เขาอยากจะรู้จริงๆ คำว่าสหายนั้นหมายความว่ายังไงกันแน่
ใช้พลังทั้งหมดของตัวเอง ถึงแม้ต้องใช้เวลานานสักแค่ไหน แต่ทุกคนก็มีขีดจำกัดอยู่ มันเป็นขีดจำกัดที่เกิดมาพร้อมกับเรา
เหตุผลนี้มันง่ายมากๆเหรอ?
อันที่จริงมันง่ายมากๆเลย!
แต่นักบำเพ็ญเซียนสามารถทำได้เหรอ?
มันเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ
ก็เหมือนกับตอนที่อยู่ดาวไกอา ประเทศจีนมีสุภาษิตคำหนึ่งที่พูดว่า คนหลายๆคนที่เดินมาด้วยกัน ในนั้นต้องมีสักคนที่เป็นครูของฉันได้!
แม้แต่คนแก่ที่มีอายุเยอะมากๆ
จนถึงเด็กน้อยที่ยังไม่ได้เข้าเรียน
ทุกคนต่างรู้จักสุภาษิตประโยคนี้ แต่ทุกคนสามารถทำได้เหรอ?
ทำไม่ได้อยู่แล้ว!
ขณะที่หลินหยุนกำลังคิดแบบนี้อยู่ จู่ๆจิตใจของเขาก็เปิดกว้างและมีความสุข
เรื่องนี้ทำให้เขาตื่นเต้นมากๆ
นี่เป็นสัญญาณว่าเขามีความคิดตรงกันกับเต๋าสวรรค์!
หลังจากนิ่งเงียบไปสักพัก หลินหยุนก็เดินไปข้างหน้าและผ่านหุบเขาแห่งนี้ไป
ด้านในหุบเขานั้น เขาเข้าไปไม่ได้อยู่แล้ว
ไม่เพียงเขาเข้าไปไม่ได้
แม้แต่ยอดฝีมือแดนกษัตริย์เซียนก็เข้าไปไม่ได้เหมือนกัน!
แม้แต่รังสีฆ่าฟันที่ถูกแพร่ออกมาจากมารฟ้ากับกิเลนก็ทำให้ทุกคนต้านรับไม่ไหวอยู่แล้ว
หลังจากผ่านหุบเขามาแล้ว หมอกสีเทาก็ค่อยๆหายไป ทำให้เขามองเห็นด้านหน้ามากขึ้น
แต่พลังจิตวิญญาณก็ไม่สามารถตรวจสอบสถานที่ไกลออกไปได้
ด้านหน้าของหลินหยุน มีซากปรักหักพังที่หนึ่งอยู่
ซากปรักหักพังแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก และมันก็ทรุดลงไปยังพื้นดิน
และมันอยู่ตรงกลางของหลุมลึก
และรูปร่างของหลุมลึกแห่งนี้ เป็นรูปวงรีที่ไม่ค่อยเป็นระเบียบ ถ้าจะต้องอธิบายมัน มันก็เหมือนกันมีคนใช้หมัดอันใหญ่มากๆต่อยใส่ตำหนักพวกนี้
ทำให้มันแตกสลายทันทีและทำให้มันกลายเป็นหลุมลึกขนาดพันฟุต
ในขณะที่หลินหยุนกำลังมาถึงที่นี่ เขาได้ตรวจสอบแล้ว พื้นดินของที่นี่มีความพิเศษมากๆ เพราะพื้นดินพวกนี้แข็งแกร่งมากๆ
ด้วยพลังที่เขามีอยู่ในตอนนี้ ถ้าจะทำลายพื้นดินพวกนี้ มันก็เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปใช้มือขุดพื้นดินเลย
คนที่สามารถโจมตีจนพื้นดินกลายเป็นหลุมลึกพันฟุตได้ พลังของเขานั้น แม้แต่หลินหยุนก็คงพูดไม่ออก
หลินหยุนเดินไปอยู่บริเวณขอบๆของหลุมลึก ทำให้เขาสัมผัสพลังแห่งความตายอันแข็งแกร่งได้ทันที
เขามองไปข้างหน้า พลังแห่งความตายมีเยอะมากๆจนหาที่เปรียบมิได้ ราวกับด้านในยังมีเสียงโหยหวนแห่งความเจ็บปวดทรมานด้วย
หลินหยุนขมวดคิ้วทันที ในสมองของเขาได้จินตนาการถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากๆ
หลินหยุนเดินไปข้างหน้าต่อ ผ่านไปไม่นาน มีภูเขาหัวโล้นอันหนึ่ง ปรากฏตัวด้านหน้าของเขา
อย่างไรก็ตาม ภูเขาหัวโล้นอันนี้ก็แตกสลายเหมือนกัน
มันเป็นภูเขาที่ถูกตัดครึ่ง
เดิมทีมันเป็นภูเขาที่ใหญ่และสูงมากๆ แต่มันกลับถูกตัดออกไปครึ่งหนึ่ง
ดังนั้น ยอดเขาก็เลยไม่ค่อยสูงมากนัก และมันก็กลายเป็นเวทีขนาดใหญ่
และด้านล่างภูเขานั้น ยังมีศิลาหินที่แตกหักอันหนึ่งอยู่
และด้านบนศิลาหินยังมีร่องรอยของตัวอักษรด้วย
หลินหยุนรีบบินเข้าไป และยืนอยู่ด้านหน้าของศิลาหิน
ด้านบนของศิลาหินนั้น มีอักษรคำว่าหมินอยู่
และมีอักษรครึ่งหนึ่งที่เขียนว่าชางด้วย
ถ้าเอาอักษรสองตัวมารวมกัน มันน่าจะชื่อชางหมิน
สายตาของหลินหยุนเปล่งประกาย เขาไม่รู้จริงๆว่ามันหมายความว่ายังไง
เขาไม่รู้ว่าภูเขาที่ถูกตัดขาดแห่งนี้ มีชื่อว่าเขาชางหมิน หรือว่าบนภูเขาแห่งนี้ ยังมีสำนักแห่งหนึ่งที่ชื่อสำนักชางหมินกันแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...