การที่เย่หยู่ลงมืออย่างกะทันหันนั้นถึงกับสร้างความตื่นตกใจให้กับทุกคน โดยเขาได้กวาดสายตามองไปยังทุกคน พร้อมกับส่งเสียงฮึและพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “มอบแก้วหินปีศาจครึ่งหนึ่งออกมา จากนั้นก็ไปยืนอยู่ด้านข้าง ห้ามออกไปไหนก่อน! ตอนนี้เริ่มต้นได้แล้ว! ”
ได้ยินที่เขาพูด ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
แต่ว่าก็ยังคงทยอยมอบแก้วหินปีศาจที่ตนเองได้มานั้นออกมา คนจำนวนหนึ่งร้อยสองร้อยคน ต่างก็มีแก้วหินปีศาจที่มีระดับที่ถือว่าไม่สูงนัก
แก้วหินปีศาจระดับสูงที่สุดคือระดับสี่
ขั้นต่ำที่สุดแม้แต่ระดับหนึ่งและระดับสองก็ยังมี!
แต่จำนวนก็ยังถือว่าไม่น้อย ในตัวของแต่ละคนอย่างน้อยจะมีอยู่ที่ประมาณหลักร้อย
แต่คนพวกนี้มีจำนวนลดน้อยลงไปกว่าตอนที่เข้ามาด้านในส่วนหนึ่ง
คงน่าจะเสียชีวิตลงภายในทุ่งน้ำแข็งแล้ว
สำหรับที่ว่าจะหลีกเลี่ยงการถูกพวกสี่สำนักใหญ่ปล้นสิ่งของ แล้วจึงได้กลับออกไปก่อนนั้น นั่นคงจะไม่ได้รับการอนุญาต
ไม่ถึงวันสุดท้าย ผู้ใดก็ห้ามที่จะกลับออกไป!
นี่ก็เป็นการช่วยกำจัดโอกาสความเป็นไปได้ในการแทรกตัวหลบหนีโดยสิ้นเชิง
หลินหยุนอยู่ในกลุ่มคน และก็มองเห็นลูกศิษย์สำนักสำนักยีเจี้ยนทั้งสองคนนั้น
เวลานี้พลังบำเพ็ญของหญิงสาวคนนั้นได้บรรลุถึงขั้นแดนจิตปฐมแล้ว
ชัดเจนว่า ทั้งสองคนมีผลลัพธ์ที่ถือว่าพอใช้ได้ภายในทุ่งน้ำแข็ง
ไม่นานนัก คนกว่าสองร้อยคน ก็ได้นำแก้วหินปีศาจที่ได้มานั้นจำนวนครึ่งหนึ่ง มอบให้กับเย่หยู่กันทุกคน
เย่หยู่จึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และก็ได้กวาดสายตามองไปยังทุกคนอีกครั้ง “ตอบคำถามฉันหนึ่งข้อก่อน แล้วพวกนายก็สามารถกลับออกไปได้แล้ว! ”
ทุกคนต่างตื่นตกใจกันทั้งหมด โดยไม่รู้ว่าเขาต้องการถามอะไร ในจำนวนนั้นมีลูกศิษย์สำนักเล็กคนหนึ่งก็รีบพูดขึ้นอย่างว่าประจบประแจงว่า “คุณชายเย่หยู่ถามมาได้เลย หากพวกเรารู้จะต้องตอบออกมาทั้งหมดอย่างแน่นอน! ”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็พากันพยักหน้า
เย่หยู่พูดขึ้นว่า “ท่ามกลางพวกเราทุกคนที่เข้าไปด้านในจากทางเมืองล่าบูรพา นอกจากพวกเราทั้งสี่คนแล้ว ยังมีผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนปลายอีกคนหนึ่ง พวกนายมีใครรับรู้กันบ้างไหมว่า ผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนปลายนั้นคือใคร? ถ้าหากสามารถบอกข้อมูลและความเป็นไปของคนผู้นี้ได้ ฉันจะมอบแก้วหินปีศาจครึ่งหนึ่งกลับคืนให้กับพวกนาย! ”
ได้ยินที่เขาพูด ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็จ้องหน้าสบตาซึ่งกันและกัน พร้อมกับได้เริ่มวิพากษณ์วิจารณ์กันขึ้น
แต่ก็ยังคงไม่มีใครที่จะพูดอะไรออกมา
เพราะว่าสิ่งแรกที่พวกเขารู้สึกนั้นก็คือมันช่างน่าเหลือเชื่อมาก!
ยังมีผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนปลายอีกคนหนึ่งด้วยเหรอ?
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
นอกจากพวกเขาทั้งสี่สำนักใหญ่แล้ว ยังจะมีผู้บำเพ็ญเซียนแดนจิตปฐมตอนปลายอีกที่ไหนกันล่ะ?
ลูกศิษย์สำนักเล็กที่ก่อนหน้านี้ได้เอ่ยปากนั้นก็ได้พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแอว่า “คุณชายเย่หยู่ พวกเราต่างก็มีพลังบำเพ็ญที่ต่ำต้อย ท่ามกลางพวกเราทั้งหมดนี้แม้แต่แดนจิตปฐมตอนต้นก็มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น”
“ไม่พบเห็นว่าจะมีใครที่มีพลังบำเพ็ญแดนจิตปฐมตอนปลายเลย! ”
“หวังว่าคุณชายจะให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย! ”
ด้านข้างของคุณชายเย่หยู่ ผู้บำเพ็ญเซียนหญิงของสำนักจินต์ได้พูดขึ้นว่า “อย่าได้ไปสร้างความลำบากใจให้กับพวกเขาอีกเลย พลังบำเพ็ญของคนผู้นั้นอย่างน้อยก็เทียบเท่ากับพวกเราสี่คน สถานที่ที่เข้าไปนั้น พวกเขาเหล่านี้คงจะไม่สามารถพบเจอได้เป็นแน่! เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ปรากฏตัวออกมา อย่างนั้นพวกเราก็รอคอยกันต่อไป! ไม่ช้าหรือเร็วก็จะต้องออกมาอย่างแน่นอน! ”
คุณชายเย่หยู่ได้ยินดังนั้น ก็มองไปยังกลุ่มคนและส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา “ไอ้พวกไม่ได้เรื่อง! ไสหัวไปซะ! ”
ทุกคนราวกับได้รับการอภัยโทษ และก็ได้ทยอยจากไปอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...