จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 1919

ยอดฝีมือผู้ฝึกอิสระอีกคนหนึ่งก็พยักหน้าเห็นด้วย “ถูกต้อง ต่อให้เขาเป็นมหากษัตริย์ชางฉองตัวจริง และมีไพ่เด็ดท่าไม้ตายอยู่ก็ตาม แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้เก่งกาจไร้เทียมทานแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปล่าประโยชน์! ไม่มีโอกาสที่จะเอาชนะได้อย่างแน่นอน! ”

หัวหน้าชิงเอี๋ยนขมวดคิ้วขึ้น และพูดว่า “ฉันเองกลับคิดว่า ไม่ว่าเขาจะเป็นมหากษัตริย์ชางฉองตัวจริงหรือไม่นั้น ก็คงจะไม่ใช่คนที่ไม่คำนึงถึงผลลัพธ์อะไรอย่างนี้! หรือว่าเขาไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างตนเองกับอมิตาพุทธอย่างนั้นเหรอ? ”

“แต่เขาก็ยังคงมาที่นี่แล้ว! ”

“เขาจะต้องมีไพ่เด็ดท่าไม้ตายอะไรที่พวกเราคาดคิดจินตนาการไม่ถึงอย่างแน่นอน! ”

“อีกทั้งจะต้องเป็นไพ่เด็ดที่จะสามารถรับมือต่อกรกับอมิตาพุทธได้เป็นแน่! ”

“แม้ว่าฉันจะไม่ทราบอย่างชัดเจนว่าไพ่เด็ดของเขานั้นคืออะไร! ”

ยอดฝีมือผู้ฝึกอิสระคนนั้นได้ยินดังนั้น ก็พลันมองไปที่หัวหน้าชิงเอี๋ยน พร้อมกับหัวเราะและพูดขึ้นว่า “ฉันกลับลืมไปแล้วว่า ก่อนหน้านี้คนผู้นี้ได้เคยไปยังเขตไฟมาก่อน และได้พูดคุยกับหัวหน้าชิงเอี๋ยนด้วย หรือทางหัวหน้าชิงเอี๋ยนจะพอรับทราบเรื่องอะไรบ้าง? ”

หัวหน้าชิงเอี๋ยนส่ายศีรษะ “ไม่มี เขามาที่เขตไฟก็เพื่อสืบค้นข่าวคราวของนางฟ้าเย่เยว่เท่านั้น แต่ ทางเขตไฟก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไร”

ผู้ฝึกอิสระคนนั้นได้ยินดังนั้น ก็พูดขึ้นอย่างมีความหมายว่า “เป็นอย่างนี้นี่เอง แล้วเวลานี้ที่หัวหน้าชิงเอี๋ยนยังคงเห็นดีเห็นงามกับเขานั้น หรือว่าหลังจากที่ได้รู้จักกันช่วงเวลาหนึ่ง จึงเกิดความลุ่มหลงในตัวคนนี้แล้ว? ดูเหมือนว่า ไอ้หนุ่มหลินชางฉองนี้พอจะมี......”

เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้ว หัวหน้าชิงเอี๋ยนก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที และพูดเสียงแข็งขึ้นว่า “หานหยวน หากนายคิดอยากจะตาย ฉันจะลงมือทำตามที่นายต้องการให้เดี๋ยวนี้เลย! ”

หานหยวนส่ายมือไปมา โดยที่ไม่พูดไม่จาอะไรอีก

......

โดยในขณะเดียวกันนั้น ที่เขตน้ำ

เด็กน้อยที่อายุราวสิบขวบคนหนึ่ง กำลังนั่งยอง ๆ อยู่บริเวณริมลำธารน้ำใส และใช้มือที่เล็กและนุ่มนวล กวนระลอกคลื่นน้ำเล่นไปมา

เบื้องหน้าของเขา ท่ามกลางระลอกคลื่นน้ำนั้นเหมือนว่าจะมีกระแสน้ำวนที่ทั้งคลุมเคริอ และใสบริสุทธิ์อย่างที่สุดอยู่

เหนือกระแสน้ำวนนั้น มีภาพผืนหนึ่งปรากฏขึ้น

ซึ่งก็คือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในโลกพุทธในเวลานี้

เด็กน้อยนั้นมองดูอย่างมีความหมาย แล้วก็แตะไปที่กระแสน้ำวนนั้น และพูดขึ้นว่า “พวกนายกี่คนมีความเห็นว่าอย่างไรบ้าง? ”

กระแสน้ำวนสายหนึ่งในจำนวนนั้น ก็ได้ส่งเสียงที่แก่ชราขึ้น “ดูเหมือนว่าจะเป็นเขาแล้ว! ก่อนหน้านี้ที่พวกเราอยู่ในสถานะที่สงสัยนั้น ก็เป็นเพราะว่าไม่สามารถที่จะสรุปตัดสินใจได้อย่างชัดเจน ในเมื่อพูดออกมาจากปากของหมิงหนีแล้ว และเขาเองก็ยอมรับแล้ว อย่างนั้นก็คงจะไม่ผิดอย่างแน่นอน! ”

เด็กน้อยได้ยินดังนั้น ก็เบะปาก และพูดว่า “ใครจะพูดเรื่องนี้ล่ะ? ฉันแค่จะพูดว่า คำพูดของเขานั้นมันหมายความว่าอะไร หรือว่าเขาจะทราบจริง ๆ ถึงวิธีการทะลุข้ามขั้นขีดจำกัดของต้าเต๋าแห่งบูชา? มันเป็นความจริงหรือเท็จกันแน่? ”

กระแสน้ำวนอีกสายหนึ่ง ก็ได้ส่งเสียงที่เย็นชาขึ้น “ไอ้หนุ่มหลินชางฉองคนนี้ ไม่สามารถที่จะอนุมานตามหลักเหตุผลทั่วไปได้ พวกนายก็ไม่ใช่ว่าจะรู้จักกับเขาเป็นวันแรกสักหน่อย! ”

“สำหรับที่ว่าเขาจะแกล้งทำเป็นเล่นลูกไม้หรือไม่นั้น เรื่องนี้ก็ไม่ทราบแล้ว! ”

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา ฉันเองก็ไม่แปลกใจอะไรเลย! ”

ทางกระแสน้ำวนอีกสายหนึ่ง ก็ส่งเสียงแก่ชราขึ้นว่า “แต่ว่าหมิงหนีกับอจละนั้นได้บำเพ็ญฝึกฝนต้าเต๋าแห่งบูชามาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งหมิงหนีนั้นถึงขั้นสูงสุดแล้ว ถึงแม้ว่าอจละจะยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ก็คงอีกไม่นานแล้ว พวกเขาทั้งสองเองต่างก็ไม่ทราบถึงวิธีการทะลุข้ามขั้นขีดจำกัด แล้วหลินชางฉองจะไปรับรู้ได้อย่างไร? ”

“เขาเองก็ไม่ได้มีต้าเต๋าแห่งบูชา และก็ไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเซียนในสำนักพระธรรม เขาจะสามารถรับรู้วิธีการทะลุข้ามขั้นขีดจำกัดของต้าเต๋าแห่งบูชาได้อย่างนั้นเหรอ? ความเป็นไปได้ในเรื่องนี้นั้น คงจะไม่สูงนักหรอก? ”

“ฉันมองว่า เขากำลังถ่วงเวลาให้กับตนเองอยู่”

“ประมาณว่ากำลังเตรียมการไพ่เด็ดท่าไม้ตายอะไรอยู่! ”

เด็กน้อยหัวเราะเหอะเหอะ และพูดว่า “เหล่าถู่ ที่นายพูดออกมานี้ เหมือนจะกำลังสงสัยแม้กระทั่งตนเองอยู่ด้วยเลยนะ! ”

น้ำเสียงที่แก่ชราพูดขึ้นว่า “ก็เหมือนกับที่เหล่าจินพูดเมื่อสักครู่นี้ เขาไม่ใช่หลินชางฉองหรอกเหรอ?หากว่าเขาไม่ใช่หลินชางฉอง แล้วจะต้องมาสงสัยอะไรอยู่อีกล่ะ? ไอ้หนุ่มคนนี้เคยทำตามสิ่งที่เราคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าที่ไหนกันล่ะ? ”

เด็กน้อยพยักหน้า ยิ้มและพูดว่า “ก็ใช่! ”

หยุดชะงักไปชั่วครู่ เด็กน้อยก็พูดต่อว่า “หวังว่าจะเป็นเรื่องเท็จเถอะ ไม่อย่างนั้น ถ้าหากปล่อยให้สำนักพระธรรมสามารถทะลุข้ามขั้นขีดจำกัดของต้าเต๋าแห่งบูชาได้จริง ๆ แล้วล่ะก็ เมื่อถึงเวลานั้นสำนักพระธรรมก็จะยิ่งใหญ่เกรียงไกรมากขึ้นไปอีก! ”

“เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็คงจะกลัดกลุ้มกันไปใหญ่ โลกศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่พวกเรายังสามารถที่จะควบคุมได้อยู่หมัด หากมีสำนักพระธรรมที่แข็งแกร่งกว่าในตอนนี้มาเพิ่มอีก โดยในสถานการณ์ที่ไม่มีเหล่าหั่ว เกรงว่าพวกเราจะควบคุมจัดการเอาไว้ไม่ไหวเป็นแน่! ”

ท่ามกลางกระแสน้ำวนที่ไม่มีการเคลื่อนไหวตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้นั้น ก็มีน้ำเสียงที่มีชีวิตชีวาของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น “ฉันว่าไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไปนัก นายดูสิว่าเขากำลังยุยงให้หมิงหนีกับอจละแตกแยกกันขนาดนี้ บ่งบอกถึงความหมายได้อย่างชัดเจนว่า ต้องการจะทำให้สำนักพระธรรมแบ่งฝ่ายแตกหักออกจากกัน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์