ชายชราได้ยินดังนั้น สีหน้าก็หนักอึ้งขึ้นโดยพลัน และมองไปยังชายหนุ่ม พร้อมกับตวาดใส่อย่างดุดันว่า “กำเริบเสิบสานยิ่งนัก พูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร? ถ้าพูดดี ๆ ไม่ได้ ก็หุบปากของนายซะ! ”
ชายหนุ่มก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที ความเกลียดชังในแววตานั้นก็ยิ่งหนักขึ้น ส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา พร้อมกับจ้องมองไปที่หลินหยุนแล้วก็เบือนหน้าหนีไป
ชายชราจึงได้ยกมือแสดงความเคารพต่อหลินหยุนอีกครั้ง และกล่าวขอโทษ “สหายหลินหยุน ลูกศิษย์ไม่ค่อยจะเชื่อฟัง ฉันขอเป็นตัวแทนของเขาแสดงความขอโทษสหายมาในโอกาสนี้ด้วย หวังว่าสหายจะไม่ถือสาหาความ! ”
เขาเองก็ไม่สามารถมองออกถึงพลังบำเพ็ญที่แท้จริงของหลินหยุนได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้อยู่สองกรณี ข้อแรก พลังบำเพ็ญของหลินหยุนยังไม่ถึงแดนจิตปฐม อีกข้อหนึ่งคือ มีพลังบำเพ็ญที่เหนือกว่าตัวเขา
แต่หลินหยุนเป็นเพียงผู้ฝึกอิสระ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าหาสำนักเพื่อฝากลงชื่อสมัคร เพื่อต้องการที่จะเข้าร่วมงานล่าสัตว์ที่มีความอันตรายอย่างที่สุดนี้ นั่นแสดงว่าเขาเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
ดังนั้น......
ชายหนุ่มที่ชื่อหลินหยุนที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ จะต้องเป็นผู้บำเพ็ญเซียนที่มีพลังบำเพ็ญเหนือกว่าเขา
แม้ว่าจะน่าเหลือเชื่ออยู่บ้าง
เพราะว่าคนแบบนี้ ที่เป็นถึงสุดยอดอัจฉริยะแบบนี้ น่าจะถูกพวกสำนักใหญ่เหล่านั้นรับเข้ามาเป็นลูกศิษย์ในสำนักไปแล้ว
คิดไม่ถึงว่าจะยังคงเป็นผู้ฝึกอิสระอยู่อีก ซึ่งน่าเหลือเชื่ออย่างมากเลยทีเดียว
แต่ว่า จะสามารถเชื่อในตัวคนผู้นี้ได้อย่างนั้นเหรอ?
แต่เมื่อคิดทบทวน การที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นมันสำคัญด้วยเหรอ?
ให้คนผู้นี้ฝากชื่อลงสมัคร เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็จะต้องเข้าไปด้านในพร้อมกันกับหลานสาวของตนเองและลูกศิษย์ด้วย
ดังนั้นก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีแผนการร้ายอะไร
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากผู้บำเพ็ญเซียนที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้มีพลังบำเพ็ญที่เหนือกว่าตนเองจริง ๆ แล้ว บางทีเขาอาจจะไม่สนใจคิดวางแผนร้ายเพื่อต้องการอะไรจากตนเองก็เป็นได้
คิดถึงตรงนี้แล้ว ชายชราก็พยักหน้าและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อสามารถมาพบเจอกันที่นี่ ก็คงจะเป็นโชคชะตาที่กำหนด อย่างนั้น สหายก็มาฝากชื่อลงสมัครในสำนักยีเจี้ยนของเราเถอะ! ”
หลินหยุนยกมือขึ้น และกำหมัดแสดงความเคารพต่อชายชราผู้นั้น พร้อมกับพูดว่า “ขอบคุณอย่างมากเลย! ”
พูดจบ หลินหยุนก็เหาะเหินจากไป
มองไปยังเงาหลังของหลินหยุนที่กำลังจากไป ชายหนุ่มคนนั้นก็พูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “อาจารย์ ทำไมท่านถึงได้นำป้ายประจำตัวมอบให้กับคนผู้นี้อย่างง่ายดายขนาดนี้ด้วย? คนผู้นี้จะต้องเป็นผู้ที่มีแผนการอื่นแอบแฝงแน่นอน! ”
ชายชราพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า “มีแผนการอื่นแอบแฝงอย่างไรกันล่ะ? เขาเป็นแค่ผู้ฝึกอิสระคนหนึ่ง ถึงแม้จะฝากชื่อลงสมัครภายใต้สำนักยีเจี้ยนของพวกเราเพื่อเข้าร่วมงานล่าสัตว์ในครั้งนี้ แล้วอย่างไรล่ะ? เดิมทีพวกเราก็ไม่ได้ใช้โควตาทั้งสิบคนนั่นทั้งหมดอยู่แล้ว จะเก็บเอาไว้เพื่ออะไรอีก? ”
“การที่คนผู้นี้เข้าร่วมงานล่าสัตว์ พวกเรายังจะเกิดผลเสียหายอะไรขึ้นจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ? ”
“ไม่ว่าอย่างไร ก็ถือว่าเป็นการผูกมิตรเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีก็เท่านั้น! ”
ชายหนุ่มยังคงพูดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางที่ไม่สบอารมณ์ “อาจารย์ ต่อให้เป็นแบบนี้ เมื่อมองลักษณะท่าทางของคนผู้นี้แล้ว ก็รู้ว่าเขาต้องการโควตาเข้าร่วมอย่างมาก พวกเราสามารถที่จะเรียกค่าตอบแทนอะไรจากเขาบ้างก็ได้! ”
ชายชราพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นการผูกมิตรเชื่อมสัมพันธ์ที่ดี แล้วยังจะต้องการค่าตอบแทนไปทำไมกัน? พอได้แล้ว ไม่ต้องพูดอีกแล้ว! งานใกล้ที่จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว รีบไปเตรียมตัวกันเถอะ! ”
เมื่อพูดจบ ทั้งสามคนก็หายวับไปในทันที
สามวันหลังจากนั้น
งานล่าสัตว์ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ผู้คนจำนวนนับพันได้มารวมตัวกันอยู่ที่หน้าประตูเมือง
แน่นอนว่าตัวละครหลักนั้นก็คือสำนักบูรพารวมถึงอีกสามสำนักใหญ่นั้น
สำหรับสำนักขนาดเล็กต่าง ๆ นั้น ก็มีกันเพียงแค่น้อยนิด
สำนักบูรพากับอีกสามสำนักใหญ่นั้น จะมีลูกศิษย์เพียงคนเดียวที่เข้าร่วมงานในเมืองบูรพา
ส่วนคนอื่นที่เหลือนั้นน่าจะไปเข้าร่วมงานที่เมืองอื่น ๆ
แบ่งกระจายตัวกัน เพื่อเข้าร่วมงานล่าสัตว์
หลินหยุนเองก็มองเห็นสามคนนั้นของสำนักยีเจี้ยนในกลุ่มผู้คน
หลินหยุนได้พยักหน้าทักทายต่อชายชรา ทางชายชราเองก็ไม่ได้พูดอะไร
จากนั้นหลินหยุนก็ถอนสายตากลับ
ลูกศิษย์หนุ่มผู้นั้นของสำนักบูรพา มีพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่ง ซึ่งก็อยู่ในแดนจิตปฐมตอนปลาย
ส่วนอีกสามสำนักที่เหลือนั้น ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน
สำหรับพวกสำนักเล็กต่าง ๆ ก็มีระดับของพลังบำเพ็ญที่แตกต่างกันออกไป
บางคนก็บรรลุสู่แดนจิตปฐมแล้ว บางคนก็ยังไม่บรรลุ ขนาดขั้นแดนยาทองก็ยังมีอยู่จำนวนไม่น้อย
อีกทั้ง ในจำนวนร้อยกว่าคนที่เข้าร่วมงานในเมืองแห่งนี้ ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแดนยาทองนั้น มีจำนวนที่มากเกินกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์
หลินหยุนเองก็ไม่ได้แปลกใจอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...