จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 185

สรุปบท บทที่184 ใส่ร้ายป้ายสี: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่184 ใส่ร้ายป้ายสี จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่184 ใส่ร้ายป้ายสี คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

พอพูดจบ หานเซี่ยนหัวก็หันหลังเดินจากไปทันที

ถึงแม้เขาจะหลงใหลในความงามของอีหลิง แต่เขาชอบอำนาจมากกว่า พอมีอำนาจอยู่ในมือแล้ว อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็ย่อมต้องได้ไม่ใช่หรือ ?

อีหลิงมีสีหน้าเจ็บปวด หันไปมองหานหรู “คุณแม่คะ จะทำยังไงดี ?”

หานหรูปิดตาลง ใบหน้าขาวซีดเต็มไปด้วยความปวดร้าว

“คุณลุงของลูกจากไปแล้ว ที่บ้านหลังนี้ไม่มีที่สำหรับพวกเราอีกแล้ว”

“วันนี้เป็นวันส่งศพของคุณลุงลูก ต้องมีเพื่อนสนิทหลายคนมาร่วมแสดงความเสียใจแน่ ถ้าหากเวลาแบบนี้พวกเราไม่ไปปรากฏตัวในงานส่งศพของคุณลุงลูก จะต้องมีชื่อเสียงเสียๆหายๆไปตลอดชีวิตแน่”

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม ก็ต้องรอจนจบงานส่งศพของคุณลุงลูกแล้ว พวกเราถึงจะไปจากที่นี่ได้”

อีหลิงมองคุณแม่ที่มีสีหน้าเด็ดเดี่ยว แล้วพยักหน้าแรงๆ “ค่ะ !”

คฤหาสน์ตระกูลหาน ประดับไปด้วยผ้าขาว สีล้วนเป็นโทนเดียว

ศาลาไว้ทุกข์ของหานกั๋วเฉียง โลงศพคริสทัลถูกจัดวางอย่างเงียบสงบไว้ในห้องโถง อีหลิงกับหานหรูคุกเข่าอยู่ตรงหน้าโลงศพคริสทัล ร้องไห้เงียบๆ

ญาติสนิทมิตรสหายของตระกูลหานทั้งหลาย ต่างก็ทยอยกันเข้ามาแสดงความเสียใจ

คุณป้าหลี่ซูซินรับหน้าที่เป็นคนต้อนรับ

พอบังเอิญเห็นสองแม่ลูกที่คุกเข่าอยู่ในห้องโถง ใบหน้าของหลี่ซูซินก็มีแววรังเกียจวาบผ่าน

หลี่ซูซินหันไปมองหานเซี่ยนหัวที่อยู่ข้างๆทีหนึ่ง ส่งสัญญาณทางสายตา เป็นเชิงตำหนิ

สายตาของหานเซี่ยนหัว จ้องไปทางพ่อบ้านหลี่ที่อยู่หน้าประตู พอสบตากับพ่อบ้านหลี่แล้ว ก็พยักหน้าให้กัน

หานกั๋วเฉียงมีฐานะเป็นผู้มีอิทธิพลของเมืองลี่ชวน หลี่ซูซินเองก็เป็นลูกสาวของหลี่ว่านเหนียนผู้มีอิทธิพลคนก่อนของเหแหยาง คนที่เดินทางมาแสดงความเสียใจก็เลยมีจำนวนไม่น้อย

“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะ !”

แขกเหรื่อทยอยกันเข้ามาคนแล้วคนเล่า เพื่อปลอบใจหลี่ซูซินที่เมื่อคืนใช้น้ำพริกล้างตาอยู่หลายรอบ

หลี่ซูซินตอบรับอย่างมีมารยาท

พิธีส่งศพดำเนินไปตามขั้นตอน

ด้านนอกประตูใหญ่ของคฤหาสน์ตระกูลหาน มีเด็กหนุ่มสาวหลายคนเดินทางมาถึง

หวางเสี่ยวซีพูดด้วยสีหน้าปวดใจว่า “อีหลิงพูดกับฉันอยู่บ่อยๆ ว่าคุณลุงของเธอเอ็นดูเธอมาก ตอนนี้คุณลุงของเธอไม่อยู่แล้ว เธอจะต้องเสียใจมากแน่ๆ”

หลี่เหยนถอนหายใจทีหนึ่ง “ข้าวของโลกใต้ดินน่ะ ไม่ได้น่ากินขนาดนั้นหรอกนะ ถึงแม้จะดูศิวิไลซ์ขนาดไหน แต่ความเสี่ยงก็เยอะพอๆกันนั่นแหละ”

พอหันไปมองเซี่ยหยู่เวยที่อยู่ข้างๆทีหนึ่ง หลี่เหยนก็หัวเราะหึหึออกมา “ยังไงก็คอยติดตามคุณชายใหญ่เว่ยของพวกเราไว้นั่นแหละปลอดภัย ถึงแม้ข้าวสาธารณะจะไม่อร่อยเหมือนกัน แต่อย่างน้อยก็ปลอดภัย”

หลี่เหยนแอบเลียแข้งเลียขาเว่ยเทียนหมิงไปทีหนึ่ง

เซี่ยหยู่เวยแอบเหลือบไปมองใบหน้าหล่อเหลาของเว่ยเทียนหมิง ดวงตาฉายแววนับถือ “ถึงแม้จะไม่รู้ว่าหลินหยุนเจ้าคนไร้ประโยชน์นั่นใช้วิธีไหนถึงได้ประจบหยุนจินไซได้ แต่เมื่อเทียบกับพี่เทียนหมิงแล้ว เขายังห่างชั้นอีกไกล”

พอเกิดความคิดนี้ขึ้นมา เซี่ยหยู่เวยก็ชะงักไปทันที ทำไมตอนนี้ไม่ว่าเรื่องอะไร เธอก็ชอบหลินหยุนมาเป็นตัวเปรียบเทียบอยู่เรื่อย ?

เมื่อก่อน เธอไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อนเลย

เซี่ยหยู่เวยรู้สึกว่า อาจเป็นเพราะช่วงนี้หลินหยุนทำให้เธอตื่นตกใจอยู่บ่อยๆ ทำให้ไม่ว่าอะไรเธอก็ชอบเอาไปเปรียบเทียบกับหลินหยุนอยู่เรื่อย

เว่ยเทียนหมิงสีหน้าเคร่งขรึม “เข้าไปเถอะ อีกเดี๋ยวพยายามเกลี้ยกล่อมอีหลิงให้ดี”

“เดี๋ยวก่อน พวกเธอดูสิ นั่นเหมือนจะเป็นหลินหยุนนะ !” หลายคนกำลังจะเดินเข้าไป แต่จู่ๆหวางเสี่ยวซีกลับมองไปอีกทาง แล้วสีหน้าก็แปลกใจเล็กน้อย

จ้าวกางอุทานออกมา “อีหลิงบอกเขาด้วยเหรอ ? ดูไม่ออกเลยนะ ว่าเจ้าหมอนั่นจะมีน้ำหนักต่อจิตใจของอีหลิงขนาดนั้น !”

แต่ละคนต่างก็เป็นเพื่อนสนิทของอีหลิง เลยรู้จักนิสัยของอีหลิงดี ถ้าหากไม่ใช่เพื่อนสนิท เรื่องแบบนี้ อีหลิงไม่มีทางบอกหลินหยุนเด็ดขาด

ทำไมถึงได้ไร้หัวใจขนาดนี้ !

เหล่าแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความเสียใจ ต่างก็มีสีหน้าที่แตกต่างกันไป แต่สายตาส่วนมากที่มองไปทางอีหลิงสองแม่ลูกนั้น ต่างก็แฝงแววดูถูกเหยียดหยาม

“โอ้โห คุณอาเพิ่งจะเสียไปแท้ๆ ก็เริ่มขโมยของแล้วเหรอ นี่มันพวกเนรคุณชัดๆ ! เสียดายหน้าตาสวยๆนั่นเสียจริง !”

“ฉันได้ยินว่าน้องสาวของคุณหาน มีลูกทั้งๆที่ยังไม่แต่งงาน หลายปีมานี้มาคอยอาศัยอยู่บ้านคุณหาน คุณหานคอยเลี้ยงดูพวกเขาอย่างดี คิดไม่ถึงเลยว่าคุณหานเพิ่งจะเสีย สองแม่ลูกคู่นี้ก็ทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนี้แล้ว ถ้าคุณหานที่อยู่ปรโลกรู้เข้า คงต้องโมโหจนตายอีกรอบแน่ !”

“คนแบบนี้ต้องรีบไล่ออกไปซะ ให้พวกเขาไปนอนข้างถนน !”

เสียงเหยียดหยามของผู้คนค่อยๆดังขึ้น เดิมทียังมีบางคนที่นึกสงสัย แต่ก็ถูกจังหวะอันวุ่นวายเหล่านั้นชักจูงไปเสียแล้ว

ชั่วขณะนั้น หานหรูสองแม่ลูกก็กลายเป็นเป้าโจมตีไปทันที

“นายว่าอะไรนะ !” หานเซี่ยนหัวแสร้งทำเป็นจ้องพ่อบ้านหลี่ด้วยความโมโห ริเริ่มการแสดงของเขา

“เหลวไหล อีหลิงเป็นน้องสาวลูกพี่ลูกน้องของฉัน เธอจะไปขโมยของรักของหวงของคุณพ่อได้ยังไง ! นายตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วหรือยัง ?”

“ถ้านายไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด แล้วออกมาพูดเรื่อยเปื่อย ทำให้ชื่อเสียงของน้องสาวฉันเสื่อมเสียล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยนายไว้แน่ !” หานเซี่ยนหัวทำสีหน้าโมโหเหมือนกำลังปกป้องน้องสาวตัวเอง ฝีมือการแสดงนั่นสมควรได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจริงๆ

พ่อบ้านหลี่เองก็แอบยกนิ้วให้ในใจ เจ้าบ้านคนต่อไปของตระกูลหานคนนี้ ไม่ใช่เล่นๆเลยจริงๆ !

พ่อบ้านหลี่แสดงต่อไปตามบท “คุณชายครับ คุณอีหลิงหลานสาวที่คุณท่านรักใคร่เอ็นดูที่สุด ถ้าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด ผมไม่มีทางกล้าพูดออกมาหรอกครับ”

“สองวันก่อนคุณอีหลิงกลับมาอย่างกะทันหัน แล้วเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องหนังสือของคุณท่านอยู่หลายรอบ ตอนนั้นผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอคิดจะทำอะไร จนวันนี้ตอนที่แม่บ้านไปทำความสะอาดในห้องของคุณอีหลิง ก็พบกับจี้หยกที่หายไปเมื่อสองวันก่อน ผมถึงได้เข้าใจ ว่าคุณอีหลิงจะต้อง......”

คำพูดต่อจากนั้น พ่อบ้านหลี่ไม่ได้พูดต่อ เขาไม่ได้พูดว่าอีหลิงขโมยของ เขาเพียงแค่พูดถึงหลักฐานออกมา ที่เหลือก็ปล่อยให้ทุกคนไปเติมคำในช่องว่างกันเอาเอง !

อีกอย่าง สิ่งที่ทุกคนเติมกันเอาเองในหัวนั้น จะต้องน่าประทับใจยิ่งกว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาแน่

ต้องบอกเลยว่า พ่อบ้านหลี่เองก็เป็นยอดฝีมือเหมือนกัน !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์