จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1682

สรุปบท บทที่ 1682 นายเป็นใครกันแน่: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 1682 นายเป็นใครกันแน่ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1682 นายเป็นใครกันแน่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

จ้องมองหลินหยุนอย่างละเอียดพักหนึ่ง หญิงสาววัยกลางคนพูดขึ้นมาว่า “นายมีความสามารถมาก แต่น่าเสียดายไม่เหมาะที่จะฝึกฝนวิชาสำนักจินต์ของฉัน สำนักจินต์ของฉันไม่สามารถให้ทรัพยากรฝึกตนที่มากเกินไปกับนายได้ ดังนั้น นายรอไปสักพักดีกว่า ตราบใดที่ฉวี่เหอกลับมาที่สำนักบูรพา นายยังเข้าร่วมสำนักบูรพาได้!”

แววตาของหลินหยุนสั่นไหว และพูดขึ้นมาว่า “คนอย่างผม นิสัยไม่ค่อยดี ในเมื่อผมไปสองครั้งแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไปครั้งที่สามเด็ดขาด และความต้องการของผมง่ายดายมากๆ นั่นก็คืออาศัยใช้ตัวตนของสำนักจินต์”

“ส่วนทรัพยากรนั้น ผมสามารถได้รับมาเอง!”

“สี่สำนักใหญ่ ก็ไปที่ทางเหนือของเขตดาวเพื่อพัฒนาพื้นที่ ไปรับทรัพยากร ในนั้น สำนักบูรพาครอบครองพื้นที่ใหญ่ที่สุด ที่เหลือสำนักจินต์ สำนักกระบี่ สำนักดาบลอย ตามหลังด้วยอย่างอื่น”

“ก็ล้วนมีการพัฒนาพื้นที่เป็นของตัวเอง ฉันต้องการแค่จำกัดจำนวนแบบนี้!”

หญิงสาววัยกลางคนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ และพูดขึ้นมาว่า “พูดเช่นนี้ ร่วมมือกันดีกว่า มาที่นี่เพื่อความแข็งแกร่ง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นายสามารถที่จะให้สำนักจินต์ของฉันทำอะไรได้บ้าง?”

หลินหยุนครุ่นคิด มองไปทางหญิงสาวตรงหน้า หญิงสาวคนนี้ดูเหมือนไม่มีปากไม่มีเสียง ดูเหมือนเงียบสงบอย่างยิ่ง แต่กลับยากมากที่จะเอาเปรียบอีกฝ่าย

ไม่เอะอะโวยวาย แต่กลับเป็นคนไม่ยอมคนเลยสักนิด

หลินหยุนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นมาว่า “ทรัพยากรที่ผมได้รับมาทั้งหมด สามารถส่งมอบให้สำนักจินต์สามส่วน!”

เมื่อหญิงวัยกลางคนได้ยินเช่นนี้ ส่ายหน้าในทันที และพูดขึ้นมาว่า “สามส่วนน้อยเกินไป! อย่างน้อยๆก็ต้องห้าสว่น ฉันจะให้นายใช้ชื่อของสำนักจินต์ เข้าสู่พื้นที่พัฒนาของสำนักจินต์”

หลินหยุนพูดขึ้นมาว่า “ก็ได้ ห้าส่วนก็ห้าสว่น!”

ไม่รู้จักมีพื้นที่พัฒนา อันที่จริงก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ว่าเข้าไปโดยไม่ดูกาลเทศะ ยังอันตรายเกินไป

และสี่สำนักใหญ่ มีพื้นที่พัฒนาผืนใหญ่แล้ว สามารถเอาทรัพยากรจากในนั้นได้

แม้ว่าภัยคุกคามจะยังคงมีอยู่ แต่ก็ยังเล็กกว่ามาก

ส่วนแบ่งให้อีกฝ่ายห้าส่วนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ตอนนี้เขาต้องการพลังแห่งกฎเกณฑ์จำนวนมาก

ตราบใดที่เข้าสู่ในนั้น เขาสามารถทำความเข้าใจได้อย่างต่อเนื่อง ดูดซับเสริมสร้างความแข็งแกร่งผสมผสานกฎเกณฑ์ของตัวเองอย่างต่อเนื่องได้แล้ว

ส่วนทรัพยากรอื่นๆ เขาไม่ต้องการจริงๆ

ดังนั้น หลินหยุนก็ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะไม่ตอบตกลงเป็นธรรมดา

เมื่อได้ยินหลินหยุนตอบตกลง หญิงวัยกลางคนพยักหน้าเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นมาว่า “ได้! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป นายก็เป็นผู้อาวุโสที่ปรึกษาในสำนักจินต์ของฉัน!”

“สำนักของฉันไม่เคยมีตำแหน่งผู้อาวุโสที่ปรึกษามาก่อน นายก็มาเป็นคนแรกนี้เลยละกัน!”

จากนั้น ป้ายยกชิ้นหนึ่งปรากฏอยู่ในมือ ส่องแสงวับวาว หลินหยุนผู้อาวุโสที่ปรึกษาของสำนักจินต์ ตัวหนังสือนี้ได้ปรากฏอยู่บนป้ายหยก

นำป้ายหยกส่งมอบให้กับหลินหยุน

หลินหยุนรับป้ายหยกมา มองดูเล็กน้อย คารวะให้กับหญิงสาว และพูดขึ้นมาว่า “ขอบคุณมากครับ!”

หลังจากที่พูดจบ ก้าวเดินออกไป และออกจากสำนักจินต์

มองดูหลินหยุนจากไป หญิงสาวคนนั้นพูดด้วยความไม่เข้าใจในทันที “ท่านอาจารย์ ทำไมรับปากกับคนคนนี้อย่างง่ายดายขนาดนี้?”

“แม้ว่าพวกเราจะได้รับทรัพยากรห้าส่วน นั่นก็เป็นทรัพยากรในพื้นที่พัฒนาสำนักจินต์ของพวกเรา นี่เทียบเท่ากับว่าส่งมอบทรัพยากรของพวกเราเองให้กับเขาห้าส่วนไม่ใช่เหรอ?”

หญิงวัยกลางคนพยักหน้าเล็กน้อย และพูดขึ้นมาว่า “คนคนนี้ไม่ธรรมดา เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดอัจฉริยะจริงๆ ถือว่าได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีแค่นั้นเอง! ตั้งแต่จบงานล่าสัตว์ จนถึงตอนนี้ ระยะเวลาเก้าเดือน คนคนนี้ก้าวเข้าสู่ผลการฝึกตนดั่งเทพแล้ว!”

“ยิ่งไปกว่านั้นอย่างที่ตัวของเขาพูดมาเอง เขาได้ก้าวสู่ดั่งเทพ ไม่ได้เสียเวลามากเกินไป!”

“สำคัญที่สุดก็คือ การผสมผสานกฎเกณฑ์ทั้งหมดบนตัวคนคนนี้ เกินสามกฎเกณฑ์อย่างแน่นอน!”

เจียซินพูดขึ้นมาว่า “ฝึกฝนที่สำนักจินต์นี้ กลับมองการณ์ไกลมาก แต่ว่าผลการฝึกตนของหญิงคนนั้นน่าจะเป็นแดนสู่ธรรมะ แข็งแกร่งมาก!”

หลินหยุนยิ้มจางๆ และพูดขึ้นมาว่า “เป็นเรื่องที่ดี! ในเมื่อมีป้ายประจำตัวนี้ ก็สามารถไปที่ยังดินแดนทางเหนือได้!”

หลินหยุนหยิบแผนผังดาวจักรวาลออกมา ตามหาที่อยู่ที่สำนักจินต์พัฒนาออกมา

เมื่อเทียบกับอีกสามสำนักใหญ่ สำนักจินต์อ่อนแอที่สุดจริงๆ ไม่พูดถึงสำนักบูรพาแล้ว ทั่วทั้งพื้นที่พัฒนา ใหญ่กว่าสามสำนักใหญ่รวมกัน

และสำนักกระบี่กับสำนักดาบลอย ค่อนข้างใช้ได้ทีเดียว

สำนักจินต์เทียบกับพวกเขา เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของอีกฝ่าย

หลินหยุนหยิบของวิเศษที่ใช้เหาะเหินออกมา ออกจากดาวบูรพาในทันที และเดินไปดินแดนทางเหนือตลอด ไปยังสถานที่เปิดออกของสำนักจินต์

ครึ่งเดือนต่อมา

หลินหยุนมาถึงที่มืดมัวผืนหนึ่ง

ทันทีที่เขามาถึง ผู้อาวุโสที่มีผมสีขาว หลังโค้งงอ ยันไม้เท้า ก็ขวางอยู่ตรงหน้าของหลินหยุน

ผลการฝึกตนของอีกฝ่ายคือดั่งเทพตอนปลาย

ลมปราณแข็งแกร่งมาก

หลินหยุนก็ไม่ได้พูดพร่ำทําเพลงอะไร หยิบป้ายประจำตัวออกมา โยนไปทางผู้อาวุโส

ผู้อาวุโสยื่นมือรับมา และขมวดคิ้วพูดทันทีว่า “สำนักจินต์ของฉันไม่เคยมีผู้อาวุโสที่ปรึกษามาก่อน เด็กน้อย พูดมา นายเป็นใครกันแน่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์