ส่วนหลินหยุนกับจินจิ่วสองคน ต่างก็เดินเข้าใกล้มาเพื่อสัมผัสรับรู้ลำแสงสีเขียวนั้นอย่างละเอียด
เมื่อสัมผัสจากระยะห่างในขณะนี้แล้ว หลินหยุนเองก็อดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้วขึ้นอีกครั้ง
โดยที่ไม่มีความรู้สึกที่ความแตกต่างอะไรเลยกับการสัมผัสรับรู้ในระยะไกล
นี่ไม่ใช่ลำแสงของสมบัติล้ำค่าอะไรแน่
แต่คือลำแสงของอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์
ท่ามกลางลำแสงดังกล่าวนี้ แฝงไปด้วยพลังต้าเต๋าแห่งมิติที่แข็งแกร่งอย่างมากทีเดียว
และยังมีต้าเต๋าแห่งดาบด้วย
โดยเวลานี้พลังแห่งต้าเต๋าทั้งสองนี้ก็ยังคงสะสมพลังงานและเพิ่มความแข็งแกร่งอยู่อย่างต่อเนื่อง!
นี่ยังอยู่ในบริเวณภายนอกของลำแสง
ถ้าหากอยู่ภายในอาณาเขตที่ลำแสงปกคลุมแล้ว นั่นคงจะน่ากลัวเป็นอย่างมาก!
การรับรู้สัมผัสในระยะใกล้แบบนี้ ก็ยิ่งทำให้หลินหยุนแน่ใจว่านี่คือลำแสงเท่านั้น!
ไม่ใช่ลำแสงของสมบัติล้ำค่าอะไรอย่างแน่นอน!
สายตาของจินจิ่วนั้น ไม่สามารถที่จะมองออกได้แน่นอน เขาเพียงแค่สามารถสัมผัสได้ถึงความอันตรายของลำแสงนี้ ในขณะที่กำลังสะสมพลังงาน
จินจิ่วสูดหายใจลึก พร้อมกับแสดงท่าทางหวั่นไหวและพูดว่า “สหายมู่ฉอง มองเห็นถึงความแตกต่างอะไรบ้างไหม? ”
หลินหยุนส่ายศีรษะ และพูดว่า “ไม่มีเลย! แล้วสหายจินจิ่วล่ะเป็นอย่างไรบ้าง? ”
จินจิ่วพูดขึ้นว่า “พิจารณาจากลำแสงนี้แล้ว ครั้งนี้คงจะถือกำเนิดสมบัติล้ำค่าขึ้น โดยที่พวกเราไม่สามารถจะจิตนาการอะไรได้เลย! เกรงว่าจะต้องสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งจักรวาลเป็นแน่แล้ว! ”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไรมาก และในขณะนั้นเอง ก็มีลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนล่องลอยมา และร่วงตกลงใจกลางของบริเวณแห่งนั้น
จินจิ่วดวงตาเป็นประกาย และพูดขึ้นว่า “ในที่สุดสามสำนักใหญ่ก็มาถึงแล้ว! ”
เวลานี้ ยอดฝีมือแดนสู่ธรรมะ จำนวนห้าคนได้มาถึงแล้ว
ทั้งห้าคนนี้ ล้วนเป็นผู้บำเพ็ญเซียนแห่งโลกเขาทองทั้งหมด
สามคนในจำนวนนี้เป็นยอดฝีมือเผ่ามนุษย์!
ส่วนที่เหลืออีกสองคนนั้น คนหนึ่งคือเผ่าวัวฟ้า อีกคนหนึ่งคือเผ่าวอกทิพย์
แต่ในเวลานี้ มีคนจำนวนไม่มากที่จะสามารถมองออกถึงร่างจริงของพวกเขาได้!
ผู้บำเพ็ญเซียนเผ่าวัวฟ้า และผู้บำเพ็ญเซียนเผ่าวอกทิพย์นั้น ได้อยู่ที่นี่แล้ว ตั้งแต่ก่อนที่หลินหยุนกับจินจิ่วจะมาถึงเสียอีก
อีกทั้งยังเป็นที่สนใจของทุกคนมาโดยตลอด
แต่ในเวลานี้เมื่อยอดฝีมือของสามสำนักใหญ่มาถึง จนเกิดเป็นสถานการณ์ที่ทั้งห้าฝ่ายเผชิญหน้ากันแล้ว
หลินหยุนมองดูอยู่สักพักหนึ่ง พบว่าในจำนวนนี้ยังมียอดฝีมือแดนสู่ธรรมะแอบแฝงอยู่อีก
สองคน
ซึ่งน่าจะเหมือนกันกับเขา ที่ไม่ใช่ยอดฝีมือของโลกเขาทองนี้ แต่ก็มาจากในจักรวาล
เมื่อนับจำนวนตามนี้แล้ว ในตอนนี้ก็มียอดฝีมือแดนสู่ธรรมะทั้งหมดเจ็ดคน
แต่ว่า อย่างน้อยยังคงมีเวลาอยู่อีกสิบกว่าวัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมียอดฝีมือจากโลกอื่น ๆ มากันอีกไหม
ถ้าหากยังมีอีก ก็คงจะมียอดฝีมือแดนสู่ธรรมะ เกินสิบคนแล้ว
ถ้าหากปรากฏยอดฝีมือขั้นที่เหนือกว่าแดนสู่ธรรมะแล้ว ก็คงจะวุ่นวายซับซ้อนมากเป็นแน่!
ตอนนี้ หลินหยุนเองก็ยังไม่แน่ใจว่า ตกลงจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น!
และก็ยังยืนยันไม่ได้ว่า จะมีสมบัติล้ำค่าถือกำเนิดขึ้นหรือไม่
แต่จากการวิเคราะห์ของเขาแล้ว โอกาสที่สมบัติล้ำค่าจะถือกำเนิดขึ้นนั้น เกรงว่าจะไม่สูงนัก!
หลังจากที่ทั้งสามคนสำรวจดูสักระยะหนึ่งแล้ว ก็ออกมาจากบริเวณของเขตของหุบเขานั้น แล้วกลับไปยังบนภูเขาเล็กดังเดิม
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ
ก็มียอดฝีมือของเผ่าอื่น ๆ มาถึงกันเพิ่มอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...