จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1706

สรุปบท บทที่ 1706 ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 1706 ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1706 ทดลองซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

คนที่มานั้นไม่ใช่คนอื่นคนไกล นั่นก็คือคุณหนูจี้ฝานซิงแห่งตระกูลจี้

ตระกูลจี้เลยนะ!

ใครก็คาดคิดไม่ถึงเช่นกันว่า จี้ฝานซิงจะมาที่นี่ด้วย โดยไม่ต้องการที่จะให้พวกเขาไปล้างแค้น

ในสถานะที่ต้องทำการตอบแทน จึงได้ยกป่าไม้หมึกที่เดิมทีเป็นของตระกูลจี้นั้น ส่งมอบให้กับตระกูลเสิ่น

ภายในป่าไม้หมึก นั้น มีผลผลิตต้นหมึกชนิดหนึ่ง

ซึ่งเป็นวัตถุดิบชั้นยอดในการหลอมเครื่องราง

นี่ก็เป็นทรัพยากรชนิดหนึ่งที่ทางตระกูลจี้เป็นผู้ควบคุมถึงขนาดที่ทำให้ทุกคนต่างพากันอิจฉา

ถึงแม้จะไม่มอบป่าไม้หมึกให้ อันที่จริงทางตระกูลเสิ่นนั้น ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาก

เพราะว่า ถึงแม้จะเป็นหนึ่งในสิบตระกูลใหญ่เหมือนกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างตระกูลเสิ่นกับตระกูลจี้แล้ว ก็ยังมีความห่างไกลกันลิบลับ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนเป็นอย่างมาก

ดังนั้น ภายใต้สภาวะที่จำใจ ตระกูลเสิ่นจึงทำได้เพียงตอบตกลงเท่านั้น

แต่หลังจากที่จี้ฝานซิงกลับไปแล้ว ทุกคนในตระกูลเสิ่น ก็ยังคงไม่ละทิ้งความพยายาม

ต่อให้จะไม่สามารถแก้แค้นอย่างเปิดเผยได้

แต่ก็จะแสวงหาจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมเพื่อลักลอบแก้แค้น!

ดังนั้น พวกเขาก็ยังคงตัดสินใจที่จะลงมือ!

นี่ก็คือเหตุผลที่ถูกลอบสังหาร หลังจากที่หลินหยุนพาฉินหลันออกมาจากในเมืองแล้ว

เวลานี้

เสิ่นอ้าวเทียนกับจ้าวซื่อผู้เป็นภรรยา รวมถึงผู้อาวุโสทั้งหมดในตระกูล ต่างก็กำลังรอฟังข่าวความเคลื่อนไหวอยู่ในศาลบรรพบุรุษ

ครั้งนี้ได้ส่งปัญญาชนที่ปรึกษาแดนดั่งเทพตอนปลายไป โอกาสที่จะสังหารหลินหยุนได้สำเร็จนั้น จึงมีสูงมาก!

จากพลังบำเพ็ญที่หลินหยุนได้แสดงออกมาให้เห็น บนท้องถนนในวันนั้น

อย่างมากที่สุดก็คือขั้นแดนดั่งเทพตอนกลางก็เท่านั้น

การที่ยอดฝีมือแดนดั่งเทพตอนปลายไปลอบสังหาร โดยเผชิญหน้ากับพลังบำเพ็ญระดับนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะล้มเหลว

เมื่อถึงเวลานั้นต่อให้จี้ฝานซิงจะรับทราบ แต่ก็ไม่สามารถมากล่าวโทษถึงตัวพวกเขาได้

ก็แค่พูดตอบไปว่าไม่รู้เรื่องก็เท่านั้น

ยังไงก็แค่ผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพตอนปลายคนหนึ่งเท่านั้น ไม่มีทางที่จะพาดพิงมาถึงตระกูลเสิ่นได้

เพียงแค่รอว่าปัญญาชนที่ปรึกษาลงมือสำเร็จแล้ว ก็จะนำการตายของหลินหยุน มาเซ่นไหว้ไว้อาลัยต่อดวงวิญญาณลูกชายของพวกเขาที่อยู่บนสวรรค์

แต่ในขณะนั้นเอง ชายวัยกลางคนในชุดคลุมยาวสีดำคนหนึ่ง ที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็เดินโซซัดโซเซเข้ามา

ทุกคนเห็นดังนั้น ต่างก็ตื่นตกใจขึ้นทันที

เสิ่นอ้าวเทียนได้แวบหายตัว มาที่หน้าประตูของศาลบรรพบุรุษ แล้วประคองตัวของชายวัยกลางคนเอาไว้ “ผู้อาวุโสเฉิน ทำไมถึงบาดเจ็บสาหัสกลับมาอย่างนี้? หรือว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอะไรขึ้น? ลูกสาวของตระกูลจี้นั้นยื่นมือเข้ามายุ่งเหรอ? ”

ผู้อาวุโสเฉินพูดว่า “เจ้าบ้าน! ตระกูลจี้......ไม่ได้ยื่นมือเข้ามายุ่งหรอก แต่พวกเรา......พวกเราคาดการณ์กันผิดพลาด ผิดพลาดอย่างหนักเลย ไอ้หนุ่มที่ชื่อหลินหยุนนั้น ก็มีพลังบำเพ็ญขั้นแดนดั่งเทพตอนปลายเหมือนกัน อีกทั้ง ยังจะแข็งแกร่งมากกว่าฉันอีกด้วย! ”

เสิ่นอ้าวเทียนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “อะไรนะ? ยังจะแข็งแกร่งกว่านายอีกเหรอ? ”

ในฐานะที่ผู้อาวุโสเฉินเป็นปัญญาชนที่ปรึกษาของตระกูลเสิ่น มีพลังบำเพ็ญถึงขั้นระดับไหน เจ้าบ้านอย่างเขานั้นรับรู้และเข้าใจอย่างชัดเจน

ตระกูลเสิ่นมีปัญญาชนที่ปรึกษาทั้งหมดสิบสองคน

ผู้อาวุโสเฉินผู้นี้ อย่างน้อยก็จัดอยู่ในห้าอันดับแรก ถึงขนาดที่ว่าทั้งสี่คนที่มีอันดับอยู่เหนือกว่าเขานั้น ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถต่อสู้ได้

มีเพียงแค่ผู้อาวุโสที่ปรึกษาอันดับหนึ่งเท่านั้น ที่มีพลังความสามารถเก่งกาจเกินจะบรรยาย

ซึ่งเป็นเพื่อนรักของเสิ่นอ้าวเทียน

โดยพลังบำเพ็ญของเขานั้นขาดอีกเพียงแค่ขั้นเดียว ก็สามารถที่จะบรรลุเข้าสู่ธรรมะได้แล้ว

ขณะที่พูด ก็ก้าวเดินออกจากศาลบรรพบุรุษ

......

ทางฝ่ายหลินหยุนนั้นหลังจากที่มาถึงคฤหาสน์ของจี้ฝานซิงแล้ว ก็ได้พักอาศัยอยู่ที่นี่ กี่วันมานี้ ก็ได้ทำการจ้องมองน้ำในทะเลสาบนั้นอยู่ทุกวัน

วันนี้ หลินหยุนก็ยังคงคิดวิเคราะห์อยู่สักพัก แต่ก็อดกลั้นไว้ไม่ไหว จึงได้แสดงพลังแห่งกฎเกณฑ์ แล้วก็ค่อย ๆ ก้าวลงไปสู่ทะเลสาบอย่างช้า ๆ

เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว จี้ฝานซิงก็ตื่นตกใจขึ้นทันที จึงได้รีบหยุดขัดขวางเอาไว้ หลินหยุนก็หันหลังกลับมามองที่เธอ และพูดขึ้นว่า “หรือว่าเธอไม่เคยทดลองดูมาก่อนว่า น้ำในทะเลสาบแห่งนี้มีพลังแห่งการหลอมละลายที่สูงถึงขั้นไหนกันแน่? ”

“ก่อนหน้านี้เคยทดลองดูแล้ว ไม่สามารถหลอมละลายสิ่งรองรับได้”

“แล้วผู้บำเพ็ญเซียนล่ะ? ”

“เธอเคยทดลองดูบ้างไหม? ”

จี้ฝานซิงส่ายศีรษะ และพูดว่า “ไม่เคย แต่ฉันรู้สึกว่า การที่จะหลอมละลายผู้บำเพ็ญเซียนต่อให้เป็นขั้นแดนดั่งเทพก็คงจะไม่น่ามีปัญหาอะไร สำหรับแดนสู่ธรรมะนั้น ก็ไม่แน่ใจแล้ว! ”

หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า “ฉันเองก็มีความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็ยังจะต้องเพิ่มความแน่ใจให้ได้เสียก่อน ถ้าน้ำในทะเลสาบแห่งนี้สามารถที่จะหลอมละลายกระทั่งร่างกายและกฎเกณฑ์ของผู้บำเพ็ญเซียนได้ในพริบตาแล้วล่ะก็ มันช่างน่าสนใจมากเลยทีเดียว! ซึ่งจะถือเป็นไม้ตายอันยอดเยี่ยมมาก! ”

ขณะที่พูด หลินหยุนก็ได้ปล่อยกฎเกณฑ์แห่งมีดจมลงไปในทะเลสาบเบื้องลึก

น้ำในทะเลสาบมีพลังการหลอมละลายที่รุนแรงอย่างที่สุด โดยได้เริ่มต้นหลอมละลายพลังกฎเกณฑ์แห่งมีด ด้วยความรวดเร็วอันน่าสะพรึงกลัวที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

แทบจะพริบตาเดียว กฎเกณฑ์แห่งมีดที่เดิมทีใกล้จะเข้าสู่ขั้นบริบูรณ์แล้ว ก็ได้สลายหายไปครึ่งหนึ่งในทันที

ตื่นตกใจกันอย่างมาก แล้วก็รีบเก็บพลังแห่งกฎเกณฑ์คืนทั้งหมดในทันใด

จี้ฝานซิงรีบพูดขึ้นว่า “พลังการหลอมละลายนี้มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ซึ่งสิ้นเปลืองพลังกฎเกณฑ์ไปตั้งมากมายโดยเปล่าประโยชน์”

หลินหยุนส่ายศีรษะ จากนั้นก็แสดงกฎเกณฑ์แห่งดาบสั้นออกมา

ครั้งนี้ เขาไม่ได้นำกฎเกณฑ์แห่งดาบสั้นจมลงไปในทะเลสาบ แต่ได้นำสิ่งรองรับออกมา เพื่อต้องการจะดูว่า ถ้าหากบรรจุน้ำในทะเลสาบปริมาณน้อย ยังจะมีพลังการหลอมละลายที่แข็งแกร่ง ต่อกฎเกณฑ์แห่งดาบสั้นเหมือนกันหรือไม่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์