จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1918

ต้าเต๋าจำนวนยี่สิบสามอย่างนั้น ก็ถือว่าไม่น้อยแล้ว!

โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากระดับของมหากษัตริย์ขั้นสูงสุดแล้ว ก็ยิ่งถือว่าไม่น้อยเลย

ดังนั้นเฉกเช่นกับหลินหยุน ที่ในชาติที่แล้วมีต้าเต๋าประมาณสามสิบอย่าง จึงทำให้รู้สึกว่าหาได้ยากยิ่งนัก และก็สามารถที่จะยืนอยู่บนขั้นสูงสุดของหมื่นจักรวาลได้

ยิ่งมีต้าเต๋ามากเท่าไร ก็จะสามารถควบคุมและใช้งานกฎเกณฑ์พลังต้าเต๋าได้มากยิ่งขึ้น และก็จะยิ่งแข็งแกร่งทรงพลังมากขึ้นด้วย!

แต่ว่า เมื่อครอบครองต้าเต๋ามากเท่าไร หากคิดที่จะเข้าสู่ระดับมหากษัตริย์ก็ยิ่งจะเป็นอุปสรรคมากขึ้นเท่านั้น

ดังนั้น ที่จริงแล้วผู้บำเพ็ญเซียนในหมื่นจักรวาลนี้ ขณะที่อยู่ในระดับจ้าวแห่งเต๋า ครอบครองต้าเต๋าสิบกว่าอย่าง หรือเกือบยี่สิบอย่าง กระทั่งเกือบสามสิบอย่าง ก็ถือว่าไม่น้อยแล้ว

แต่ผู้ที่สามารถพ้นทุกข์จากการดับจิต เสียชีวิตและเน่าเปื่อยไปได้ จนบรรลุกลายเป็นระดับขั้นมหากษัตริย์นั้น กลับมีจำนวนน้อยมาก

ระดับของจ้าวแห่งเต๋า หากครอบครองต้าเต๋ามากเท่าไร การเพิ่มระดับขึ้นในอนาคต ก็จะยิ่งยากมากขึ้น

ต้าเต๋ายี่สิบสามอย่างของอมิตาพุทธในระดับขั้นมหากษัตริย์แล้ว ถือว่าเป็นชั้นสูง สามารถจัดอยู่ในสิบอันดับแรกได้ และบวกกับความพิเศษของต้าเต๋าแห่งบูชา ดังนั้นพลังความสามารถของเขายังจะแข็งแกร่งมากกว่านี้ได้อีก ซึ่งอาจจะเทียบเท่าได้กับมหากษัตริย์ที่มีต้าเต๋ายี่สิบห้าอย่างเลยทีเดียว!

แต่ว่า หากอยู่ในชาติที่แล้วของหลินหยุน เขาคงจะมีคุณสมบัติไม่เพียงพอที่จะมายืนอยู่เบื้องหน้าของหลินหยุนได้

ความแตกต่างระหว่างทั้งสองคนนั้นก็ยังคงห่างไกลกันลิบลับ

ไม่อย่างนั้น ในชาติที่แล้วเขาก็คงไม่ต้องแปลงกายเป็นจ้าวครองธรรมฉีซานอะไรหรอก ถึงจะกล้ามายืนต่อหน้าของหลินหยุน

หมิงหนีกลายร่างเป็นจ้าวครองธรรมฉีซาน

เรื่องนี้หลินหยุนมองออกได้อย่างชัดเจนแน่นอนอยู่แล้ว

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาจึงเพียงแค่ขับไล่ ไม่ได้ลงมือแต่อย่างใด

ก็เพราะว่านี่คืออมิตาพุทธ

เขาสามารถเอาชนะได้ แต่หากคิดจะสังหาร ค่อนข้างยาก

หากแค่จะสร้างความปั่นป่วนยั่วยุต่อสำนักพระธรรมแล้ว มันไม่คุ้มค่าเลย

......

พลังแห่งต้าเต๋าถูกฝ่ามือตบตีจนแหลกสลาย หลินหยุนก็ยิ่งมีสีหน้าที่ขาวซีดลงไปอีก

แต่จิตวิญญาณการต่อสู้ในตัวของเขากลับถูกปลุกเร้ามากยิ่งขึ้น

เขามองไปยังหมิงหนีที่นั่งอยู่บนแท่นบัวทอง ด้วยท่าทางที่สงบนิ่ง แล้วก็หัวเราะเยาะและพูดขึ้นว่า “หมิงหนี ดูเหมือนว่าความสามารถของนายจะไม่ได้มีพัฒนาการอะไรขึ้นเลย นายรับรู้เข้าใจต้าเต๋าแห่งบูชาจนถึงขีดสุดแล้วใช่ไหมล่ะ? ”

หมิงหนีพูดขึ้นว่า “โยมชางฉอง มีสติปัญญาที่เฉียบแหลมยิ่งนัก ซึ่งก็เป็นดั่งที่นายพูดนั่นแหละ! ”

ผู้บำเพ็ญเซียนสำนักพระธรรม ไม่พูดโกหก

พระธรรมคือความสัตย์จริง

นี่ก็เป็นเพราะการตัดสินและกำหนดขึ้นจากความพิเศษของต้าเต๋าแห่งบูชา

หลินหยุนยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หรือว่านายไม่ต้องการที่จะทราบว่า ทำอย่างไรถึงจะพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่งได้แล้วเหรอ? ”

นี่คือสิ่งที่หลินหยุนได้คิดวางแผนเอาไว้แล้ว ว่าเป็นไพ่เด็ดอย่างแรกที่เตรียมไว้สำหรับวันนี้

พลังบำเพ็ญของอมิตาพุทธ เวลานี้หากเขาคิดที่จะต่อสู้ด้วย ก็คงเป็นเรื่องที่ยากเกินไป

จำเป็นจะต้องสร้างเงื่อนไขที่เอื้ออำนวยและเป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์

เป็นเช่นนั้นจริง เมื่อได้ยินที่หลินหยุนพูด สายตาที่สงบนิ่ง ไม่เคลื่อนไหวต่อสิ่งใดของหมิงหนีนั้น ก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเป็นครั้งแรก

ตอนนั้นเขากลายร่างเป็นจ้าวครองธรรมฉีซาน และมายืนอยู่เบื้องหน้าของหลินหยุนกับเย่เยว่ โดยไม่เพียงแต่คิดที่จะชักชวนให้เย่เยว่เข้าร่วมสำนักพระธรรมเท่านั้น ยังคิดที่จะชักชวนให้หลินหยุนเข้าร่วมสำนักพระธรรมด้วยเช่นกัน

แม้ว่าหลินหยุนในตอนนั้นจะเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร

แต่เขามองออกว่า ความรับรู้เข้าใจในพุทธะของหลินหยุนนั้น มีมุมมองความคิดที่พิเศษเป็นของตนเอง

ไม่อย่างนั้นแล้ว หลินหยุนคงจะไม่สามารถฝึกฝนอิทธิฤทธิ์อันยิ่งใหญ่ไร้เทียมทานอย่างมหามุทราธรรมจักรสิบสองของสำนักธยานะได้

หลังจากที่ได้สนทนากันแล้ว ก็ยืนยันตรงกับความคิดที่อยู่ในใจของเขา

ดังนั้นต่อให้ตอนนี้หลินหยุนจะไม่ใช่มหากษัตริย์ แต่สำหรับพุทธะแล้ว ไม่แน่ว่าหลินหยุนอาจจะมีความคิดความเข้าใจในแบบอื่นก็เป็นได้

การที่เรียกว่าสำเร็จบรรลุในพระธรรม นั่นก็คือการเข้าใจในพระธรรมนั่นเอง เวลานี้ เขาได้รับรู้เข้าใจในต้าเต๋าแห่งบูชาจนถึงระดับขั้นสูงสุดแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะเพิ่มระดับขึ้นได้อีก

หลินหยุนหัวเราะเยาะอีกครั้ง โดยที่ไม่ได้มองไปยังหมิงหนีอีก แต่กลับมองไปที่พระโพธิสัตว์ฟูโด เมียวโอบนแท่นบัวทอง “อจละ นายไม่ยอมที่จะลงมือเพื่อหมิงหนี คาดว่าคงจะพอมองอะไรออกแล้วอย่างนั้นสินะ? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์