หวูเหวยหยุดชะงักไปชั่วครู่ แล้วมองไปที่หลินหยุนและพูดว่า “ไม่รู้ว่านายทราบหรือไม่ว่า สมาพันธ์โจรดวงดาวนั้น แบ่งออกเป็นหน่วยฟ้าและหน่วยดิน? ”
หลินหยุนได้ยินดังนั้น ก็พลันหรี่ตาลงและพูดว่า “เคยได้ยินมาบ้าง หน่วยฟ้าทำหน้าที่ควบคุมจัดการหน่วยดิน! ”
หวูเหวยส่ายศีรษะและพูดขึ้นว่า “จะพูดแบบนี้ไม่ได้ ใช้คำว่าควบคุมนั้น มันไม่ถูกต้อง! เพียงแค่มีการแบ่งหน้าที่ที่แตกต่างกันเท่านั้น! แต่คนในหน่วยดิน ถ้าหากมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อะไร ก็จะต้องขึ้นตรงกับหน่วยฟ้า นี่คือความจริง! ”
“ส่วนฉัน คือหัวหน้าเขตหน่วยฟ้า! ”
ได้ยินที่หวูเหวยพูด หลินหยุนก็พลันสูดหายใจลึก “คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ผู้อาวุโสจะมีสถานะที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้......”
“แต่ว่า......มันเป็นไปได้อย่างไร? ”
หวูเหวยพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่เป็นทั้งเจ้าหอซิวซิน และเป็นหัวหน้าเขตแห่งสมาพันธ์โจรดวงดาวด้วยใช่ไหมล่ะ? ”
หลินหยุนพยักหน้าซ้ำ ๆ และพูดว่า “เรื่องนี้ไม่น่าที่จะเป็นไปได้! ”
หวูเหวยยิ้มและพูดว่า “เรื่องนี้มันต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน แต่ว่า เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่นายต้องรับรู้! ตอนนี้นายเพียงแค่บอกกับฉันมาว่า ยินยอมที่จะมาเข้าร่วมสังกัดของฉันหรือไม่ ก็พอแล้ว! ”
หลินหยุนพูดขึ้นว่า “ผู้อาวุโสไม่จำเป็นที่จะต้องทราบถึงประวัติความเป็นมา? และตรวจสอบรายละเอียดของฉันก่อนหรอกเหรอ? คิดที่จะให้ฉันเข้าร่วมสังกัดแบบนี้เลยเหรอ? ”
หวูเหวยพูดว่า “เรื่องนี้ไม่เป็นไร? ไม่ว่านายจะมีสถานะอะไร เพียงแค่นายยินยอมที่จะมีสถานะแฝงในสมาพันธ์โจรดวงดาวนี้ อีกทั้งไม่กระทำเรื่องที่ส่งผลเสียต่อสมาพันธ์โจรดวงดาว เท่านี้ก็พอแล้ว! ”
“ถ้าหากนายกระทำผิดแล้ว ผลที่ตามมาก็ง่ายมาก ทั่วทั้งจักรวาลนี้ ไม่มีผู้ใดที่จะสามารถปกป้องคุ้มครองนายได้แน่! ก็ง่ายดายเท่านี้เอง! ”
หลินหยุนได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจยาว และพูดว่า “ตกลง อย่างนั้นฉันก็จะเข้าร่วมสังกัดของผู้อาวุโส ไม่ว่าอย่างไร ก็ควรจะต้องรักษาความปลอดภัยของชีวิตเอาไว้ก่อน! ”
ได้ยินที่หลินหยุนพูดแบบนี้ หวูเหวยก็ยิ้มและพูดว่า “นายเป็นคนฉลาด! ฉันเชื่อว่านายจะต้องตัดสินใจแบบนี้! ”
เมื่อพูดจบ ก็เกิดประกายแสงขึ้นบนมือของเขา แล้วป้ายประจำตัวสีขาวแผ่นหนึ่ง ก็ปรากฏขึ้นบนมือของเขา
“ป้ายหยกชิ้นนี้ จะต้องนำติดตัวและรักษาเอาไว้ให้ดี ห้ามที่จะสูญหายเด็ดขาด โดยสามารถที่จะใช้ป้ายหยกนี้ในการติดต่อสื่อสาร ต่อให้จะไม่ได้อยู่ในเขตดาวเดียวกันก็ไม่มีอุปสรรคอะไร! ”
“ด้านในนี้มีกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวกับของสมาพันธ์โจรดวงดาว และหน่วยฟ้าของพวกเรา นายสามารถศึกษาอ่านดูอย่างละเอียดได้! ”
“ใช่แล้ว ไม่ต้องกังวลถึงเรื่องผลประโยชน์ในส่วนของนาย! ”
เมื่อพูดจบ ร่างกายของหวูเหวยก็กระพริบแวบหายไป ออกไปจากสถานที่แห่งนี้
ซึ่งในขณะที่เงาร่างของเขาสูญหายไปนั้น เจดีย์สูงนั้นก็หายวับไปด้วยเช่นกัน!
หลินหยุนยังคงมีสีหน้าที่หม่นหมอง ก้มหน้ามองไปที่ป้ายหยกสีขาวที่อยู่ในมือ
ใช้พลังแห่งจิตญาณเพ่งดูด้านใน ก็มองเห็นกฎเกณฑ์ต่าง ๆ จำนวนไม่น้อย
หลังจากที่อ่านดูแล้วสักพัก หลินหยุนก็เก็บป้ายหยกขึ้น และย่ำกระโดดขึ้นไปในอากาศเพื่อเดินทางออกจากดาวเคราะห์ที่ทรุดโทรมนี้
สุดหล้าทะเล
หลินหยุนกลับมาถึงอีกครั้ง และได้ตระเวนหาโรงเตี๊ยมเพื่อเข้าพักอาศัย
ภายในวิมาน
บนพื้นฐานของข้อกำหนด เขาจึงได้จัดวางค่ายกลขึ้นสองค่ายกล
แล้วจึงนำป้ายหยกสีขาวนั้นออกมาอีกครั้ง
หลังจากที่วิเคราะห์อยู่พักใหญ่ ใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มขึ้นมาแล้ว
จากข้อมูลที่อยู่ภายในป้ายหยกสีขาวนี้ ทำให้เขายิ่งเข้าใจสมาพันธ์โจรดวงดาว และหน่วยฟ้าอย่างสมบูรณ์มากขึ้น!
แต่สิ่งที่ทำให้หลินหยุนขมวดคิ้วก็คือ เขาเหมือนจะอยู่ในสภาพที่ถูกปล่อยปละละเลย
หน่วยฟ้าแห่งสมาพันธ์โจรดวงดาว
ทั้งหมดแบ่งออกเป็นห้าระดับ
หากพิจารณาจากป้ายหยกที่อยู่ในมือนี้ ป้ายสีขาวคือระดับที่ต่ำที่สุด!
ป้ายสีดำจะสูงกว่าป้ายสีขาวหนึ่งระดับ
เหนือป้ายสีดำขึ้นไป ก็คือป้ายสีเหลือง
เหนือป้ายสีเหลืองขึ้นไปคือป้ายสีแดง
เหนือป้ายสีแดงขึ้นไปคือป้ายสีม่วง
ส่วนสีป้ายของหวูเหวยนั้น คือสีแดง
เพราะว่าด้านบนของแผ่นป้ายสีขาวในมือของเขา ก็ร่วงตกลงมาจากป้ายสีแดงของหวูเหวย!
ความหมายที่แสดงออกนั้น น่าจะเป็นการอยู่ภายใต้สังกัด!
แน่นอนว่า ก่อนที่จะเข้ารวมได้นั้น ยังจะต้องเข้าใจบรรลุต้าเต๋าอย่างแท้จริง
ดังนั้นก่อนที่จะเข้ารวมสู่ต้าเต๋าอย่างแท้จริงได้นั้น ที่จริงแล้วยังมีอีกขั้นแดนหนึ่ง ก็คืออริยปราชญ์ฟ้ากฎเกณฑ์!
อริยปราชญ์ที่เข้าใจบรรลุกฎเกณฑ์แห่งต้าเต๋า
โดยหลังจากที่เข้าใจบรรลุกฎเกณฑ์แล้ว ก็สามารถนำเต๋าเข้าสู่ร่างกาย กลายเป็นจ้าวแห่งเต๋า!
โดยในช่วงก่อนที่จะกลายเป็นจ้าวแห่งเต๋านั้น ต่างก็จะเรียกขานกันว่าขั้นเหนือกว่าแดนสู่ธรรมะ หรือจะมีเรียกว่าอริยปราชญ์ฟ้าอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น สิบอริยปราชญ์ฟ้าครองไฟแห่งเขตไฟใต้ ก็จะใช้อริยปราชญ์ฟ้าในการเรียกขาน
แน่นอนว่า ส่วนใหญ่ก็จะเรียกขานว่าขั้นเหนือกว่าแดนสู่ธรรมะ!
ส่วนจ้าวแห่งเต๋านั้น ก็จะเข้าสู่อีกขั้นแดนหนึ่งแล้ว!
นั่นคือการเข้าใจและใช้พลังแห่งเต๋าได้อย่างแท้จริง
และก่อตั้งเป็นวัฏจักรแบบปิด ผ่านการเสื่อมสลายดับสูญทั้งสามของชั้นเซียนแล้ว ถึงจะกลายเป็นมหากษัตริย์อย่างแท้จริง
ดังนั้นต่อให้เป็นระดับมหากษัตริย์เหมือนกัน หากว่าเข้าใจและใช้พลังแห่งต้าเต๋าได้มากกว่า นั่นก็จะยิ่งแข็งแกร่งกว่าแน่นอน!
สิ่งนี้ไม่มีอะไรที่ต้องสงสัยกันอยู่แล้ว!
แต่ว่า ต่อให้เป็นจ้าวแห่งเต๋าระดับเดียวกัน หรือขนาดที่ว่ามีพลังแห่งต้าเต๋าในระดับเดียวกัน ก็จะมีทั้งที่แข็งแกร่งกว่าและอ่อนด้อยกว่า
นี่คือสิ่งที่หลินหยุนยังคงสงสัยไม่เข้าใจอยู่ดี
อย่างเช่นในชาติที่แล้วเขาคือจ้าวแห่งเต๋าวิชากระบี่ เมื่อเผชิญหน้ากับจ้าวแห่งเต๋าวิชากระบี่ระดับเดียวกัน เขาก็ยังแข็งแกร่งทรงพลังกว่าฝ่ายตรงข้าม และกฎเกณฑ์แห่งกระบี่ของเขา ก็แข็งแกร่งกว่าฝ่ายตรงข้ามด้วยเช่นกัน!
อีกทั้งสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าเขาจะพิเศษเพียงคนเดียว
ในหมื่นจักรวาล มีสถานการณ์แบบนี้อยู่อย่างปกติทั่วไป
ผู้บำเพ็ญทั้งหมด ต่างก็รู้ว่า ถ้าหากได้ดูดซับต้าเต๋าในระดับเดียวกับตนเองมากเท่าไร ก็ยิ่งจะแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น
แต่เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนี้ กลับไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนได้
แน่นอนว่า สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่หลินหยุนจำเป็นต้องพิจารณาอะไรในตอนนี้ หลินหยุนคิดแต่เพียงว่า ถ้าหากตนเองลองทำการควบรวมเต๋าเข้าสู่ร่างกายแล้ว ไม่รู้ว่าจะสามารถทำได้หรือไม่!
สิ่งที่ยากนั้นขึ้นอยู่กับว่า อาศัยกฎเกณฑ์ที่ตนเองเข้าใจและใช้งานได้ในตอนนี้ เพื่อไปบุกเบิกต้าเต๋าที่แท้จริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...