จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1791

ขณะที่หลินหยุนกำลังรู้สึกว่าอดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ก็เกิดประกายแสงขึ้นในมือของเขา ลูกปัดสีเขียวมรกตขนาดเท่ากับดวงตาวัวเม็ดหนึ่งที่หักครึ่ง ก็ถูกเขาหยิบออกมา

ลูกปัดแตกหักที่อยู่ในมือ ก็ได้เปล่งประกายแสงสีเขียวเบาบางขึ้น แล้วก็ปกคลุมทั่วทั้งร่างกายของหลินหยุนเอาไว้

หลังจากที่มีลำแสงปกคลุมตัวแล้ว หลินหยุนจึงถอนหายใจยาว รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว

สมบัติล้ำค่านี้เขาได้รับมาในชาติที่แล้ว ซึ่งเป็นสมบัติล้ำค่าที่แตกหักชิ้นหนึ่ง

โดยมีประสิทธิผลอย่างยิ่งในการรักษาความมั่นคงของสภาพจิตใจ รักษาสภาพมั่นคงของทะเลจิต และระงับยับยั้งปีศาจในจิตใจ

ชาติที่แล้ว ก่อนหน้าที่พลังบำเพ็ญของหลินหยุนจะบรรลุสู่แดนกษัตริย์ ที่จริงแล้วประสบการณ์ในช่วงแรกของเขานั้น ได้กลายเป็นอุปสรรคมารร้ายยิ่งใหญ่ในจิตใจของเขาแล้ว!

ถึงขนาดที่ว่าไม่สามารถบังคับควบคุมเอาไว้ได้เลย

เป็นเพราะว่าเขามีโชคชะตาที่ดี ได้รับสมบัติล้ำค่าหนึ่งชิ้นมาโดยบังเอิญ ในที่สุดจึงสามารถควบคุมยับยั้งอุปสรรคมารร้ายเอาไว้ได้

แน่นอนว่า เมื่อเขาบรรลุเข้าสู่แดนกษัตริย์อย่างแท้จริงแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้สมบัติล้ำค่าชิ้นนี้อีก โดยอาศัยพลังบำเพ็ญที่แข็งแกร่งของตนเอง ในการควบคุมยับยั้งอุปสรรคมารร้ายลงได้อย่างสิ้นเชิง

เพียงแต่ว่า การยับยั้งก็คงเป็นเพียงแค่การยังยั้ง ซึ่งไม่สามารถหยุดมารร้ายในจิตใจที่กระจายพันธุ์อยู่ตลอดเวลาในขณะนั้นลงได้อย่างสมบูรณ์

ในที่สุดตอนที่ประสบกับภัยอัสนี ในตอนนั้นมารร้ายในจิตใจ ก็ได้ระเบิดขึ้นโดยสิ้นเชิง

สุดท้ายหลินหยุนจึงเสียชีวิตลงภายใต้ภัยอัสนี

ตอนนั้น หลินหยุนเศร้าโศกเสียใจเป็นอย่างมาก

เขารู้สึกว่า ถ้าหากมารร้ายไม่ได้แฝงตัวอยู่ในก้นบึ้งของจิตใจ บางทีตอนที่เผชิญหน้ากับภัยอัสนีนั้น เขาอาจจะพอมีโอกาสบ้างก็เป็นได้!

แต่เขาในชาตินี้ โดยเฉพาะหลังจากที่เข้าสู่เส้นทางผู้บำเพ็ญหมื่นเต๋าแล้ว เขาก็ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นอีกแล้ว!

เขาในชาติที่แล้ว

ถึงแม้จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของจักรวาล!

ถึงแม้จะไม่มีมารร้ายในจิตใจเข้ามาพัวพันและเกิดการระเบิดขึ้น เขาก็คงจะไม่มีโอกาสอะไรอยู่แล้ว!

เต๋าสวรรค์ คือสิ่งที่ดำรงอยู่โดยที่เขาไม่สามารถจินตนาการได้!

แม้แต่ตอนช่วงก่อนหน้านี้ เขายังคงคิดว่า ถ้าหากเขามีพลังแห่งต้าเต๋าที่แท้จริงมากขึ้นกว่านี้

เขาก็คงจะสามารถต้านทานเต๋าสวรรค์ได้

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด!

ตกลงว่าเต๋าสวรรค์มีความน่าสะพรึงกลัวถึงขั้นไหนกันแน่ ตอนนี้เขาเองก็ไม่อาจที่จะแน่ใจได้!

แต่ตอนนี้เขากลับเชื่อว่า เส้นทางหมื่นเต๋าที่ตนเองกำลังมุ่งหน้าอยู่นั้น จะต้องสามารถมีโอกาสที่จะไปต่อสู้กับเต๋าสวรรค์ได้อย่างแน่นอน!

มีเพียงเส้นทางหมื่นเต๋า จึงจะมีโอกาส มองเห็นสภาพที่แท้จริงของโลกใบนี้ได้

เสียงระฆังดังติดต่อกันสามวันสามคืน จากนั้นถึงจะหยุดลง

ผู้คนที่อยู่บริเวณโดยรอบ ในช่วงสามวันสามคืนนี้ เหมือนจะได้รับพลังความสามารถเพิ่มขึ้นไม่น้อย

มีเพียงแต่หลินหยุน ที่ยังคงรักษาจิตใจและสติให้ปกติดีอยู่ได้

แต่หลังจากที่สิ้นเสียงระฆังไปไม่นาน สายตาของผู้คนบริเวณโดยรอบนี้ก็ดูคล่องแคล่วมีชีวิตชีวามากขึ้น

จากนั้นทุกคนก็ก้มลงกราบไปทางเจดีย์สูงสีฟ้านั้น

หลังจากที่ก้มกราบเสร็จแล้ว ทุกคนก็ทยอยแยกย้าย ออกกันไปจากดาวดวงนี้

หลินหยุนในตอนนี้ก็กำลังจะติดตามกลุ่มคนเหล่านั้นเพื่อออกไปจากที่นี่ แต่สุดท้ายก็ถูกรั้งตัวเอาไว้ด้วยเสียงที่ดังมาจากก้นบึ้งของจิตใจ

“ไอ้หนุ่ม ถือว่าไม่เลวเลย! ”

“พอจะมีความสามารถอยู่บ้าง! ”

“คิดไม่ถึงว่าจะสามารถรอดพ้นจากการปลุกปั่นจิตใจของระฆังเทพยมได้! ”

“นายยอดเยี่ยมอย่างมาก! ”

“อีกทั้ง ผู้อาวุโสสามารถที่จะปกปิดสถานะต่อฉันได้ แล้วทำไมจะต้องพาฉันมาที่นี่ด้วย และบอกอีกสถานะหนึ่งให้ฉันรับทราบล่ะ? ”

“คงจะไม่ได้คิดที่จะให้ฉันตายลงไปพร้อมกับความกระจ่างชัดเจนมากขึ้นหรอกนะ? ”

มองไปยังหลินหยุนในสภาพท่าทางที่ระแวดระวัง หวูเหวยก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ พร้อมกับส่ายศีรษะอีกครั้ง และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนุ่ม ในเมื่อฉันต้องมาสิ้นเปลืองเวลาเพื่อทำแผนการอะไรเพิ่มขึ้นอีก ก็คงจะไม่ใช่อย่างที่นายคิดแน่นอน ตรงกันข้าม ฉันไม่เพียงแต่ไม่คิดที่จะฆ่านาย แต่ว่า......”

หลินหยุนเคลื่อนสายตาไปมา และรีบถามขึ้นว่า “แต่ว่าอะไร? ผู้อาวุโสจะพูดอะไร ก็พูดออกมาได้เลย! ”

หวูเหวยพูดขึ้นว่า “ไอ้หนุ่ม ฉันจะพูดตามความจริงนะว่า ฉันชื่นชอบในตัวนายมาก ต้องการที่จะดึงตัวนายมาเข้าร่วมสมาพันธ์โจรดวงดาว อยู่ในสังกัดของฉัน ไม่ทราบว่านายมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง? ”

หลินหยุนตกใจขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็จ้องมองไปที่หวูเหวยอย่างจริงจัง และพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโส ฉันน่าจะไม่มีโอกาสที่จะปฏิเสธได้แล้ว ใช่หรือไม่? ”

หวูเหวยได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะเสียงดังขึ้น “ไอ้หนุ่มนี่ ไม่เลวเลยทีเดียว! ฉันไม่ได้มองผิดไป! ขนาดเวลานี้แล้ว ยังจะสามารถพิจารณาแยกแยะสถานการณ์ได้อย่างใจเย็นแบบนี้! ”

“แต่ว่า สิ่งที่นายพูดนั้นถูกต้องแล้ว! ”

“ก่อนหน้านี้ที่ฉันรับประกันกับนายไว้ ตกลงในเงื่อนไขของนายนั้น เพราะในตอนนั้น ฉันอยู่ในสถานะเจ้าหอซิวซิน! ”

“แต่ในตอนนี้ สถานะของฉันคือหัวหน้าเขตภพศักดิ์สิทธิ์มังกรฟ้าแห่งสมาพันธ์โจรดวงดาว โดยสมาพันธ์โจรดวงดาวมีสถานะการดำรงอยู่อย่างไร เรื่องนี้ฉันไม่จำเป็นต้องแนะนำแล้วนะ? ”

“ดังนั้น ก็เป็นอย่างที่นายพูด ถ้านายพยักหน้าตกลง อย่างนั้นก็นับตั้งแต่วันนี้ไป นายก็จะเป็นส่วนหนึ่งในสังกัดของฉัน! ”

“ถ้าหากนายปฏิเสธ นายก็คงจะต้องอยู่ในที่แห่งนี้ไปตลอดกาลแล้ว! ”

“ที่ฉันพูดแบบนี้ ก็เพราะฉันเห็นถึงความสำคัญในตัวนาย นายทำให้ฉันพึงพอใจอย่างมาก! อีกทั้งสำหรับนายเองแล้ว การที่ได้เข้าร่วมสมาพันธ์โจรดวงดาว ที่จริงแล้วก็ถือเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย! ”

“นับตั้งแต่นี้ต่อไป เมื่อตระเวนท่องไปในจักรวาล นายก็จะไม่ใช่มดแมลงแดนดั่งเทพตอนปลายที่กระจอกอีกต่อไปแล้ว”

“เบื้องหลังของนาย มีสมาพันธ์โจรดวงดาวคอยหนุนหลังอยู่”

“นี่ก็คือความมั่นใจของนาย! ”

หลินหยุนสีหน้าย่ำแย่และพูดว่า “ผู้อาวุโส ฉันมีพลังบำเพ็ญแค่แดนดั่งเทพตอนปลาย ต่อให้ผู้อาวุโสจะเห็นความสำคัญในตัวของฉัน ให้ฉันเข้าร่วมอยู่ในสมาพันธ์โจรดวงดาว ซึ่งเมื่อเข้าร่วมแล้ว ฉันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง? แม้แต่นักรบด่านหน้าผู้เสียสละก็ยังไม่ใช่เลย! ”

หวูเหวยเหมือนจะทราบดีว่าหลินหยุนต้องมีความกังวลใจแบบนี้แน่ จึงหัวเราะและพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้นายเองวางใจไปได้เลย! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์