เจียวเหอมองไปยังหลินหยุน พูดว่า “สหายชางฉอง คุณได้ยินมาแล้ว เรื่องนี้สำนักเที่ยวหล้าของเราไม่ได้ทำ!”
หลินหยุนพูดตรงๆเลยว่า “ไม่ใช่ งั้นก็หาตัวฆาตกรออกมาให้ฉัน!”
เจียวเหอสีหน้าแย่มาก สูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมพูดว่า “ได้ สหายชางฉองรอครู่หนึ่งนะ ฉันส่งต่อข้อความออกไป เชื่อว่าไม่นานก็จะมีข่าวคราวแล้ว!”
ไม่นาน ผู้ฝึกกระบี่วัยรุ่นสวมชุดคลุมสีน้ำเงินลอยมา หลังจากคำนับเจียวเหอแล้วก็เนี่ยหยู่แล้ว พูดว่า “หาตัวฆาตกรได้แล้ว เรียกว่าเป็นคนที่อยู่ภายใต้สำนักเสินตาว!”
“คนๆนี้ตอนที่คุณชายชางฉองเพิ่งเข้ามายังเมืองแห่งโทษฐาน ก็เห็นแล้ว อีกฝ่ายเพราะว่าผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างคุณชายชางฉอง พาคนไปแล้ว เพราะงั้นผูกพยาบาท หลังจากที่คุณชายชางฉองพาเด็กผู้หญิงคนนั้นจากไป ก็ไปสับฆ่าคุณย่าของเด็กผู้หญิงคนนั้นแล้ว!”
หลินหยุนสีหน้าจริงจัง มองไปยังชายหนุ่มชุดคลุมน้ำเงิน “คนๆนั้นอยู่ที่ไหน?”
ชายหนุ่มชุดคลุมน้ำเงินพูดว่า “กลับไปยังกลุ่มที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของสำนักเสินตาวแล้ว!”
นัยน์ตาหลินหยุนเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า พูดด้วยน้ำเสียงทรงพลังว่า “พาฉันไป!”
ชายหนุ่มชุดคลุมน้ำเงินได้ฟัง อดไม่ได้ที่จะมองไปยังเจียวเหอ เจียวเหอรีบมองไปยังหลินหยุนพร้อมพูดว่า “สหายชางฉอง สำนักเสินตาว ถึงยังไงก็เป็นหนึ่งในสามสำนักใหญ่ของที่นี่ ถ้าหากสหายลงมือกับสำนักเสินตาว งั้นจะต้องเกิดผลกระทบที่เชื่อมต่อกันแน่!”
หลินหยุนหันหน้ามาทันที พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “คุณจะขัดขวาง?”
เจียวเหอรีบพูดว่า “ไม่ใช่แน่นอน เพียงแค่อยากจะแนะนำสหายชางฉอง ถ้าหากแก้แค้น ฆ่าตัวการชั่วก็พอ สหายอย่าระบายความโกรธกับทั้งสำนักเสินตาวเลย”
หลินหยุนพูดเหอะอย่างเยือกเย็น ไม่พูดอะไร หันหลังมองไปยังชายหนุ่มชุดน้ำเงินพร้อมพูดว่า “พาฉันไปยังสำนักเสินตาว”
ไม่รอให้ชายหนุ่มชุดน้ำเงินพูด เด็กผู้หญิงก็พูดว่า “พี่ชาย ฉันรู้ว่าสำนักเสินตาวอยู่ที่ไหน อยู่ที่เมืองตอนตะวันตก!”
หลินหยุนพยักหน้า ไม่พูดพร่ำทำเพลง พาเด็กผู้หญิงทะยานสู่ฟ้าออกไปเลย มุ่งไปยังเมืองตอนตะวันตก มองดูเงาร่างที่จากไปของทั้งสอง เจียวเหอรีบหยิบยันต์สื่อสารออกมาเริ่มส่งข้อมูลอีกครั้งทันที
และในเวลานี้
ณ เมืองตอนตะวันตก
ห้องโถงสำนักเสินตาวสาขายู่สิ้ว
รองหัวหน้ายู่หมิ่น ก็ได้รับข้อมูลที่เจียวเหอส่งมาแล้ว
หยิบยันต์สื่อสารออกมาดู อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเหอะๆออกมาอย่างดูถูก
ชายวัยกลางคนท่านหนึ่งที่ข้างๆพูดถามอย่างอยากรู้ว่า “รองหัวหน้า เรื่องอะไรถึงได้ขำขันเช่นนี้?”
ยู่หมิ่นส่ายหน้าเล็กน้อย พูดว่า “เจียวเหอแห่งสำนักเที่ยวหล้าส่งข้อความาหาฉันหนึ่งข้อความ บอกว่ามีผู้บำเพ็ญเซียนแดนสู่ธรรมะคนหนึ่งเพิ่งเข้ามาในเมืองมีชื่อว่าหลินชางฉอง ในเวลานี้กำลังมาซักไซ้ถามความที่สำนักเสินตาวของเราแล้ว!”
“คุณว่าน่าขำขันไหม?”
ชายวัยกลางคนตกตะลึงทันที “ซักไซ้ถามความ?ทำไม?จริงสิ ผู้บำเพ็ญเซียนแดนสู่ธรรมะ?ไม่อ่อนแอเลยนะ สำนักเที่ยวหล้าไม่ได้เก็บคนๆนี้ไว้?นี่ค่อนข้างเหนือความคาดหมายเลยนะ!”
ยู่หมิ่นหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เจียวเหอส่งข้อความว่าไม่แน่ชัด เพียงแค่บอกพวกเรา ว่าคนๆนี้แข็งแกร่งมาก ถึงแล้วก็รู้เอง ทางที่ดีพวกเราอย่าไปยั่วยุจะดีกว่า ไม่งั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่!”
ชายหนุ่มวัยกลางคนพูดว่า “ในเมื่อพูดแบบนี้ คนๆนี้ถูกสำนักเที่ยวหล้าเอาไปแล้ว?ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมถึงเกิดความสัมพันธ์กับสำนักเสินตาวของเราอีก?”
ยู่หมิ่นพูดว่า “คนที่เพิ่งเข้ามาคนหนึ่ง มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดความขัดแย้งกับคนภายนอกที่เราวางไว้เท่านั้น!ในเมื่อสำนักเที่ยวหล้าของเราเอาคนมาแล้ว แม้แต่ปิดบังเรื่องเล็กน้อยก็ต้องมารบกวนพวกเรา ยิ่งอยู่ยิ่งงงงนไปหมดแล้ว! ”
ชายวัยกลางคนพูดว่า “ไม่มีทางอื่น สำนักเสินตาวของเราวันนี้ยังต้องพึ่งพาพวกเขาอยู่ นานมากแล้ว ขอเพียงแค่เป็นคนใหม่ที่เพิ่งเข้าเมืองมา พวกเขาจะไปเลือกทั้งหมด สำนักเสินตาของเราไม่สามารถเข้าแทรกแซงได้เลย นี่ก็เป็นการยับยั้งความยิ่งใหญ่ของสำนักเสินตาวของฉันเลย!เพียงแค่เสียดาย ไม่มีทางอื่น ”
ยู่หมิ่นได้ฟังก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างเยือกเย็นแล้ว “ไม่มีทางอื่น?งั้นก่อนหน้านี้ ตอนนี้ ก็ไม่แน่นอนแล้วจริงๆ!สำนักเสินตาวของฉันนอนจำศีลมาหลายปี ก็พอสมควรแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว!”
ชายวัยหลางคนได้ฟัง สีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปทันที “รองเจ้าสำนัก คุณหมายความว่า เจ้าสำนักเขา……”
ยู่หมิ่นหัวเราะเหอะๆพร้อมพูดว่า “ไม่เพียงแค่เป็นเจ้าสำนัก พี่ใหญ่ของฉันก็ทลายผ่านแล้ว ไม่พูดว่าสามารถต่อต้านสำนักเที่ยวหล้าได้ แต่ว่าต่างอยู่ฐานะเท่าเทียมกันและประจันหน้ากันกับสำนักเที่ยวหล้า ไม่มีปัญหาใดๆแน่นอน!”
สายตาของยู่หมิ่นกวาดมองไปยังเด็กผู้หญิงครู่หนึ่ง ยิ้มเยาะทันที พูดว่า “ไม่พูดว่าคำพูดเมื่อครู่นี้ของแกเป็นจริงหรือเท็จ ผู้บำเพ็ญเซียนแห่งสำนักเสินตาวของฉัน สับฆ่าคนก็ตามแต่ ไม่มีนิสัยที่จะอธิบายให้คนฟัง!”
สีหน้าหลินหยุนเคร่งขรึม พูดด้วยนัยน์ตาที่เกิดความคิดในการฆ่า “พูดแบบนี้ แกไม่คิดที่จะมีคำอธิบายให้ฉัน?”
ยู่หมิ่นหัวเราะเยาะอีกครั้ง “คำอธิบาย?สำนักเสินตาวที่สง่าสามของฉัน จะต้องมีคำอธิบายอะไรให้แก?ช่างน่าขบขัน!”
“แกคิดว่า เบื้องหลังของแกมีสำนักเที่ยวหล้าคอยหนุนหลังอยู่ ก็สามารถมาซักไซ้เอาความจากสำนักเสินตาวของฉันได้ตามอำเภอใจงั้นเหรอ?แถมยังให้สำนักเสินตาวของฉันมีคำอธิบายให้แกอีก?”
“ฉันบอกแกก็ได้นะ แม้ว่าเป็นสำนักเที่ยวหล้า สำนักเสินตาวของฉันก็ไม่มีทางอธิบายใดๆทั้งสิ้น!”
“ถ้าหากอยากจะหาเรื่องในนี้ ก็ดูว่าแกจะหัวขาดกี่ครั้งแล้วกันนะ!”
หลินหยุนพยักหน้าเล็กน้อย พูดว่า “ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดกันแล้ว!”
แสงในมือแวววับ กระบี่เฮ่าเทียนปรากฏออกมา ผลฝึกตนของหลินหยุนหมุนวน สับออกไปยังยู่หมิ่นอย่างอุกอาจแล้ว
พลังของกระบี่เล่มเดียว สะท้านฟ้าสะท้านดิน
ยู่หมิ่นหดรูม่านตา ก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า ผลการฝึกตนของหลินหยุนจะแข็งแกร่งเช่นนี้!เหนือการคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง!
เขาเป็นผู้บำเพ็ญเซียนแดนสู่ธรรมะตอนกลาง!
ท่ามกลางเมืองแห่งโทษฐานนี้ ถือว่ามียอดฝีมือที่จำกัดแน่นอน
ถ้าหากพูดว่าการมีอยู่ที่แข็งแกร่งกว่าเขา งั้นก็เป็นพี่ชายของเขาที่เพิ่งจะทลายได้ แล้วก็เจ้าสำนักเสินตาว เจ้าสำนักทั้งสองของสำนักเที่ยวหล้าระดับแบบนั้นแล้ว!
แต่ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเพิ่งจะลงมือจัดการ ก็ทำให้เขารู้สึกถึงความน่ากลัวที่ยิ่งใหญ่ คนๆนี้ ไม่ใช่คนที่เขาจะจัดการได้แน่นอน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...