อ่านสรุป บทที่ 1858 ด้านเหนือของประตูสวรรค์ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บทที่ บทที่ 1858 ด้านเหนือของประตูสวรรค์ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ทั้งสองคนพุ่งไปยังทิศเหนือ ตลอดเส้นทางเป็นพื้นที่กันดารทั้งหมด ถ้าจะพูดว่าเป็นพื้นที่รกร้างก็ได้
ถ้าเป็นอย่างที่หมังเซิงพูดเอาไว้จริงๆ พวกเขาเจอศพของนักบำเพ็ญเซียนจำนวนมากๆ มีหมื่นชนเผ่าและเผ่ามนุษย์ด้วย ส่วนใหญ่เป็นยอดฝีมือจ้าวแห่งเต๋า
มียอดฝีมือบางส่วน ร่างกายของพวกเขาไม่ได้เน่าเสียเลย
แดนสู่ธรรมะ หรือแดนที่สูงกว่าแดนสู่ธรรมะ ถ้าตายโดนธรรมชาติหรือสิ้นอายุขัย โดยปกติแล้วร่างกายของพวกเขานั้นผ่านไปหลายร้อยปีก็ไม่เน่าเสีย
แต่สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น
เพราะมีลมกางที่รุนแรงมากๆ
ไม่สามารถรักษาสภาพของศพได้นานอยู่แล้ว
อย่าพูดถึงคนที่เสียชีวิตแล้ว แม้แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ถ้าอยู่สถานที่แห่งนี้ไปนานๆก็คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ยอดฝีมือจ้าวแห่งเต๋านั้นสามารถรักษาสภาพศพได้นานหน่อย เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว ร่างกายสามารถรักษาสภาพเดิมและไม่เน่าเสียได้ประมาณหนึ่งพันปี
ทั้งสองคนบินลงมา และตรงไปยังศพที่ยังไม่เน่าเสีย
นี่เป็นศพของยอดฝีมือจากหมื่นชนเผ่า
ศพนี้ไม่มีพลังชีวิตเหลืออยู่เลย ร่างกายของเขาก็สะอาดมากๆ
หมังเซิงพูด "อันที่จริงศพที่ไม่เน่าเสียแบบนี้ก็เห็นได้บ่อยอยู่ แต่บนศพพวกนี้ก็ไม่มีสิ่งของอะไรแล้ว เพราะมีคนอื่นๆเก็บไปก่อนแล้ว!"
หลินหยุนพยักหน้า หมังเซิงเอ่ยปากพูดต่อ "คนๆนี้ไม่ค่อยแข็งแกร่งมากนัก น่าจะแข็งแกร่งพอๆกับพวกเราสองคน เขาถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือทั่วไป ยังมียอดฝีมือจ้าวแห่งเต๋าระดับสูงบางส่วนอยู่ ถึงแม้พวกเขาจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ศพของพวกเขาคงไม่ได้โดนทิ้งไว้ด้านนอกแบบนี้!"
"พวกเขาจะหาวิมานแห่งหนึ่ง จากนั้นก็เหลือวิชาของตัวเองเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ร่างกายของยอดฝีมือพวกนั้นก็จะเข้าสู่การดับจิต เสียชีวิตและเน่าเสีย!"
หลินหยุนพยักหน้าเบาๆและพูด "ทิศเหนือคือด้านหลังของราชวงศ์ มันเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่?"
หมังเซิงพูด "น่าจะเป็นด้านหลังของราชวงศ์ พื้นที่ตรงนี้กว้างใหญ่มากๆ โดยปกติสำนักต่างๆจะมาถึงสถานที่แห่งนี้ ถ้าโชคดีหน่อย อาจจะเจอสมบัติล้ำค่าที่ยังไม่ได้ถูกทำลายก็ได้"
"ดังนั้น เมื่อสักครู่สหายหลินน่าจะมองเห็น มีนักบำเพ็ญเซียนจำนวนมากพุ่งไปทะเลทรายจากตรงนี้!"
"ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะมาหาสมบัติล้ำค่าต่างๆที่อยู่ตรงนี้!"
หลินหยุนเข้าใจทันทีและพูด "เป็นอย่างนี้นี่เอง!"
หมังเซิงพูดด้วยรอยยิ้ม "สหายหลิน ทิศเหนือแห่งนี้กว้างใหญ่มากๆ ถึงแม้มันจะโดนทำลายไปแล้ว แต่มันก็ยังโอกาสที่สามารถหาสมบัติล้ำค่าเจอ"
"ด้านหน้ายังมีกำแพงเมืองที่เป็นซากปรักหักพังอยู่ เมื่อถึงกำแพงเมืองแล้ว ก็ถือได้ว่ามาถึงเขตเหนือแล้ว เมื่อถึงตรงนี้ พวกเราค่อยแยกทางกัน สหายมีความคิดเห็นยังไง?"
หลินหยุนพูด "โอเค! ทำตามที่สหายหมังเซิงพูดเลย!"
หลังจากทั้งสองคนบินไปข้างหน้าได้ครึ่งวัน ด้านหน้าของพวกเขาก็มีกำแพงเมืองที่ใหญ่มากๆอยู่
กำแพงเมืองพวกนี้ถูกสร้างขึ้นบนเทือกเขาจากตะวันออกไปยังตะวันตก
แต่ตอนนี้ ภูเขายังมีอยู่ แต่กำแพงเมืองพวกนี้ มันได้พังทลายไปหมดแล้ว
หมังเซิงชี้ไปที่กำแพงเมืองพวกนั้นและพูด "สหายหลิน คือตรงนั้นแหละ!"
หลินหยุนพูด "ถ้างั้นพวกเราก็แยกทางกันตรงนี้เลย ตลอดทางที่ผ่านมา สหายได้อธิบายเรื่องต่างๆให้ฉันฟัง ฉันต้องขอบคุณสหายมากๆ!"
เมื่อหมังเซิงได้ยิน เขารีบโบกมือและพูด "สหายหลินไม่ต้องเกรงใจ เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย ถ้าสหายตรวจสอบและค้นหาข้อมูลสักพัก ถึงแม้ฉันไม่ได้อธิบาย สหายก็จะรู้เรื่องพวกนี้เอง!"
"สหายหลิน ฉันขอตัวก่อน!"
ขณะพูด เขาก็บินไปยังกำแพงเมืองที่เป็นซากปรักหักพัง หลินหยุนรอสักพักแล้ว เขาก็บินตรงไปเหมือนกัน
ลมกางที่อยู่ด้านในกำแพงเมือง มันอ่อนแอกว่านอกกำแพงเมืองมากๆ
แต่มันก็ยังเป็นสถานที่เต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง
หลังจากหลินหยุนตรวจดูสักพักแล้ว เขาก็ตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ผ่านไปไม่นาน เขาก็มาถึงยอดเขาแห่งหนึ่ง
ตรงนี้น่าจะเคยมีสำนักแห่งหนึ่งอยู่
แต่ตอนนี้มันเหลือแค่ร่องรอยและซากปรักหักพังเท่านั้น แม้แต่มันเคยเป็นสำนักอะไรก็ดูไม่ออกแล้ว
หลินหยุนเดินอยู่บนยอดเขา และเขาสัมผัสได้ถึงพลังต้าเต๋าแห่งหอกด้วย
แน่นอนว่าเจดีย์อันนี้ก็โดนทำลายไปแล้ว
โดยปกติแล้ว ถ้าเจดีย์อันนี้โดนทำลายไปแล้ว มันก็ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว
และไม่สามารถเก็บวิญญาณอาฆาตได้ด้วย!
เมื่อเวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้ว พลังแห่งวิญญาณอาฆาตก็คงไม่เหลือแล้ว
แต่เจดีย์แห่งวิญญาณอาฆาตอันนี้ไม่ธรรมดาเลย ถึงแม้ด้านนอกจะถูกทำลาย แต่ใต้ดินที่อยู่ด้านล่างนั้น ยังมีเจดีย์อีกอันอยู่
และเจดีย์ที่อยู่ใต้ดินนั้น มันถูกซ่อนอย่างลึกลับ และไม่ได้ถูกสร้างจากน้ำมือของมนุษย์
แต่มันใช้เส้นปราณดินที่อยู่ใต้ดิน และใช้วิธีที่ไม่ธรรมดา ถึงสร้างเจดีย์อันใหม่ที่เอาไว้เก็บวิญญาณอาฆาตโดยเฉพาะ
ถ้าตอนนี้ไม่มีวิญญาณอาฆาตจำนวนมากอยู่ ไม่มีใครสามารถค้นพบมันอยู่แล้ว
เมื่อหลินหยุนเข้าใกล้เจดีย์แห่งวิญญาณอาฆาตมากขึ้น พลังของวิญญาณอาฆาตก็แข็งแกร่งมากขึ้น ถ้าหลินหยุนเดินมาถึงด้านหน้าของมันจริงๆ พลังอันนี้ก็จะฉีกร่างกายของหลินหยุนเป็นชิ้นๆ
หลินหยุนหายใจเข้าลึกๆ เขาอดไม่ได้ที่ส่ายหัว
หลินหยุนปลดปล่อยพลังต้าเต๋าทั้งหมดออกมาเพื่อปกป้องร่างกายของตัวเอง ทำให้เขาสามารถเดินเข้าใกล้เจดีย์ได้
มองเห็นซากปรักหักพังและพื้นที่รกร้างพวกนี้ เมื่อสัมผัสพลังทำลายล้างที่อยู่ตรงนี้ ทำให้หลินหยุนถอนหายใจยาวๆออกมา
เขาใช้วิชาอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์กำจัดวิญญาณอาฆาตที่อยู่บริเวณโดยรอบ จากนั้นเขาก็นั่งลง และใช้บทสวดของสำนักปฏิบัติธรรมชำระล้างพลังของวิญญาณอาฆาตที่อยู่ตรงนี้
วิญญาณอาฆาตพวกนี้ไม่รู้ว่าเสียชีวิตไปนานแค่ไหนแล้ว พวกเขาไม่ควรอยู่ตรงนี้อีกแล้ว
พวกเขาควรสลายไปได้แล้ว
หลังจากผ่านไปสองวัน พลังวิญญาณอาฆาตทั้งหมดได้สลายไปแล้ว ทำให้หลินหยุนโล่งอกทันที
ถ้าตอนนี้มีคนมองเห็นการกระทำของหลินหยุน คนๆนั้นคงส่ายหัวและพูดอย่างดูถูก
เพราะการกระทำแบบนี้ ไม่มีความหมายอะไรเลย และไม่มีประโยชน์ด้วย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...