จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1662

สรุปบท บทที่ 1662 เมืองบูรพา: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 1662 เมืองบูรพา จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1662 เมืองบูรพา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

นับตั้งแต่ที่ได้หลบหนีไปจากโลกฉองหลงนั้น เป็นเวลานานกว่าสิบห้าปีแล้ว

สำหรับหลินหยุนและเจียซินนั้น ก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำคัญอะไร

แต่สำหรับฉินหลันแล้ว มันช่างยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก

ที่สำคัญคือสภาพจิตใจ ซึ่งถือเป็นบททดสอบที่ทรมานอย่างมหาศาล

ฉินหลันกินยายั้งอายุที่หลินหยุนกลั่นเอาไว้

ดังนั้นรูปลักษณ์หน้าตาของเธอ จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

แต่อายุขัยของเธอนั้น ก็ยังคงลดลงไปอย่างต่อเนื่อง

ถึงแม้หลินหยุนจะกลั่นโอสถให้เธอมากมายหลายชนิด เพื่อเพิ่มพลังแห่งชีวิต

แต่นั่นก็ไม่ใช่โอสถวิเศษที่สามารถเพิ่มอายุขัยได้สักหน่อย

ต่อให้ฉินหลันมีอายุขัยถึงหนึ่งร้อยปี แต่ตอนนี้ก็ได้ผ่านพ้นมาหนึ่งในสามส่วนแล้ว

สิ่งที่เธอเป็นกังวลที่สุดนั้นก็คือ กลัวว่าจะต้องจบชีวิตลงในการเดินทางภายใต้สภาพที่น่าเบื่อโดยที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแบบนี้

บางทีอาจจะมีเรื่องที่เธอดีใจอยู่หนึ่งเรื่อง นั่นก็คือมีหลินหยุนอยู่ข้างกายด้วยกันกับเธอตลอดเวลา

ในที่สุด บริเวณเบื้องหน้า ก็มีดาวเคราะห์ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก ปรากฏขึ้นให้เห็นแล้ว

นี่ไม่เพียงทำให้ฉินหลัน และรวมไปถึงหลินหยุนต่างก็ถอนหายใจยาวกันออกมา

เพราะว่าถ้าหากยังไม่ถึงดาวเคราะห์ดวงนี้ เกรงว่าเขาจะต้องตัดสินใจทำให้ฉินหลันหลับใหลเป็นเวลายาวนานแล้ว

ดาวบูรพา!

เมืองบูรพา!

จัดเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์ และหนึ่งเมืองในระบบจักรวาล

แม้ว่าตามตำแหน่งในแผนผังดาวจักรวาลแล้ว ก็ยังคงเป็นสถานที่เปล่าเปลี่ยวไกลโพ้นอย่างมากในเขตเหม่า

แต่เมืองที่จัดอยู่ในระบบแบบนี้ ก็จะต้องมีค่ายกลทะลุมิติอย่างแน่นอน

หลินหยุนถอนหายใจ และพูดขึ้นว่า “ในที่สุดก็มาถึงเมืองในจักรวาลอย่างแท้จริงแล้ว! จักรวาล เราไม่ได้พบเจอกันนานเลย! ”

เจียซินเองก็ถอนหายใจ และพูดขึ้นว่า “ใช่เลย ไม่ได้พบเจอกันนานเลยจริง ๆ ! ไม่รู้ว่าที่นี่จะมีอิทธิพลอำนาจอะไรควบคุมอยู่บ้างหรือไม่”

หลินหยุนครุ่นคิดชั่วครู่จึงพูดขึ้นว่า “สถานที่แห่งนี้ค่อนข้างเปล่าเปลี่ยว ต่อให้มีอิทธิพลอำนาจควบคุม ก็คงจะเป็นพวกที่ไม่ได้เรื่องอย่างแน่นอน! ”

เขากำลังคิดอยู่ว่าจะมีโอกาสหรือไม่ ที่จะรีบแสวงหาสิ่งรองรับที่เหมาะสมให้ได้โดยเร็ว

แบบนี้เขาก็จะสามารถบรรลุข้ามขั้นไปถึงแดนดั่งเทพได้

เมื่อถึงขั้นแดนดั่งเทพแล้ว จึงจะเพียบพร้อมด้วยความมั่นอกมั่นใจในการท่องตระเวนภายในสนามรบหมื่นจักรวาล

ก้าวเข้าสู่ดาวบูรพา

หลินหยุนก็ทำการสัมผัสเล็กน้อย พบว่าความหนาแน่นของชี่ทิพย์ในที่แห่งนี้ เมื่อเทียบกับโลกฉองหลงแล้ว ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไร

ถือว่าเป็นปกติธรรมดา

แต่ก็สามารถเข้าใจได้

เพราะที่แห่งนี้อยู่ในบริเวณที่เปล่าเปลี่ยวเป็นอย่างมาก!

ในสถานที่รกร้างเปล่าเปลี่ยว ไม่ใช่ว่าจะไม่มีดาวเคราะห์ที่มีชี่ทิพย์หนาแน่น เพียงแต่มีจำนวนน้อยพบเจอได้ยากก็เท่านั้น

หลินหยุนพาฉินหลันลอยตัวลงมา ที่เมืองใหญ่ที่สุดของดาวเคราะห์แห่งนี้ ซึ่งก็คือเมืองบูรพา

เมืองมีขนาดใหญ่โตเป็นอย่างมาก สามารถรองรับหลายร้อยล้านคนได้อย่างไม่เป็นปัญหา

ทั้งสองคนเดินเข้ามาในเมือง หลินหยุนนั้นไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก แต่ทางฉินหลันกลับตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด

เพราะว่าในที่สุดก็ได้พบเจอกับผู้คนแล้ว และมีจำนวนมากมายด้วย!

ในที่สุดก็กลับมาอยู่ในท่ามกลางกลุ่มผู้คนอีกครั้งแล้ว

ขณะที่เดินไปด้านหน้ากันอยู่นั้น เจียซินก็ถามหลินหยุนขึ้นว่า “นายคิดที่จะทำอะไรต่อจากนี้? ”

หลินหยุนพูดว่า “ตอนนี้พักอาศัยอยู่ที่แห่งนี้สักระยะหนึ่ง เพื่อทำความเข้าใจสถานที่แห่งนี้กันก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที โดยไม่รีบร้อนที่จะออกจากที่นี่! ในเมื่อมาถึงสนามรบหมื่นจักรวาลแล้ว นอกจากจะตามหาสิ่งรองรับแล้ว ก็ยังจะต้องคิดหาวิธีเพื่อทำให้ฉินหลันสามารถบำเพ็ญฝึกฝนได้! ”

ฉินหลันต้องการที่จะบำเพ็ญฝึกฝน ซึ่งค่อนข้างจะลำบากยุ่งยากมากเลยทีเดียว

จำเป็นจะต้องมีรากทิพย์

แต่ถ้าเป็นรากทิพย์ธรรมดาทั่วไปนั้น หลินหยุนเองก็คงจะไม่ต้องการเป็นแน่

เพราะว่าเขาไม่สนใจ

ในเมื่อจะลงมือทำแล้ว ก็จะต้องคัดเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับฉินหลัน!

และยังเป็นผู้ควบคุมความเป็นไปของดาวบูรพาทั้งหมดด้วย

ส่วนอีกสามสำนักใหญ่นั้น ต่างก็มีความแข็งแกร่งมากเช่นกัน ภายในแต่ละสำนัก ต่างก็มีผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมควบคุมดูแลอยู่เบื้องหลัง

โดยสามสำนักใหญ่ที่เหลือนั้นได้แก่สำนักจินต์ สำนักกระบี่ และสำนักดาบลอย

ในสามสำนักนี้พลังความสามารถของสำนักจินต์นั้น ถือว่าอ่อนแอที่สุด ซึ่งสำนักกระบี่ และสำนักดาบลอยต่างก็มีความแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย

เพียงแต่ว่าสำนักดาบลอยกับสำนักกระบี่นั้นจะมีความบาดหมางขัดแย้งกันอยู่

ดังนั้นจึงพยายามที่จะชักจูงสำนักจินต์ให้เข้ามาเป็นพวกเดียวกัน

เพียงแต่สำนักจินต์ก็ยังไม่ยอมที่จะฝักใฝ่ฝ่ายใดโดยง่าย

จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาที่มีอิทธพลความสามารถที่ค่อนข้างอ่อนแอ แต่กลับยังสามารถดำรงอยู่ได้มาโดยตลอด

สำหรับสำนักบูรพานั้น ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันอย่างแน่นอน

ไม่ต้องพูดถึงสามสำนักดังกล่าวนี้ ต่อให้พวกยอดฝีมือทั้งหมดในดาวบูรพารวมตัวกัน ซึ่งเมื่อเผชิญหน้ากับสำนักบูรพา ก็ยังคงไม่สามารถทำอะไรได้

ยอดเขาที่หลินหยุนเช้าอาศัยอยู่นี้ คือขอบเขตการปกครองดูแลของสำนักจินต์

ผ่านไปกว่าครึ่งเดือน หลินหยุนเองก็ได้รับรู้และเข้าใจถึงสภาพโดยทั่วไปของดาวบูรพาอย่างพอสมควรแล้ว

นอกจากที่ว่าสำนักบูรพาที่เป็นผู้ปกครองควบคุมดาวบูรพานั้น มีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน ก็ยังไม่อาจรับทราบได้อย่างชัดเจน

เพราะว่าไม่มีผู้ใดรู้

ทุกคนต่างทราบว่าสำนักบูรพาก็คือผู้ยิ่งใหญ่ คือผู้ปกครองควบคุม ในส่วนที่ว่าผู้ควบคุมปกครองนั้นจะมีความแข็งแกร่งมากขนาดไหน ไม่มีผู้ใดพูดได้อย่างชัดเจน

แต่ว่า ทั่วทั้งดาวบูรพานั้น มีผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมอย่างน้อยที่จำนวนเลขสองหลัก

ถึงขนาดนี้ยังไม่สามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับดาวบูรพาได้แม้แต่น้อย อันที่จริงพวกเขามีความสามารถที่แข็งแกร่งถึงระดับไหนนั้น ก็เห็นกันได้อย่างชัดเจนแล้ว

อีกทั้งสถานการณ์อื่น ๆ บนดาวบูรพา หลินหยุนเองก็รับรู้และเข้าใจแล้ว

ทั่วทั้งดาวบูรพานั้น ไม่มีเทือกเขาทิพย์ขนาดใหญ่

ซึ่งก็ถือว่าเป็นดาวบำเพ็ญที่แห้งแล้งอย่างที่สุด

แต่ที่แห่งนี้นั้นกลับมีทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้ในการบำเพ็ญฝึกฝนอยู่ประเภทหนึ่ง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์