จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1859

สรุปบท บทที่ 1859 ภาพจิตรกรรมฝาผนัง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 1859 ภาพจิตรกรรมฝาผนัง – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1859 ภาพจิตรกรรมฝาผนัง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แต่หลินหยุนเลือกที่จะทำแบบนั้น

สำหรับยอดฝีมือที่ต่อสู้กับมารฟ้าจนเสียชีวิตในอดีต

ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเผ่ามนุษย์หรือหมื่นชนเผ่า

หลินหยุนก็นับถือคนเหล่านี้จากใจจริง

ถ้าไม่มีคนพวกนี้ต่อสู้อย่างไม่คิดชีวิต ก็คงไม่มีหมื่นจักรวาลในทุกวันนี้

หลังจากทำเรื่องแบบนี้เสร็จ หลินหยุนก็บินจากสถานที่แห่งนี้และตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

ผ่านไปไม่นาน เขาก็ปล่อยไหมจัญไรไร้เงาออกมา

ตั้งแต่มาถึงสถานที่แห่งนี้แล้ว ไหมจัญไรไร้เงาก็ตื่นจากการหลับใหลทันที

และมันก็อยากจะออกมาตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม หลินหยุนไม่ได้ปล่อยมันออกมาอยู่แล้ว

เนื่องจากหลินหยุนไม่ค่อยรู้จักสถานที่แห่งนี้ ถ้าเจอเรื่องอันตราย เขาไม่สามารถช่วยเหลือมันได้อยู่แล้ว

แต่เวลานี้ เขารู้จักสถานที่แห่งนี้พอสมควรแล้ว และถึงเวลาที่จะปล่อยมันออกมาได้แล้ว

เรื่องการหาสมบัติล้ำค่าต่างๆนั้น มันชำนาญมากกว่าหลินหยุนอยู่แล้ว

เมื่อมันถูกหลินหยุนปล่อยออกมาจากโลกกำลังภายในตัว ทำให้ไหมจัญไรไร้เงาตื่นเต้นดีใจมากๆ

ราวกับมันค้นหาสถานที่ที่เหมาะกับมันมากๆจนเจอ

หลินหยุนอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและพูด "แกระวังตัวด้วย ถ้าแกถูกยอดฝีมือพบเห็น ฉันอาจจะช่วยแกไม่ได้ด้วยซ้ำ!"

ไหมจัญไรไร้เงาเปล่งเสียงอู้ๆๆออกมา เหมือนกับมันตอบกลับหลินหยุน จากนั้นมันก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและหายไปทันที

อย่างไรก็ตาม หลินหยุนปล่อยพลังจิตวิญญาณออกไปค้นหา และรู้ว่าตำแหน่งของมันอยู่ตรงไหน

เนื่องจากมันได้ใช้สัญญาสายเลือดกับหลินหยุน

ในรัศมีไม่ไกลมากนัก ไหมจัญไรไร้เงาสามารถรู้ตำแหน่งของหลินหยุน หลินหยุนก็สามารถรู้ตำแหน่งของมันได้เหมือนกัน

ดังนั้น หลินหยุนก็ไม่ได้กังวลว่าไหมจัญไรไร้เงาจะหายตัวไปหรือเจอเรื่องอันตรายเลย

ผ่านไปไม่นาน ด้านหน้าของหลินหยุนก็มีหุบเขาอันใหญ่แห่งหนึ่งปรากฏ

ในขณะที่หลินหยุนยังไม่ได้เดินเข้าไปใกล้ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นคาวเลือดอันรุนแรง

นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังมีแสงสว่างส่องออกมาจากส่วนลึกของหุบเขาด้วย

สายตาของหลินหยุนเปล่งประกาย เขาบินไปที่หุบเขาเลย

เมื่อถึงปากทางเข้าหุบเขา หลินหยุนถึงได้มองเห็น ด้านในหุบเขามีทะเลสาบเลือดอยู่

ทะเลสาบแห่งนี้ไม่ได้ใหญ่มากนัก

ตอนนี้ทะเลสาบได้แข็งตัวแล้ว และด้านในก็มืดสนิท มันเหมือนกับทางช้างเผือกเลย

ด้านในมีแต่เลือดสดเต็มไปหมด จากนั้นมันก็ค่อยๆกลายเป็นทะเลสาบ

กลายเป็นทะเลสาบเลือด

นอกจากทะเลสาบเลือดแล้ว ด้านในหุบเขาก็พังทลายหมด สิ่งปลูกสร้างได้กลายเป็นซากปรักหักพัง

ด้านในหุบเขาแห่งนี้ เดิมทีมันเป็นสถานที่อยู่ของยอดฝีมือ บางทีอาจจะเป็นที่อยู่ของชนเผ่าที่ไม่ค่อยใหญ่มากนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อโดนทำลายและฆ่าล้างแล้ว มันก็เลยกลายเป็นแบบนี้

หลินหยุนมองดูสักพัก จากนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าอีกครั้งและเดินจากไป

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลินหยุนกำลังจะจากไป ไหมจัญไรไร้เงาก็ปรากฏด้านหน้าของหลินหยุน

และหยุดไม่ให้หลินหยุนจากไป

หลินหยุนหยุดทันที จากนั้นเขาก็มองเห็นไหมจัญไรไร้เงาบินไปยังทะเลสาบเลือดด้วยความรวดเร็ว

สายตาของหลินหยุนเปล่งประกายและอยากจะหยุดมันไว้

เนื่องจากสถานที่แห่งนี้มีพลังทำลายล้างที่เยอะมากๆ ถึงแม้ไหมจัญไรไร้เงาอยากจะบินเข้าไป แต่พลังของมันยังไม่แข็งแกร่งมากพอ

และมันยังห่างไกลกันมากๆ

ตอนนี้พลังของมันเทียบเท่านักบำเพ็ญเซียนจิตปฐมตอนต้นเท่านั้น

ถึงแม้มันจะแข็งแกร่งขึ้น แต่พลังของมันไม่ได้เพิ่มขึ้นเร็วขนาดนั้น

แต่ไหมจัญไรไร้เงาไม่สนใจหลินหยุนเลย มันพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว

อัญมณีพวกนี้ ไม่ได้เป็นสมบัติล้ำค่าหรือหายากเลย มันใช้เพื่อส่องแสงสว่างเท่านั้น

ในหมื่นจักรวาล ไม่ต้องพูดถึงยุคสมัยเมื่อนานมาแล้ว แม้แต่ตอนนี้ อัญมณีประเภทนี้ก็มีเยอะมากๆอยู่

แต่สำหรับนักบำเพ็ญเซียนแล้ว มันไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรมากนัก

อย่างไรก็ตาม เมื่อมองเห็นกำแพงแปดด้านนี้ ทำให้หลินหยุนตกใจทันที

เพราะบนกำแพงนั้น มีรูปภาพจิตรกรรมฝาผนังต่างๆอยู่

เนื่องจากกำแพงพังทลาย ได้ทำลายภาพจิตรกรรมฝาผนังต่างๆไปจำนวนมาก แต่ภาพจิตรกรรมฝาผนังจำนวนไม่น้อยยังไม่ได้ถูกทำลาย

ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่สลักไว้นั้น น่าจะเป็นประวัติศาสตร์ของชนเผ่านี้

ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่โดนทำลายนั้น แต่สามารถมองออกอยู่ มันน่าจะเป็นจักรวาล

แต่ในเวลานั้น ยังไม่ได้มีหมื่นจักรวาล

พวกเขาอยู่มุมหนึ่งของจักรวาล

จากนั้นก็อพยพ

และอพยพไปเรื่อยๆ

ในระหว่างที่อพยพนั้น พวกเขาได้รวมกับชนเผ่าอื่นๆ จากนั้นก็แยกชนเผ่า แล้วรวมชนเผ่าไปเรื่อยๆ

ในที่สุดพวกเขากับอีกชนเผ่าหนึ่ง ยึดสถานที่แห่งหนึ่งเป็นอาณาเขตของตัวเอง

จากนั้นก็เริ่มมีหมื่นจักรวาล

ในชนเผ่าของพวกเขา เคยมีสุดยอดฝีมือคนหนึ่งปรากฏตัว พาชนเผ่าของพวกเขาบุกเบิกโลกแห่งใหม่ขึ้นมา

จากนั้นพวกเขาก็อยู่บนโลกใบใหม่และสืบทอดชนเผ่าของตัวเอง

หลังจากนั้น ไม่รู้ว่าผ่านมานานแค่ไหน

จักรวาลโดนโจมตี

สุดยอดฝีมือของชนเผ่านี้ พาพวกเขาออกมาจากโลกใบนั้น และรวมตัวกับยอดฝีมือจากชนเผ่าอื่นๆเพื่อต่อสู้กับมารฟ้าที่บุกรุกเข้ามา!

ช่วงนั้นเป็นยุคที่มืดมนที่สุด แต่ก็เป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองและการเติบโตของนักบำเพ็ญเซียน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์