จี้ฝานซิงเห็นเหตุการณ์ดังนั้น ก็รีบพูดขึ้นอย่างตกใจว่า “คุณชายหลิน คุณคิดจะทำอะไร? หรือว่า คุณยังต้องการจะทดลองต่อไปอีกเหรอ? ”
หลินหยุนพยักหน้า และพูดว่า “แน่นอน! ”
ขณะที่พูดนั้น ก็ได้นำสิ่งรองรับไผ่ม่วงตักน้ำในทะเลสาบออกมา และก็ได้เทราดลงไปบนกฎเกณฑ์แห่งดาบสั้น
กฎเกณฑ์แห่งดาบสั้น ไม่ได้ด้อยไปว่ากฎเกณฑ์แห่งมีดเลย แต่เมื่อบรรลุเข้าใจมันแล้ว กลับไม่ได้เพิ่มระดับความแข็งแกร่งใด ๆ ขึ้น
เวลานี้หลังจากที่ถูกเทราดด้วยน้ำในทะเลสาบ ก็แทบจะกลายเป็นลักษณะโปร่งใสขึ้นมาทันที
พลังอานุภาพแทบจะสูญสิ้นไปทั้งหมด
ผ่านไปครู่หนึ่ง พลังแห่งกฎเกณฑ์ก็ฟื้นคืนกลับขึ้นมาบ้าง จึงได้เห็นลักษณะที่ชัดเจนขึ้นอีกครั้ง
หลินหยุนยังไม่หยุดเท่านี้ ครั้งนี้ เขาได้แสดงกฎเกณฑ์แห่งกระบี่ที่ทรงอานุภาพที่สุดออกมา
และก็ใช้น้ำในทะเลสาบ เทราดลงไปบนกฎเกณฑ์แห่งกระบี่
พลังอานุภาพของกฎเกณฑ์แห่งกระบี่ก็ลดน้อยลงไปในพริบตา พลังแห่งกฎเกณฑ์ก็ถูกหลอมละลายไปอย่างรวดเร็ว
พลังแห่งกฎเกณฑ์ที่เดิมทีอยู่ในสภาวะบริบูรณ์นั้น ได้ถูกหลอมละลายลงไปหนึ่งในสามส่วนแล้ว
หลินหยุนเห็นดังนั้น ไม่เพียงแต่จะไม่เจ็บปวดใจอะไร กลับยังตื่นเต้นดีใจขึ้นเสียด้วยซ้ำ
โดยรีบหันหน้ามองไปที่จี้ฝานซิงและพูดว่า “สหายจี้ คุณเห็นแล้วใช่ไหม? น้ำในทะเลสาบเพียงนิดเดียว ก็มีพลังการหลอมละลายขนาดนี้แล้ว! ”
“ถ้าเวลาที่เผชิญหน้ากับศัตรู แล้วพลันสาดน้ำในทะเลสาบนี้ออกไป เทราดลงบนกฎเกณฑ์ของฝ่ายตรงข้าม จะเกิดผลอย่างไรขึ้น? ”
“หรือว่าสหายจี้ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย? ”
จี้ฝานซิงพูดว่า “เคยคิดมาก่อนอยู่แล้ว แต่ว่า น้ำนี้ไม่ใช่ว่าจะบรรจุใส่ในอะไรก็ได้ ฉันเองก็ไม่ได้มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวอย่างคุณชายหลินหยุน ที่ถึงขนาดยอมสละนำสิ่งรองรับนี้ออกมาใช้! ”
“อย่างที่ทราบกันดีว่า ทั้วทั้งจักรวาลนี้ สิ่งรองรับนั้นเป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากมาก”
“อีกทั้ง สิ่งรองรับก็ไม่ใช่ทรัพยากรที่แดนดั่งเทพจำเป็นต้องใช้เพียงเท่านั้น! ”
“ในอนาคตเมื่อเข้าสู่แดนธรรมะ ที่จริงแล้วก็จำเป็นต้องใช้เหมือนกัน! ”
“ใครจะตัดใจยอมลสะสิ่งนี้กันล่ะ? ”
“อีกทั้งคุณชายหลินก็น่าจะเห็นแล้วว่า ต่อให้เป็นสิ่งรองรับของคุณชาย อันที่จริงก็ถูกหลอมละลายด้วยน้ำในทะเลสาบนี้เช่นกัน”
“เพียงแต่ว่าอัตราความเร็วในการหลอมละลายนั้นช้าลงไปอย่างมาก! ”
“แต่ถ้าหากคุณชายจะใช้สิ่งรองรับนี้ไปบรรจุน้ำในทะเลสาบโดยตลอดจริง ๆ แล้วล่ะก็ อย่างน้อยน่าจะหนึ่งปี อย่างมากประมาณสองปี ก็จะถูกหลอมละลายลงไปอย่างสิ้นเชิงเช่นกัน! ”
หลินหยุนพยักหน้า
เรื่องนี้ถูกต้องแน่นอน
สำหรับผู้บำเพ็ญเซียนแล้ว โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญเซียนระดับขั้นแดนอย่างพวกเขานั้น
เวลาหนึ่งปี หรือสองปี แทบจะเป็นช่วงเวลาเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น
ต่อให้จะเป็นสิบปีหรือหนึ่งร้อยปี ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน
ในเวลาสองปี สิ้นเปลืองสิ่งรองรับไปหนึ่งชิ้น
ช่างเป็นการสิ้นเปลืองโดยไร้เหตุผลอย่างมาก!
ไม่ต้องพูดถึงผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพหรอก ต่อให้เป็นแดนสู่ธรรมะ ก็จะไม่ทำแบบนี้อย่างเด็ดขาด
แต่หลินหยุนนั้นไม่มีความกังวลอะไร
ไม้ตายอันเด็ดขาดแบบนี้ เก็บเอาไว้ที่ตัวเป็นเวลาหนึ่งปีถึงสองปี ต่อให้จะต้องสิ้นเปลืองสิ่งรองรับไปหนึ่งชิ้น นั่นก็ยังถือเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่าอย่างที่สุด!
สิ่งรองรับมีความล้ำค่าอย่างมาก นี่คือเรื่องจริง
แต่มีสิ่งรองรับเก็บอยู่ในตัว มีประโยชน์อะไรบ้างไหมล่ะ?
ไม่มีประโยชน์อะไรแม้แต่น้อยเลย!
แต่เมื่อบรรจุน้ำในทะเลสาบแล้ว ก็จะมีท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งทรงพลังอย่างมาก!
นี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า!
แต่ไหนแต่ไรหลินหยุนก็ไม่ใช่ผู้ที่ตระหนี่ถี่เหนียว
โดยได้นำทรัพยากรทั้งหมดออกมาใช้ เพื่อเพิ่มระดับพลังความสามารถของตัวเขาเอง นี่ก็คือบัญญัติความเชื่อแห่งชีวิตของหลินหยุนที่ได้กำหนดขึ้นมาตั้งแต่ในชาติที่แล้ว
มีคำกล่าวอยู่คำหนึ่งว่ามีเงินแล้วก็ใช้จ่ายออกไปให้เกิดประโยชน์ถึงจะเรียกว่าเป็นเงินของตนเอง ซึ่งก็คือหลักเหตุผลนี้
กี่วันถัดมา หลินหยุนก็เริ่มใช้ไผ่ม่วงผสมกับหินตัวกลาง หล่อหลอมของวิเศษสมมุติขึ้นหนึ่งชิ้น
เพื่อคิดที่จะนำมาบรรจุน้ำในทะเลสาบโดยเฉพาะ
ระดับความแข็งแกร่งและทนทานของสิ่งรองรับชิ้นนี้ เกินกว่าที่จะจินตนาการได้
เดิมทีหลินหยุนก็ได้เตรียมใจพร้อมที่จะพบกับอุปสรรคความยากลำบากแล้ว แต่เมื่อลงมือกระทำจริง ๆ นั้น ระดับของความยากลำบากก็ยังคงมากเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้อีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...