จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1666

ส่วนลูกศิษย์ของสำนักบูรพาคนนั้น ที่ตามติดอยู่ด้านหลังมาตลอดทาง ก็ยิ่งเกิดความแปลกใจขึ้น เพราะว่าเขาพบเจอกับสัตว์อสูรระดับสี่ แต่ก็ยังไม่ลงมือสังหาร

หรือว่าไอ้หนุ่มนั่น จะไปยังสถานที่อื่น?

มีความเป็นไปได้สูง!

เพราะว่า ไม่ต้องพูดถึงลูกศิษย์สำนักเล็กอะไรหรอก ต่อให้ลูกศิษย์ของสำนักจินต์ สำนักดาบลอย และสำนักกระบี่ ก็ยังไม่กล้าที่จะแย่งชิงอาณาเขตล่าสัตว์กับลูกศิษย์ของสำนักบูรพาเลย

ขณะนั้นจึงไม่ได้คิดมากอะไรอีก แล้วก็เริ่มลงมือสังหารพวกสัตว์อสูรระดับสี่ที่พบเจอทั้งหมด

โดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับพวกสัตว์อสูรที่มีระดับต่ำแล้ว ก็สังหารกวาดล้างอย่างบ้าคลั่ง

หากจะพูดว่าสำนักใหญ่อย่างพวกเขานี้ ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ต้องการที่จะสังหารพวกสัตว์อสูรระดับต่ำเหล่านี้เท่าไร แต่เป็นเพราะนี่คือการแข่งขันในงานล่าสัตว์

ดังนั้นแม้ว่าจะไม่อยากจะทำ แต่ก็ต้องสังหารให้หมด

หลินหยุนเองก็ยังคงไม่ได้หยุดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เหาะเหินมุ่งหน้าสู่บริเวณส่วนลึกต่อไป

สามวันผ่านไป

หลินหยุนได้เข้ามาถึงบริเวณส่วนลึกของทุ่งน้ำแข็งในจุดที่ไกลออกไปประมาณสองหมื่นลี้แล้ว

และเขาก็ได้เริ่มลงมือแล้ว

เพราะว่าในช่วงครึ่งวันก่อนหน้านี้ เขาได้พบเจอกับสัตว์อสูรระดับห้า

แต่ตอนแรกพบเจอเพียงหนึ่งถึงสองตัว เขาจึงไม่ได้ลงมือ

ซึ่งจะใช้สัตว์อสูรระดับห้าที่ฉลาดมีไหวพริบนี้ มาสกัดกั้นลูกศิษย์สำนักบูรพาคนนั้นเอาไว้ ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย

เมื่อพบเจอกับสัตว์อสูรระดับห้าตัวที่สี่ หลินหยุนจึงตัดสินใจลงมือทันที

นี่ก็คือหมีขาวเหมือนกัน

แต่หมีขาวตัวนี้คือระดับห้า มีพลังความสามารถที่แข็งแกร่งกว่าหมีขาวระดับสี่ที่ต่อสู้กับลูกศิษย์สำนักบูรพาคนนั้น มากมายเหลือเกิน!

แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ ก็ยังคงตายลงภายใต้กระบี่ของหลินหยุน

หลินหยุนไม่เพียงแต่จะเก็บแก้วหินปีศาจเท่านั้น ยังจะนำเอาร่างของหมีขาว เก็บไว้ในถุงเก็บของอีกด้วย

เมื่อคำนวณจากระดับ สัตว์อสูรระดับห้า ก็จะเทียบเท่าได้กับผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแดนดั่งเทพ

แต่เมื่อเทียบกับผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแดนดั่งเทพที่แท้จริงแล้ว ก็ยังคงห่างไกลกันไม่น้อยทีเดียว

แม้แต่ผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพตอนต้นหลินหยุนก็ยังสามารถสังหารได้ ซึ่งไม่ต้องพูดถึงสัตว์อสูรระดับห้าแบบนี้แล้ว

แน่นอนว่า ถ้าหากพบเจอกับสัตว์อสูรระดับห้าขั้นสูง อย่างนั้นถึงจะสามารถสร้างความกดดันให้กับหลินหยุนได้พอสมควร

หลังจากที่สังหารสัตว์อสูรระดับห้าไปหนึ่งตนแล้ว หลินหยุนก็เริ่มการสังหารอย่างบ้าคลั่งขึ้น

หลังจากที่ได้สังหารสัตว์อสูรระดับห้าไปสิบกว่าตนแล้ว หลินหยุนก็ยังคงไม่ได้เข้าไปยังส่วนลึกต่อ เพราะว่าหากเข้าไปในส่วนลึกอีก ไม่นานก็คงจะต้องพบเจอกับสัตว์อสูรระดับห้าขั้นสูง กระทั่งสัตว์อสูรระดับหกเลย

ถ้าเป็นแบบนั้น ก็ไม่เหมาะสมที่จะทำการสังหารขนานใหญ่เป็นวงกว้างแล้ว

หลินหยุนเริ่มที่จะออกสำรวจไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกบ้างแล้ว

สองวันจากนั้น หลินหยุนที่กำลังมุ่งหน้าเดินทางอยู่นั้นก็เกิดดวงตาเป็นประกายขึ้นอย่างกะทันหัน

เพราะว่าเขาได้พบเจอกับกลุ่มสัตว์อสูรระดับสี่ขนาดใหญ่

คือโคลนหิมะที่มีจำนวนนับพันตนเป็นอย่างน้อย

โคลนหิมะก็เหมือนกับงู อย่างน้อยรูปร่างลักษณะก็มีความคล้ายคลึงกันมาก

สีของโคลนหิมะ ก็เหมือนกับน้ำแข็งหิมะอย่างไรอย่างนั้น

ซึ่งเพียบพร้อมด้วยพลังความสามารถอันแข็งแกร่งที่แอบซ่อนอยู่

ถ้าหากไม่ระมัดระวัง หรือว่ามีพลังบำเพ็ญที่ไม่เพียงพอ ก็คงไม่สามารถพบเห็นพวกมันได้

ถ้าหากเข้าไปใกล้พวกมันโดยที่ไม่ทันตั้งตัว ก็จะถูกพวกมันเข้ารุมทำร้ายทันที

หลินหยุนยืนลอยตัวอยู่กลางอากาศ ดวงตาเป็นประกาย โคลนหิมะดำรงชีวิตอยู่ภายใต้ทุ่งน้ำแข็ง ดังนั้นถ้าหากไม่สามารถสังหารได้เป็นจำนวนมากภายใต้การโจมตีครั้งเดียวแล้ว โคลนหิมะที่หลงเหลือนั้น ก็จะมุดตัวเข้าไปภายใต้ทุ่งน้ำแข็งทันที

ซึ่งน้ำแข็งที่อยู่ท่ามกลางทุ่งน้ำแข็งนี้ ต่างก็แข็งแกร่งทนทานอย่างที่สุด

ต่อให้เป็นหลินหยุน ก็เกรงว่าคงยากที่จะทำลายให้แตกสลายในวงกว้างได้

ดังนั้น จึงห้ามที่จะปล่อยให้หลงเหลืออยู่เป็นจำนวนมากโดยเด็ดขาด

จะต้องโจมตีแล้วสามารถสังหารโคลนหิมะให้ได้เป็นจำนวนมาก

ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ร่างของหลินหยุนก็แวบหายไป กระโดดขึ้นไปอยู่กลางอากาศ ทันใดนั้น ร่างลางของเซียนที่ใหญ่มหึมาก็ได้ปรากฏขึ้น

พร้อมกับแสดงอิทธิฤทธิ์กระบี่ฉีกนภา ลำแสงกระบี่นับไม่ถ้วนก็พุ่งลงมาจากอากาศอย่างรวดเร็ว

ลำแสงกระบี่มากมายมหาศาล ราวกับว่าได้ทำลายล้างชั้นฟ้าชั้นดินจนแหลกสลาย

โคลนหิมะนับพันตน เดิมทียังคงรอคอยหลินหยุนอยู่ เพื่อที่จะลงมือลอบโจมตี

แต่กลับคิดไม่ถึงว่า หลินหยุนไม่ได้เข้ามาใกล้พวกมัน

แต่ได้ลงมือโจมตีด้วยพลังอานุภาพที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานอย่างที่สุดขนาดนี้

ขณะที่กำลังจะมุดตัวเข้าไปใต้ชั้นน้ำแข็ง

แต่พวกมันก็ไม่ทันการเสียแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์