จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 186

สรุปบท บทที่185 ร่างเดิมถูกเปิดเผย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปเนื้อหา บทที่185 ร่างเดิมถูกเปิดเผย – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บท บทที่185 ร่างเดิมถูกเปิดเผย ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

พอได้ยินสิ่งที่พ่อบ้านหลี่บรรยายออกมาแล้ว เดิมทีคนที่ยังสงสัย ก็ต้องเชื่ออย่างช่วยไม่ได้

นี่มันไม่ต่างอะไรจากการจับได้คาหนังคาเขาเลย

“ในเมื่อพ่อบ้านคนนี้กล้าพูดเรื่องนี้ออกมา ก็แสดงว่าต้องมีหลักฐานแน่ๆ ไม่อย่างนั้น แค่พ่อบ้านคนหนึ่ง จะกล้าทำผิดต่อคุณหนูใหญ่คนนี้ได้ยังไง !”

“เมื่อกี้ฉันยังรู้สึกว่าเธอน่าสงสารอยู่เลย สงสัยคงเข้าใจผิดไป คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นคนเนรคุณจริงๆ”

“คนแบบนี้ สมควรถูกขับไล่ออกไป น่าขยะแขยงเสียจริง !”

“คุณชายหาน คุณอย่าใจอ่อนเด็ดขาดเลยนะ คนแบบนี้ถ้ายังอยู่ในตระกูลหานต่อไป ต่อไปไม่มีคุณหานคอยปราบปรามแล้ว พวกเธอจะต้องยิ่งทำตัวเหิมเกริมกว่านี้แน่ ! ต้องไล่พวกเขาออกไปเท่านั้น !”

เหล่าบริวารของตระกูลหานบางคนเอง ก็เริ่มส่งเสียงดังตาม ทำท่าทางเหมือนพวกรักความยุติธรรม ราวกับว่าหากอีหลิงสองแม่ลูกไม่ออกไป ตระกูลหานก็จะต้องล่มสลายโดยน้ำมือของพวกเธอเสียเดี๋ยวนี้

แน่นอนว่า ภายในนั้นมีแกนนำอยู่ และเป็นคนที่หานเซี่ยนหัวจัดเตรียมไว้ก่อนแล้ว

หานเซี่ยนหัวรู้สึกย่ามใจ แต่ก็ยังทำการแสดงต่อไป เขาจะต้องแสดงเป็นเจ้าบ้านที่ใจดีและชอบธรรม

หานเซี่ยนหัวแสร้งทำเป็นมองไปทางอีหลิงด้วยสีหน้าตื่นตกใจ แล้วถามด้วยท่าทางปวดร้าวใจว่า “น้องอีหลิง เธอเป็นคนเอาไปจริงๆเหรอ ?”

ขณะนี้อีหลิงทำเพียงแค่หัวเราะเสียงเย็น ตอนนี้ก็เหมือนจับได้คาหนังคาเขาแล้ว ถึงแม้เธอจะอธิบายแล้วยังจะมีคนเชื่ออยู่อีกหรือ ?

“พี่คะ พี่คิดว่าฉันจะเป็นคนเอาไปไหมล่ะคะ ?” อีหลิงสีหน้าหม่นหมอง แววตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

หานเซี่ยนหัวยังแสดงต่อไป “น้องอีหลิง เธอพูดความจริงมาเถอะ ถ้าเธอไม่ได้เป็นคนเอาไป พี่จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนแน่ เพื่อคืนความยุติธรรมให้เธอ”

อีหลิงหัวเราะเสียงเย็น “ฉันไม่ได้เอา ฉันจะดูสิว่าคุณพี่จะคืนความยุติธรรมให้ฉันยังไง”

แววตาของหานเซี่ยนหัวเย็นชาเล็กน้อย คิดไม่ถึงเลยว่าเข้าใกล้ความตายขนาดนี้แล้ว น้องสาวลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้ก็ยังแข็งกร้าวขนาดนี้

พ่อบ้านหลี่แอบมองไปทางฝูงชนทีหนึ่งแบบไม่เป็นที่สังเกต ทันใดนั้น ก็มีคนเยาะเย้ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ช่างหน้าไม่อายเสียจริง ขโมยของแล้ว ตอนนี้ถูกจับได้คาหนังคาเขา ยังกล้าไม่ยอมรับผิดอีก !”

“คนชั้นต่ำแบบนี้ ถ้ายังอยู่ในตระกูลหานต่อไป ไม่รู้ว่าเธอจะทำเรื่องน่ากลัวแบบไหนออกมาได้อีก !”

“คุณชาย จะต้องไล่หัวขโมยแบบนี้ออกไปจากตระกูลหานนะครับ !”

“ใช่ครับ คุณชาย ต้องไล่หัวขโมยไร้ยางอายแบบนี้ออกไปซะ !”

บนใบหน้าของแขกเหรื่อเหล่านั้น ก็ยิ่งฉายแววดูถูกดูแคลนมากกว่าเดิม ขโมยของแล้วถูกคนอื่นจับได้คาหนังคาเขา ยังจะกล้าปฏิเสธอีก ช่างไม่รู้จักอายเลยจริงๆ

หานเซี่ยนหัวเห็นว่าเริ่มพอประมาณแล้ว เลยเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา

“น้องอีหลิง ตอนมีชีวิตคุณพ่อดีกับเธอไม่น้อย คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะกล้าทำเรื่องลักเล็กขโมยน้อยที่หยามเกียรติวงศ์ตระกูลแบบนี้ออกมา !”

“เห็นแก่ความเป็นญาติ ฉันจะไม่เรียกร้องความรับผิดชอบอะไรจากเธอ”

“เธอไปเถอะ !”

“ต่อจากนี้พวกเธอกับตระกูลหานของฉัน จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก !”

หานเซี่ยนหัวทำสีหน้าเจ็บปวดและเด็ดขาด ราวกับเจ็บปวดรวดร้าวมากกับการตัดสินใจนี้ แท้จริงแล้วตอนนี้ภายในใจรู้สึกดีใจจนเบิกบาน

หลี่ซูซินที่อยู่ข้างๆเองก็เผยสีหน้าแค้นเคืองออกมา “ในที่สุดก็ไล่นังคนเลวนี่ออกไปได้เสียที ตอนนั้นก็เป็นเพราะพวกเธอ ทำให้ฉันต้องพบเจอกับความอัปยศต่อหน้าหานกั๋วเฉียง ในที่สุดวันนี้ก็ได้เอาคืนแล้ว !”

“ไสหัวไป ไสหัวออกไปจากตระกูลหาน !”

“ตระกูลหานไม่ต้อนรับพวกลักเล็กขโมยน้อยแบบนี้ ! ไสหัวไป !”

ฝูงชนกำลังคุกรุ่น แน่นอนว่า คนส่วนมากก็แค่คล้อยตามไปตามจังหวะ

อีหลิงหันไปมองหานหรูอย่างสิ้นหวัง รู้สึกหดหู่จนร้องไห้ออกมา “คุณแม่คะ พวกเราจะทำยังไงดี ?”

หานหรูหันไปมองหานเซี่ยนหัวที่ยืนอยู่อีกข้างด้วยสีหน้าเจ็บปวดใจ แล้วพูดเสียงขรึมว่า “ไม่ต้องให้พวกเธอมาไล่ฉันหรอก รอให้งานส่งศพของพ่อเธอเสร็จเมื่อไหร่พวกเราก็จะไปเอง”

ข่งอู่ที่อยู่อีกข้างทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว ยืนออกมาแล้วพูดว่า “คุณชาย ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ยังไม่ควรตั้งข้อสรุปเร็วเกินไป ยังไงก็ไม่มีใครเห็นกับตาว่าคุณอีหลิงหยิบของออกมาจากห้องหนังสือของคุณท่านหาน !”

“ผมรู้สึกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีคนใส่ร้ายป้ายสีคุณอีหลิง !”

ดวงตาของหานเซี่ยนหัวมีแววอาฆาตวาบผ่าน ลูกน้องคนอื่นของหานกั๋วเฉียง ส่วนใหญ่ต่างก็เข้ามาประจบเขา กล่าวคำสาบานว่าจะจงรักภักดี แต่ ข่งอู่คนนี้กลับทำตัวไม่ทุกข์ไม่ร้อนต่อเขา

หากไม่ใช่เพราะข่งอู่เป็นลูกน้องคนสนิทที่สุดของหานกั๋วเฉียง มีอำนาจมากเกินไป หานเซี่ยนหัวคงไล่เขาไปตั้งนานแล้ว

พ่อบ้านหลี่ที่อยู่ข้างๆหัวเราะเสียงเย็นออกมาทีหนึ่ง “ข่งอู่ ความหมายของนายคือฉันจงใจใส่ร้ายคุณอีหลิงอย่างนั้นเหรอ ?”

ข่งอู่หันไปมองพ่อบ้านหลี่ทีหนึ่ง สีหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แล้วพูดเสียงดังว่า “ดูจากที่คุณท่านหานรักใคร่เอ็นดูคุณอีหลิงมาก ถ้าหากเธออยากได้อะไร แค่หยิบไปก็ได้แล้ว จำเป็นต้องขโมยด้วยเหรอ ?”

“เห็นได้ชัดเลยว่ามีคนฉวยโอกาสที่คุณท่านหานเสียชีวิตไป จงใจใส่ร้ายป้ายสีคุณอีหลิง”

อีหลิงหันไปมองข่งอู่ สีหน้าเต็มไปด้วยความขอบคุณ คิดไม่ถึงเลยว่าในตระกูลหานยังมีคนที่กล้าเข้าข้างพวกเธอสองแม่ลูกด้วย

ในตอนนั้นเอง พวกของเซี่ยหยู่เวยทั้งหลายก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์ขึ้นมาแล้ว

พอหวางเสี่ยวซีได้ยินว่ามีคนใส่ร้ายหาว่าอีหลิงขโมยของ ก็โหโหขึ้นมาทันที ฉวยโอกาสที่ข่งอู่ตอบโต้ เริ่มตะโกนเสียงดังตามไปด้วย “ใช่ จะต้องมีคนใส่ร้ายป้ายสีแน่ คนที่หยิ่งทะนงอย่างเสี่ยวหลิงหลิงของพวกเรา ไม่มีทางไปขโมยของได้หรอก !”

“พวกคุณพูดจาไร้สาระกันไปใหญ่แล้ว !”

เซี่ยหยู่เวยเองก็ก้าวออกมาแสดงท่าทีด้วย “พวกเราเชื่อใจอีหลิง เธอไม่มีทางขโมยของแน่ จะต้องมีคนจงใจใส่ร้ายเธอแน่ !”

หานเซี่ยนหัวเริ่มอยากจะด่ามารดาในใจแล้ว ข่งอู่แค่คนเดียวก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ยังมีพวกหน้าโง่โผล่มาจากไหนอีกเยอะแยะ ?

หานเซี่ยนหัวเองก็ขี้เกียจแสดงละครต่อไปแล้ว วันนี้เขาจะต้องไล่อีหลิงสองแม่ลูกนี่ออกไปจากตระกูลหานให้ได้

หานเซี่ยนหัวจ้องข่งอู่ด้วยแววตามืดมน “ข่งอู่ ความหมายของนายคือฉันจงใจใส่ร้ายพวกเขาสองแม่ลูกเหรอ ?”

พอพูดจบ หานเซี่ยนหัวก็หันไปถลึงตาใส่พวกเซี่ยหยู่เวย แสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม แล้วพูดเสียงเย็นว่า “พวกเธอเป็นใคร ? เรื่องในตระกูลหานของฉัน คนนอกไม่กี่คนมีสิทธิ์สอดปากเข้ามายุ่งด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ !”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์