เมื่อเข้ามาในภูเขาเสี่ยวหยุนแล้ว น้ำเสียงของหลินหยุนก็ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง "มีอีกเรื่องหนึ่ง ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน สำนักบูรพาของพวกแกเป็นพวกไร้ประโยชน์ตั้งแต่ลูกศิษย์ถึงอาจารย์หรือเปล่า! ถ้าพวกแกกล้าทำเรื่องที่ไร้ยางอายมากๆ พวกแกก็ใช้พลังทั้งหมดของสำนักมาต่อสู้กับฉันที่เป็นแค่ผู้ฝึกอิสระได้เลย!"
"ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน สำนักบูรพาที่เป็นสำนักใหญ่ จะกล้าทำเรื่องไร้ยางอายแบบนี้ไหม!"
"ตอนนี้ฉันไว้ชีวิตพวกแก รีบไสหัวไปซะ!"
น้ำเสียงของหลินหยุนสะเทือนฟ้าดิน รัศมีร้อยกิโลเมตรต่างได้ยินอย่างชัดเจน!
อันที่จริง ถึงแม้เขาไม่ทำแบบนี้ แต่บริเวณโดยรอบก็มีนักบำเพ็ญเซียนจำนวนมากค่อยสังเกตเรื่องที่เกิดขึ้นในภูเขาเสี่ยวหยุนอยู่แล้ว!
ตอนนี้น้ำเสียงของหลินหยุนแพร่กระจายไปทั่ว ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
เมืองที่อยู่ไม่ไกลจากภูเขาเสี่ยวหยุนมากนัก เมืองนี้มีชื่อว่าเมืองเอี๋ยนหยาง
ในเวลานี้ บนกำแพงของประตูเมือง มีชายชราและเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุน สีหน้าของชายวัยรุ่นแย่มากๆและพูด "หลินหยุนคนนี้หาเรื่องตายชัดๆ! เขาทำแบบนี้ เขาต้องการอะไรกันแน่? เขาได้ส่งป้ายประจำตัวผู้อาวุโสที่ปรึกษาให้เจ้าสำนักของเราแล้ว เขาคิดว่าสำนักจินต์ของเราจะยอมออกหน้าเพื่อช่วยเขาอีกเหรอ?"
ภูเขาเสี่ยวหยุนเป็นอาณาเขตของเมืองเอี๋ยนหยาง
อันที่จริงก่อนหน้านี้ ตอนที่คุณชายเทียนหยุนปรากฏตัวและหาเรื่องภูเขาเสี่ยวหยุน พวกเขาสองคนก็เคยปรากฏตัวเช่นกัน แต่เมื่อมองเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคุณชายเทียนหยุน ทำให้พวกเขาจากไปทันที
เพราะในเวลานั้น พวกเขายังไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของหลินหยุน
แต่เมื่อจิ้งซือปรากฏตัวที่ภูเขาเสี่ยวหยุน เรื่องนี้ทำให้พวกเขาสองคนตกใจมากๆ
ทำให้พวกเขารู้ฐานะของหลินหยุน และตกตะลึงมากๆที่เจ้าสำนักต้องการให้หลินหยุนเข้ารวมสำนักของพวกเขา
ยังดีที่เจ้าสำนักไม่ได้ถือโทษโกรธพวกเขาสองคน!
และหลินหยุนก็ได้ส่งมอบป้ายประจำตัวผู้อาวุโสที่ปรึกษากลับมาด้วย!
ดังนั้นพวกเขาสองคนก็เลยไม่ได้ให้ความสนใจกับภูเขาเสี่ยวหยุนอีก
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่ทำให้พวกเขาสองคนคาดคิดไม่ถึงก็คือ ลูกศิษย์ของสำนักบูรพาไปหาเรื่องที่ภูเขาเสี่ยวหยุน และสุดท้ายเรื่องก็บานปลายมาถึงจุดนี้
ยังไงซะ ที่นี่ก็คืออาณาเขตของสำนักจินต์
ถ้ามู่อี้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นที่นี่ สำนักจินต์ก็คงต้องมีส่วนรับผิดชอบ
ชายชราหายใจเข้าลึกๆและเปล่งเสียงเย็นชาออกมา "หาเรื่องตายชัดๆ! รีบรายงานเรื่องนี้กลับไปที่สำนัก ให้คนในสำนักเป็นคนตัดสินใจ พวกเราสองคนไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องนี้ เพราะเรื่องแบบนี้พวกเราสองคนไม่มีสิทธิ์เข้าไปยุ่งอยู่แล้ว!"
ชายหนุ่มวัยรุ่นพยักหน้าทันที และรีบส่งข่าวกลับไปที่สำนักจินต์
ผ่านไปไม่นาน จิ้งซือได้รับข้อความทันที
เมื่อรู้ว่าลูกศิษย์ของสำนักบูรพามาหาเรื่องที่ภูเขาเสี่ยวหยุน มียอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนปลายโดนหลินหยุนโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถูกจับตัวเอาไว้ และให้อีกฝ่ายนำสิ่งรองรับสองอันมาแลกชีวิตของมู่อี้คืน ทำให้จิ้งซือตกตะลึงมากๆ
เรื่องที่ตกตะลึงก็คือ……หลินหยุนสามารถทำให้ยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนปลายบาดเจ็บสาหัสได้!
ต้องรู้ไว้เรื่องหนึ่ง ลูกศิษย์ทุกคนของสำนักบูรพา พวกเขาต่างเป็นสุดยอดอัจฉริยะ และต่างจากผู้ฝึกอิสระมากๆ
ถ้าไม่ใช่สุดยอดอัจฉริยะหนึ่งในหมื่นคน พวกเขาไม่มีสิทธิ์เป็นลูกศิษย์ของสำนักบูรพาอยู่แล้ว
บางทีอาจจะไม่ใช่คัดเลือกจากหนึ่งในหมื่นคน แต่เป็นคัดเลือกจากหนึ่งในแสน หรือหนึ่งในล้านคนมากกว่า!
ดังนั้น ยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนปลายของสำนักบูรพา ไม่ใช่ยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนปลายทั่วไปสามารถเทียบได้อยู่แล้ว
ส่วนคนที่ชื่อมู่อี้!
จิ้งซือเคยได้ยินชื่อเสียงของเขามาก่อน เขาเป็นสุดยอดอัจฉริยะอันดับสองของเขาจื่อหยุน
ฝึกฝนถึงแดนดั่งเทพตอนปลาย และเป็นสุดยอดอัจฉริยะด้วย !
แต่หลินหยุนฝึกฝนถึงระดับไหนเหรอ?
เวลาผ่านไปไม่นานเลย หลังจากเจอกันครั้งที่แล้วในภูเขาเสี่ยวหยุน
หลินหยุนต้องอัจฉริยะแค่ไหนกันแน่ ถึงทำให้เขาสามารถเอาชนะมู่อี้ได้?
ไม่เพียงทำลายกฎเกณฑ์หลอมรวมของอีกฝ่าย ยังสามารถจับตัวอีกฝ่ายเอาไว้ เรื่องนี้เหลือเชื่อมากๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...