นิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง หนานหมินพูดต่อไปว่า “แต่ว่า ตอนที่ฉันเพิ่งจะลงมือ สุ่ยเฮ่อก็มาถึงในทันที! พวกท่านก็รู้ว่า ผลการฝึกตนของฉันอยู่ต่ำกว่าสุ่ยเฮ่อ ดังนั้นหลังจากที่ลงมือกันสักพัก ฉันก็เป็นคนยอมแพ้ก่อน! และหลินหยุนก็ถูกสุ่ยเฮ่อพาตัวไป!”
“เรื่องที่ฉันรู้ก็มีแค่นี้!”
“ส่วนต่อมาสุ่ยเฮ่อได้รับบาดเจ็บอย่างไร หลินหยุนนั้นหลบหนีไปได้อย่างไรอีก ฉันก็ไม่รู้เรื่องเลย!”
“แต่ว่า…….”
เมื่อเจ้าสำนักแห่งสำนักฮุ่ยเจี้ยนได้ยินเช่นนี้ รีบพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “แต่ว่าอะไร?”
หนานหมินพูดขึ้นมาว่า “แต่ว่า ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น หลินหยุนนั้นสามารถที่ทำให้สุ่ยเฮ่อบาดเจ็บสาหัส ฉันคิดว่านี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!”
เจ้าสำนักแห่งสำนักอัคคี่พูดขึ้นมาว่า “ทำไมเป็นไปไม่ได้?”
หนานหมินพูดขึ้นมาว่า “นี่ง่ายดายมาก เพราะว่าตอนที่ลักพาตัวหลินหยุนไป เขาไม่มีเรี่ยวแรงต่อต้านใดๆ! ก็ถูกฉันปิดผนึกผลการฝึกตนในทันที!”
“จะทำให้สุ่ยเฮ่อได้รับบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร?”
“ผลการฝึกตนของสุ่ยเฮ่ออยู่เหนือกว่าฉัน!”
“หรือว่ายังไม่เพียงพออธิบายปัญหาเหรอ?”
ทันทีที่เสียงของหนานหมินลดลง สุ่ยเฮ่อสีหน้าซีดเซียว ยังคงไม่ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บได้อย่างเต็มที่ ก็ได้ตะโกนด้วยเสียงที่หนักแน่นว่า “หนานหมิน แกพูดจาเหลวไหล! แกถูกหลินหยุนคนนั้นเล่นงาน ในเวลานี้แกยังไม่เจียมตัว!”
หนานหมินหัวเราะเย้ยว่า “พี่สุ่ยเฮ่อ ทำไมต้องกังวลด้วย ฉันแค่เหลือเชื่อเท่านั้นเอง! หลินหยุนคนนั้นไม่ใช่ผู้บำเพ็ญแดนสู่ธรรมะ จะทำให้นายบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้ได้อย่างไร? ดังนั้น สำนักหลิงสุ่ยของพวกนายต้องการหลุดพ้นจากข้อสงสัยที่ว่าเล่นเล่ห์เพทุบาย ฉันว่ายากมาก!”
เจ้าสำนักแห่งสำนักฮุ่ยเจี้ยนมองไปทางสุ่ยเฮ่อพูดขึ้นมาว่า “สุ่ยเฮ่อ นายลองพูดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้นออกมาก็ได้!”
สุ่ยเฮ่อพยักหน้าด้วยสีไม่ค่อยสู้ดีเป็นอย่างยิ่ง และพูดขึ้นมาว่า “ตอนนั้นฉันก็ไม่ได้ป้องกันตัวอะไร หลังจากที่พาตัวหลินหยุนไป ในไม่ช้าก็เจอกับลูกสาวของฉัน ใช่แล้ว ตอนนั้นฮวาเอี๋ยนของสำนักไป่ฮัวก็อยู่ด้วย!”
“หลินหยุนคนนั้นระเบิดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ฉันไม่ได้เตรียมตัวเลยสักนิด ถึงได้ถูกเขาทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส!”
จากนั้น เขาก็มองไปทางฮวาเอี๋ยนที่อยู่ด้านหลังของเจ้าสำนักแห่งสำนักไป่ฮัว และพูดขึ้นมาว่า “สาวน้อย เธอพูดมาสิว่าตอนนั้นน่าจะเป็นสถานการณ์เช่นนี้ใช่ไหม?”
เมื่อฮวาเอี๋ยนเห็นเช่นนี้ พูดด้วยท่าทางทำอะไรไม่ถูกในทันที “นี่…….”
สุ่ยหลิงชินที่อยู่ข้างๆพูดอย่างกระตือรือร้นว่า “ฮวาเอี๋ยน หรือว่าเธอยังไม่อยากพูดความจริงเหรอ? สถานการณ์ของตอนนั้น เธอเห็นกับตาตัวเอง!”
ฮวาเอี๋ยนพูดขึ้นมาว่า “พี่หลิงชิน พี่ก็รู้ ว่าผลการฝึกตนของฉันต่ำมาก ดังนั้น……ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ สิ่งที่ฉันเห็นเป็นสถานการณ์จริงหรือไม่!”
“เนื่องจากลุงสุ่ยเฮ่อเป็นแดนดั่งเทพอย่างแท้จริง”
“พี่หลิงชิน ไม่ต้องพูดถึงฉัน แม้ว่าจะเป็นพี่ ถ้าหากลุงสุ่ยเฮ่อเล่นเล่ห์เพทุบายอะไร พี่ตัดสินใจออกมาได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จได้จริงเหรอ?”
สุ่ยหลิงชินพูดด้วยสีหน้าดูไม่ค่อยดี และพูดไม่ออกในทันที “นี่…….”
ฮวาเอี๋ยนรีบพูดขึ้นมาว่า “ดังนั้นพี่ดูสิ แม้ว่าฉันจะพูดแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เป็นหลักฐานอะไรได้! ไม่เช่นนั้น ผู้อาวุโสทุกท่านที่นั่งอยู่ ในเวลานี้ก็ไม่ต้องนั่งอยู่ที่นี่แล้วสิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...