปทันที โดยได้สังหารฝ่ายตรงข้ามลงอย่างสิ้นเชิง

อีกทั้งยังรีบเก็บถุงเก็บของของฝ่ายตรงข้ามขึ้นโดยเร็ว

แดนจิตปฐม แม้ว่าแดนจิตปฐมอย่างเขานี้ จะสามารถต่อสู้กับแดนดั่งเทพได้

แต่เมื่อมองไปยังสนามรบหมื่นจักรวาลแล้ว ขั้นแดนนี้ก็ยังคงอ่อนแอมากเกินไปจริง ๆ

เจียซินอดไม่ได้จึงพูดขึ้นว่า “สถานที่แห่งนี้อยู่ในเขตเหม่า และเป็นพื้นที่เขตแดนของเขตเหม่า ถ้าหากพวกเราสามารถไปยังเขตเซินได้ล่ะก็ ฉันสามารถที่จะช่วยนายได้ แต่ตอนนี้ฉันเองไม่สามารถช่วยอะไรนายได้เลย! ”

ระยะห่างของเขตเหม่ากับเขตเซินนั้น มันช่างห่างไกลกันมากเลยทีเดียว

หลินหยุนในเวลานี้ไม่สามารถที่จะไปยังที่นั่นได้แน่นอน

ต่อให้ตอนนี้หลินหยุนอยู่ในแดนสู่ธรรมะ หากคิดจะไปที่นั่นจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย!

อีกทั้งยังจะต้องสิ้นเปลืองเวลาอย่างมหาศาล

หลินหยุนได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจอย่างจำใจ และพูดว่า “หมดหนทาง สิ่งรองรับนั้นมีความจำเป็นอย่างมาก! ไม่สามารถที่จะคัดเลือกอย่างง่ายดายและตามอำเภอใจได้! ”

เจียซินพยักหน้า และพูดว่า “เป็นเช่นนั้นจริง ๆ มันเกี่ยวเนื่องถึงอนาคตเลย! ”

หลินหยุนพูดว่า “ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนก็แล้วกัน! อย่างน้อยในตอนนี้ ในที่สุดพวกเราก็รู้ว่าตนเองอยู่ที่ไหนแล้ว! ”

ที่จริงแล้วเขานั้นไม่ได้ใส่ใจกับสมบัติที่หลงเหลือเอาไว้ของเผ่าเจียซินเลย

ถ้าหากเป็นไปได้ เขายอมที่จะตัดสินใจกลับไปยังโลกชางฉองของตนเอง

แต่ว่าระยะห่างระหว่างเขตเหม่ากับโลกชางฉองของเขานั้น ไม่สามารถที่จะคิดคำนวณออกมาเป็นระยะห่างหรือต้องใช้เวลาเดินทางเท่าไรได้

เขาเองก็คิดไม่ถึงว่า โลกชางฉองจะอยู่ในพื้นที่ติดชายแดนขนาดนั้น

ทั้งสามคนก็ได้นั่งของวิเศษที่ใช้เหาะเหิน เพื่อมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออก

เพราะว่ามีเส้นทางที่บุกเบิกเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นตลอดการเดินทางก็ไม่เกิดอุปสรรคอันตรายอะไรเลย

สิบปี

ผ่านไปเพียงพริบตาเดียว

ช่วงเวลาดังกล่าวนี้ สำหรับหลินหยุนและเจียซินแล้วถือว่าไม่มีอะไร แต่สำหรับฉินหลันแล้วนั้น มันช่างยากเย็นยิ่งนัก!

แต่ก็หมดหนทางจริง ๆ!

เมื่อจนถึงที่สุดแล้วหลินหยุนก็จะพาเธอเหาะเหินช่วงเวลาหนึ่ง

แต่หลังจากนั้น ฉินหลันก็ยังคงหงุดหงิดอย่างที่สุด

สถานการณ์แบบนี้คนทั่วไปไม่สามารถที่จะอดทนรับสภาพไหวได้อย่างแน่นอน

แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอเองก็ยังยืนหยัดเอาไว้ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์