พอพูดจบ หานเซี่ยนหัวก็หันหลังเดินจากไปทันที
ถึงแม้เขาจะหลงใหลในความงามของอีหลิง แต่เขาชอบอำนาจมากกว่า พอมีอำนาจอยู่ในมือแล้ว อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็ย่อมต้องได้ไม่ใช่หรือ ?
อีหลิงมีสีหน้าเจ็บปวด หันไปมองหานหรู “คุณแม่คะ จะทำยังไงดี ?”
หานหรูปิดตาลง ใบหน้าขาวซีดเต็มไปด้วยความปวดร้าว
“คุณลุงของลูกจากไปแล้ว ที่บ้านหลังนี้ไม่มีที่สำหรับพวกเราอีกแล้ว”
“วันนี้เป็นวันส่งศพของคุณลุงลูก ต้องมีเพื่อนสนิทหลายคนมาร่วมแสดงความเสียใจแน่ ถ้าหากเวลาแบบนี้พวกเราไม่ไปปรากฏตัวในงานส่งศพของคุณลุงลูก จะต้องมีชื่อเสียงเสียๆหายๆไปตลอดชีวิตแน่”
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ก็ต้องรอจนจบงานส่งศพของคุณลุงลูกแล้ว พวกเราถึงจะไปจากที่นี่ได้”
อีหลิงมองคุณแม่ที่มีสีหน้าเด็ดเดี่ยว แล้วพยักหน้าแรงๆ “ค่ะ !”
คฤหาสน์ตระกูลหาน ประดับไปด้วยผ้าขาว สีล้วนเป็นโทนเดียว
ศาลาไว้ทุกข์ของหานกั๋วเฉียง โลงศพคริสทัลถูกจัดวางอย่างเงียบสงบไว้ในห้องโถง อีหลิงกับหานหรูคุกเข่าอยู่ตรงหน้าโลงศพคริสทัล ร้องไห้เงียบๆ
ญาติสนิทมิตรสหายของตระกูลหานทั้งหลาย ต่างก็ทยอยกันเข้ามาแสดงความเสียใจ
คุณป้าหลี่ซูซินรับหน้าที่เป็นคนต้อนรับ
พอบังเอิญเห็นสองแม่ลูกที่คุกเข่าอยู่ในห้องโถง ใบหน้าของหลี่ซูซินก็มีแววรังเกียจวาบผ่าน
หลี่ซูซินหันไปมองหานเซี่ยนหัวที่อยู่ข้างๆทีหนึ่ง ส่งสัญญาณทางสายตา เป็นเชิงตำหนิ
สายตาของหานเซี่ยนหัว จ้องไปทางพ่อบ้านหลี่ที่อยู่หน้าประตู พอสบตากับพ่อบ้านหลี่แล้ว ก็พยักหน้าให้กัน
หานกั๋วเฉียงมีฐานะเป็นผู้มีอิทธิพลของเมืองลี่ชวน หลี่ซูซินเองก็เป็นลูกสาวของหลี่ว่านเหนียนผู้มีอิทธิพลคนก่อนของเหแหยาง คนที่เดินทางมาแสดงความเสียใจก็เลยมีจำนวนไม่น้อย
“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ !”
แขกเหรื่อทยอยกันเข้ามาคนแล้วคนเล่า เพื่อปลอบใจหลี่ซูซินที่เมื่อคืนใช้น้ำพริกล้างตาอยู่หลายรอบ
หลี่ซูซินตอบรับอย่างมีมารยาท
พิธีส่งศพดำเนินไปตามขั้นตอน
ด้านนอกประตูใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลหาน มีเด็กหนุ่มสาวหลายคนเดินทางมาถึง
หวางเสี่ยวซีพูดด้วยสีหน้าปวดใจว่า “อีหลิงพูดกับฉันอยู่บ่อยๆ ว่าคุณลุงของเธอเอ็นดูเธอมาก ตอนนี้คุณลุงของเธอไม่อยู่แล้ว เธอจะต้องเสียใจมากแน่ๆ”
หลี่เหยนถอนหายใจทีหนึ่ง “ข้าวของโลกใต้ดินน่ะ ไม่ได้น่ากินขนาดนั้นหรอกนะ ถึงแม้จะดูศิวิไลซ์ขนาดไหน แต่ความเสี่ยงก็เยอะพอๆกันนั่นแหละ”
พอหันไปมองเซี่ยหยู่เวยที่อยู่ข้างๆทีหนึ่ง หลี่เหยนก็หัวเราะหึหึออกมา “ยังไงก็คอยติดตามคุณชายใหญ่เว่ยของพวกเราไว้นั่นแหละปลอดภัย ถึงแม้ข้าวสาธารณะจะไม่อร่อยเหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ปลอดภัย”
หลี่เหยนแอบเลียแข้งเลียขาเว่ยเทียนหมิงไปทีหนึ่ง
เซี่ยหยู่เวยแอบเหลือบไปมองใบหน้าหล่อเหลาของเว่ยเทียนหมิง ดวงตาฉายแววนับถือ “ถึงแม้จะไม่รู้ว่าหลินหยุนเจ้าคนไร้ประโยชน์นั่นใช้วิธีไหนถึงได้ประจบหยุนจินไซได้ แต่เมื่อเทียบกับพี่เทียนหมิงแล้ว เขายังห่างชั้นอีกไกล”
พอเกิดความคิดนี้ขึ้นมา เซี่ยหยู่เวยก็ชะงักไปทันที ทำไมตอนนี้ไม่ว่าเรื่องอะไร เธอก็ชอบหลินหยุนมาเป็นตัวเปรียบเทียบอยู่เรื่อย ?
เมื่อก่อน เธอไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อนเลย
เซี่ยหยู่เวยรู้สึกว่า อาจเป็นเพราะช่วงนี้หลินหยุนทำให้เธอตื่นตกใจอยู่บ่อยๆ ทำให้ไม่ว่าอะไรเธอก็ชอบเอาไปเปรียบเทียบกับหลินหยุนอยู่เรื่อย
เว่ยเทียนหมิงสีหน้าเคร่งขรึม “เข้าไปเถอะ อีกเดี๋ยวพยายามเกลี้ยกล่อมอีหลิงให้ดี”
“เดี๋ยวก่อน พวกเธอดูสิ นั่นเหมือนจะเป็นหลินหยุนนะ !” หลายคนกำลังจะเดินเข้าไป แต่จู่ๆหวางเสี่ยวซีกลับมองไปอีกทาง แล้วสีหน้าก็แปลกใจเล็กน้อย
จ้าวกางอุทานออกมา “อีหลิงบอกเขาด้วยเหรอ ? ดูไม่ออกเลยนะ ว่าเจ้าหมอนั่นจะมีน้ำหนักต่อจิตใจของอีหลิงขนาดนั้น !”
แต่ละคนต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของอีหลิง เลยรู้จักนิสัยของอีหลิงดี ถ้าหากไม่ใช่เพื่อนสนิท เรื่องแบบนี้ อีหลิงไม่มีทางบอกหลินหยุนเด็ดขาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...