หลินหยุนพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “หมายความว่าไง?”
เด็กผู้หญิงพูดว่า “คุณไม่ต้องพูดก่อน ฉันรู้สถานที่หลบซ่อนแห่งหนึ่ง คุณชายรีบตามฉันมาหน่อย!”
เด็กผู้หญิงพูดแล้ว ดึงหลินหยุนไป
แต่ว่าในเวลานี้ คนกลุ่มหนึ่งมายังลานเล็กๆอย่างรวดเร็ว
เห็นหลินหยุน ล้อมหลินหยุนไว้ตรงกลางทันที
เด็กสาวตัวร้อยตกใจแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปมาก แต่ว่ายังคงพูดเตือนหลินหยุนด้วยน้ำเสียงเบาๆว่า “คุณชาย พวกเขาเป็นคนของสำนักเที่ยวหล้า!”
และในเวลานี้ ชายวัยกลางคนที่นำทีมมามองไปยังหลินหยุน พูดว่า “ไอ้หนู ตามเรามาเถอะ !”
หลินหยุนมองไปยังอีกฝ่าย พยักหน้าเล็กน้อย หันหลังไปมองเด็กผู้หญิงทันที พูดว่า “รอฉันอยู่ที่นี่!”
พูดแล้ว มองไปยังคนที่นำทีมมา พูดว่า “ไปกัน!”
สามสี่คนนี้เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่า จู่ๆหลินหยุนพูดจาดีเช่นนี้ หัวเราะเหอะๆ หันหลังพาหลินหยุนไปจากลานเล็กๆนี่แล้ว
ไม่นาน คนสามสี่คนก็พาหลินหยุนมาถึงคฤหาสน์แห่งหนึ่งแล้ว
เข้าไปในคฤหาสน์ ชายวัยกลางคนสวมใส่ชุดคลุมสีขาว เดินออกมาแล้ว ชายวัยกลางคนนี้ ท่าทางเหมือนนักปราชญ์
มองดูแล้วกลับทำให้คนอยากเข้าใกล้มาก
เห็นหลินหยุน ชายวัยกลางคนชุดขาวกลับไม่ได้มีความสุขที่ทำให้คนอยากเข้าใกล้นั่นเลยแม้แต่น้อย อยู่เหนือกว่า พูดด้วยสีหน้าที่เย่อหยิ่งว่า “แกชื่อว่าอะไร?”
หลินหยุนพูดเบาๆว่า “หลินชางฉอง!”
สายตาของชายวัยกลางคนแวววับ พูดด้วยสีหน้าที่ดูถูกทันทีว่า “ชางฉอง?เป็นชื่อที่ใหญ่ชื่อหนึ่ง เพียงแต่เสียดายตั้งแต่นี้ไป แกก็ไม่ได้เจอชางฉองที่แท้จริงว่าเป็นยังไงแล้ว!”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว!”
“ฉันจะบอกแกตอนนี้เลย พวกเราคือสำนักเที่ยวหล้าที่มีพละกำลังมากที่สุดในเมืองแห่งโทษฐาน มองดูแล้วผลฝึกตนของแกถือว่าไม่เลว ตั้งแต่วันนี้ไป แกก็เข้าสู่สำนักเที่ยวหล้าของเรา ตอนนี้เปิดถุงเก็บของของแกออก มอบหินทิพย์ที่มีอยู่บนตัวทั้งหมดมา !”
หลินหยุนพูดนิ่งๆว่า “สำนักเที่ยวหล้า ทำไมเมื่อกี้ฉันได้ยินมาว่า สำนักเที่ยวหล้าเป็นแค่เพียงพละกำลังใหญ่เป็นอันดับสองของเมืองแห่งโทษฐาน พละกำลังยิ่งใหญ่อันดับหนึ่ง น่าจะเป็นสำนักพญาทะเลถึงจะถูกต้องนะ!”
ชายหนุ่มวัยกลางคนได้ฟัง สีหน้าเคร่งขรึมทันที “สำนักพญาทะเลเป็นพละกำลังเผ่าทะเล สำนักเที่ยวหล้าของเราเป็นพละกำลังเผ่ามนุษย์ จะเหมือนกันได้งั้นเหรอ? ไอ้หนู แกเพิ่งจะเข้าสู่เมืองแห่งโทษฐานแห่งนี้ ต่อไปแกก็จะค่อยๆรู้ ความแข็งแกร่งของสำนักเที่ยวหล้าของฉัน!”
“ถ้าหากไม่มีที่หลบภัยของสำนักเที่ยวหล้าของเรา ผู้บำเพ็ญเซียนเผ่ามนุษย์อย่างแก คงจะถูกสำนักพญาทะเลกลืนกินแม้แต่กากก็ไม่เหลือ! ”
“อย่าคิดว่าฉันล้อแกเล่นนะ!ถ้าหากไม่เชื่อ แกถามพวกเขาดูได้!”
“ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ต้องคิดว่า เอาหินทิพย์จากตัวแกแล้ว รู้สึกว่าได้รับความไม่เป็นธรรมอะไรนะ นี่เป็นกฏของสถานที่แห่งนี้!”
“แน่นอนว่า จริงๆแกเลือกที่จะปฏิเสธได้ เพียงแต่ว่าจุดจบของการปฏิเสธ ปกติแล้วไม่ค่อยดีเท่าไหร่!”
หลินหยุนพูดนิ่งๆว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นแกก็ลองให้ฉันได้เปิดหูเปิดตาหน่อย ว่าจะมีจุดจบยังไง?”
ชายวัยกลางคนหัวเราะเสียงเยือกเย็นทันที “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!”
พูดแล้ว มองไปยังคนสามสี่คนที่ด้านหลังครู่หนึ่ง ผู้บำเพ็ญเซียนแดนดั่งเทพสามสี่คนนั้นก็จะลงมือกับหลินหยุนทันที
หลินหยุนโบกมือเบาๆ สามสี่คนนั้นถูกเขาสั่นสะท้านลอยออกไปแล้ว
สายตาตกไปยังชายวัยกลางคนชุดขาว หลินหยุนพูดว่า “พวกเขายังไม่มีคุณสมบัติพอ แกลงมือจัดการเองดีกว่านะ!”
ชายวัยกลางคนชุดขาวก็ไม่คิดว่า เห็นชัดๆว่าชี่ของหลินหยุนก็แค่คล้ายกับแดนดั่งเทพตอนกลาง คิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งเช่นนี้!
ในเวลานี้หนังตากระตุกครู่หนึ่งแล้ว “ไอ้หนู ประเมินแกต่ำไป คิดไม่ถึงว่าแกจะมีผลฝึกตนเช่นนี้!”
หลินหยุนหัวเราะอย่างเยือกเย็นพร้อมพูดว่า “เรื่องที่แกคิดไม่ถึงมีเยอะถมเถไปนะ!”
เพิ่งพูดจบ เขายื่นมือออกไปจับทันที คว้าาชายวัยกลางคนชุดขาวไว้ในมือเลยราวกับฟ้าผ่า
แม้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนสู่ธรรมะตอนต้น
แต่ว่าเห็นได้ชัดว่า พละกำลังของวันนี้ ไม่ได้สอดคล้องกับแดนผลฝึกตนของเขาเท่าไหร่เลย
จัดว่าเป็นแข็งนอกอ่อนในก็เท่านั้น
ไม่มีพละกำลังการต่อสู้สู่ธรรมะที่แท้จริงเลย!
หลินหยุนพูดว่า “หมอกข้างหน้านั้นใช่ไหม?”
เด็กผู้หญิงพูดว่า “ใช่ คุณชาย ที่นั่นเรียกว่าหมอกมรณะ คุณย่าของฉันพูดว่า รอจนถึงเวลาที่เธอฝืนไม่ไหวจริงๆ ก็จะเลือกที่จะเข้าไป!”
“คุณย่าพูด ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดมีกี่คน ที่ตายอยู่ในหมอกนี้!”
หลินหยุนพยักหน้าเล็กน้อยแล้ว
หมอกนี้เหมือนว่าเป็นค่ายกล
เพียงแต่ระดับของค่ายกลนี้ น่าจะสูง
อีกอย่างก็ซับซ้อนมาก
หลินหยุนยืนอยู่กลางหมอก มองดูเป็นเวลานานมาก เด็กผู้หญิงก็ไม่รู้ว่าหลินหยุนกำลังมองอะไร แต่ว่ากลับไม่ได้รบกวน
หลังจากนั้นเป็นเวลานาน หลินหยุนพาเด็กผู้หญิงกลับมาในเมืองแล้ว
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จากไป
เกรงว่าด้านนอกไม่มีทางที่จะสงบลงได้ง่ายๆขนาดนั้น
แต่ว่าเมื่อทั้งสองคนเพิ่งจะกลับมากลับพบ คุณย่าของเด็กผู้หญิง ถูกแขวนคอตายบนต้นไม้ใบโกร๋นนั้นในลานแล้ว
เห็นภาพฉากนี้ เด็กผู้หญิงทรุดลงนั่งกับพื้นเลย
ไม่ได้ร้องไห้อย่างเจ็บปวดอย่างกับฉีกหัวใจออกเป็นชิ้นๆ มีเพียงน้ำตาที่ไม่มีเสียง
หลินหยุนวางหญิงชราลง เห็นท่าทางที่น่าสยดสยองของหญิงชรา หลินหยุนอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึก ความโกรธแพร่กระจายออกมาจากก้นลึกของหัวใจ
เด็กผู้หญิงพยายามดิ้นรนลุกขึ้นมาจากพื้น หลังจากนั้นเดินเข้าไปในบ้าน เอาพลั่วออกมา ก็ขุดที่ใต้ต้นไม้แล้ว
หลังจากที่ขุดหลุมศพขึ้นมา ก็ใช้เสื่อห่อคุณย่าไว้แล้วนำไปวางในหลุมศพแล้ว
ทั้งกระบวนการไม่พูดแม้แต่คำเดียว นี่ทำให้หลินหยุนยากที่จะเชื่อ เห็นว่านี่เป็นสิ่งที่เด็กผู้หญิงที่มีอายุเพียง12-13ปีทำได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...