จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1668

สรุปบท บทที่ 1668 หลินหยุนปรากฏตัว: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่ 1668 หลินหยุนปรากฏตัว – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่ 1668 หลินหยุนปรากฏตัว ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

การที่เย่หยู่ลงมืออย่างกะทันหันนั้นถึงกับสร้างความตื่นตกใจให้กับทุกคน โดยเขาได้กวาดสายตามองไปยังทุกคน พร้อมกับส่งเสียงฮึและพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “มอบแก้วหินปีศาจครึ่งหนึ่งออกมา จากนั้นก็ไปยืนอยู่ด้านข้าง ห้ามออกไปไหนก่อน! ตอนนี้เริ่มต้นได้แล้ว! ”

ได้ยินที่เขาพูด ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป

แต่ว่าก็ยังคงทยอยมอบแก้วหินปีศาจที่ตนเองได้มานั้นออกมา คนจำนวนหนึ่งร้อยสองร้อยคน ต่างก็มีแก้วหินปีศาจที่มีระดับที่ถือว่าไม่สูงนัก

แก้วหินปีศาจระดับสูงที่สุดคือระดับสี่

ขั้นต่ำที่สุดแม้แต่ระดับหนึ่งและระดับสองก็ยังมี!

แต่จำนวนก็ยังถือว่าไม่น้อย ในตัวของแต่ละคนอย่างน้อยจะมีอยู่ที่ประมาณหลักร้อย

แต่คนพวกนี้มีจำนวนลดน้อยลงไปกว่าตอนที่เข้ามาด้านในส่วนหนึ่ง

คงน่าจะเสียชีวิตลงภายในทุ่งน้ำแข็งแล้ว

สำหรับที่ว่าจะหลีกเลี่ยงการถูกพวกสี่สำนักใหญ่ปล้นสิ่งของ แล้วจึงได้กลับออกไปก่อนนั้น นั่นคงจะไม่ได้รับการอนุญาต

ไม่ถึงวันสุดท้าย ผู้ใดก็ห้ามที่จะกลับออกไป!

นี่ก็เป็นการช่วยกำจัดโอกาสความเป็นไปได้ในการแทรกตัวหลบหนีโดยสิ้นเชิง

หลินหยุนอยู่ในกลุ่มคน และก็มองเห็นลูกศิษย์สำนักสำนักยีเจี้ยนทั้งสองคนนั้น

เวลานี้พลังบำเพ็ญของหญิงสาวคนนั้นได้บรรลุถึงขั้นแดนจิตปฐมแล้ว

ชัดเจนว่า ทั้งสองคนมีผลลัพธ์ที่ถือว่าพอใช้ได้ภายในทุ่งน้ำแข็ง

ไม่นานนัก คนกว่าสองร้อยคน ก็ได้นำแก้วหินปีศาจที่ได้มานั้นจำนวนครึ่งหนึ่ง มอบให้กับเย่หยู่กันทุกคน

เย่หยู่จึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และก็ได้กวาดสายตามองไปยังทุกคนอีกครั้ง “ตอบคำถามฉันหนึ่งข้อก่อน แล้วพวกนายก็สามารถกลับออกไปได้แล้ว! ”

ทุกคนต่างตื่นตกใจกันทั้งหมด โดยไม่รู้ว่าเขาต้องการถามอะไร ในจำนวนนั้นมีลูกศิษย์สำนักเล็กคนหนึ่งก็รีบพูดขึ้นอย่างว่าประจบประแจงว่า “คุณชายเย่หยู่ถามมาได้เลย หากพวกเรารู้จะต้องตอบออกมาทั้งหมดอย่างแน่นอน! ”

ทุกคนได้ยินดังนั้นก็พากันพยักหน้า

เย่หยู่พูดขึ้นว่า “ท่ามกลางพวกเราทุกคนที่เข้าไปด้านในจากทางเมืองล่าบูรพา นอกจากพวกเราทั้งสี่คนแล้ว ยังมีผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนปลายอีกคนหนึ่ง พวกนายมีใครรับรู้กันบ้างไหมว่า ผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนปลายนั้นคือใคร? ถ้าหากสามารถบอกข้อมูลและความเป็นไปของคนผู้นี้ได้ ฉันจะมอบแก้วหินปีศาจครึ่งหนึ่งกลับคืนให้กับพวกนาย! ”

ได้ยินที่เขาพูด ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็จ้องหน้าสบตาซึ่งกันและกัน พร้อมกับได้เริ่มวิพากษณ์วิจารณ์กันขึ้น

แต่ก็ยังคงไม่มีใครที่จะพูดอะไรออกมา

เพราะว่าสิ่งแรกที่พวกเขารู้สึกนั้นก็คือมันช่างน่าเหลือเชื่อมาก!

ยังมีผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนปลายอีกคนหนึ่งด้วยเหรอ?

เป็นไปได้อย่างไรกัน?

นอกจากพวกเขาทั้งสี่สำนักใหญ่แล้ว ยังจะมีผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนปลายอีกที่ไหนกันล่ะ?

ลูกศิษย์สำนักเล็กที่ก่อนหน้านี้ได้เอ่ยปากนั้นก็ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแอว่า “คุณชายเย่หยู่ พวกเราต่างก็มีพลังบำเพ็ญที่ต่ำต้อย ท่ามกลางพวกเราทั้งหมดนี้แม้แต่แดนจิตปฐมตอนต้นก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น”

“ไม่พบเห็นว่าจะมีใครที่มีพลังบำเพ็ญแดนจิตปฐมตอนปลายเลย! ”

“หวังว่าคุณชายจะให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย! ”

ด้านข้างของคุณชายเย่หยู่ ผู้บำเพ็ญเซียนหญิงของสำนักจินต์ได้พูดขึ้นว่า “อย่าได้ไปสร้างความลำบากใจให้กับพวกเขาอีกเลย พลังบำเพ็ญของคนผู้นั้นอย่างน้อยก็เทียบเท่ากับพวกเราสี่คน สถานที่ที่เข้าไปนั้น พวกเขาเหล่านี้คงจะไม่สามารถพบเจอได้เป็นแน่! เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ปรากฏตัวออกมา อย่างนั้นพวกเราก็รอคอยกันต่อไป! ไม่ช้าหรือเร็วก็จะต้องออกมาอย่างแน่นอน! ”

คุณชายเย่หยู่ได้ยินดังนั้น ก็มองไปยังกลุ่มคนและส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา “ไอ้พวกไม่ได้เรื่อง! ไสหัวไปซะ! ”

ทุกคนราวกับได้รับการอภัยโทษ และก็ได้ทยอยจากไปอย่างรวดเร็ว

คุณชายเย่หยู่มองไปยังเงาหลังของเขาที่กำลังเดินจากไปแล้วก็หัวเราะเยาะ “ไอ้คนที่ไม่รู้จักความเป็นความตาย ถือว่านายเอาตัวรอดได้เร็ว! ”

ขณะที่พูด ก็ได้หันหลังมองไปยังบริเวณส่วนลึกของทุ่งน้ำแข็ง

เวลานี้ หลินหยุนที่อำพรางกายอยู่ในอากาศก็สิ้นหวังจำใจ

เจียซินพูดขึ้นว่า “แดนจิตปฐมตอนปลายสี่คน ยากที่จะต่อกรด้วย! ถ้าหากจะลงมือจริง ๆ แล้ว ก็จะต้องลงมือโจมตีหนึ่งคนหรือสองคนให้บาดเจ็บอย่างหนักโดยเร็วที่สุด! ไม่อย่างนั้น ก็ยากที่จะรับมือ! ”

หลินหยุนพยักหน้า คิดไม่ถึงว่าเดิมทีทั้งสี่สำนักใหญ่นั้นต่างก็มีสถานะเป็นผู้แข่งขัน แต่กลับกลายเป็นว่าเวลานี้ได้มาร่วมมือกันแล้ว

แต่ว่า หลินหยุนดวงตาเป็นประกาย และพูดขึ้นอย่างยิ้มแย้มว่า “ก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายเลย บางทีอาจจะสามารถร่วมมือกันก็ได้! ”

ขณะที่พูด ร่างของเขาก็กระพริบสั่นไหว ก้าวกระโดดออกมา

เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายลมหายใจของเขา ทั้งสี่คนที่นำโดยเย่หยู่นั้น ต่างก็มีแววตาที่เปลี่ยนไป เครื่องรางก็พลันปรากฏขึ้นบนมือ

หลินหยุนลอยตัวมาหยุดอยู่ตรงหน้า และจ้องมองไปยังสี่คนนั้น พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ปล่อยให้ทั้งสี่ท่านรอคอยอยู่ตั้งนานเลย! ”

เมื่อเห็นหลินหยุน เย่หยู่ก็โมโหเดือดดาลขึ้นทันที พร้อมที่จะลงมือ “หลินหยุนใช่ไหม นายช่างบังอาจยิ่งนัก ฉันจะสังหารนายเดี๋ยวนี้! ”

หลินหยุนพูดขึ้นว่า “คุณชายเย่หยู่ทำไมจะต้องรีบร้อนในตอนนี้ด้วย? พวกคุณสี่คนต่างก็มีพลังบำเพ็ญแดนจิตปฐมตอนปลายกันทั้งนั้น หากคิดที่จะจัดการกับหลินหยุน จะลงมือเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? ”

“ตัวฉัน มีข้อตกลงแลกเปลี่ยนอย่างหนึ่ง ที่อยากจะร่วมมือกับทั้งสี่ท่าน”

“มันอาจจะเกี่ยวโยงไปถึงการจัดอันดับตารางในตอนท้ายของงานล่าสัตว์ในครั้งนี้ของทั้งสี่คนด้วยก็เป็นได้! ”

“ฉันคิดว่า พวกคุณทั้งสี่คนคงจะเกิดความสนใจขึ้นแล้วล่ะสิ? ”

ได้ยินที่หลินหยุนพูด ลูกศิษย์สำนักดาบบินก็พูดขึ้นว่า “พี่เย่หยู่ อย่าเพิ่งรีบร้อนลงมือ ลองฟังคนผู้นี้พูดสักหน่อยว่าเป็นอย่างไร! ซึ่งก็ตรงกับที่เขาพูดนั่นแหละว่า พวกเราจะกลัวเขาหลบหนีไปอย่างนั้นเหรอ? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์