ในขณะที่อจละได้ทำการสลายเต๋าอย่างต่อเนื่องนั้น ในอากาศ กลิ่นอายลมหายใจของอมิตาพุทธหมิงหนี ก็ค่อย ๆ ลดลงด้วย โดยแก่นแท้ทั้งหมดของผู้บำเพ็ญเซียนสำนักพระธรรมนั้น ก็คือต้าเต๋าแห่งบูชา
ซึ่งล้วนเป็นต้าเต๋าแห่งบูชาของอมิตาพุทธหมิงหนี
เพราะว่าเขาคือผู้ควบคุมและครอบครองต้าเต๋าแห่งบูชาเพียงคนเดียว
นี่ก็เหมือนกับสวรรค์ชางฉองที่หลินหยุนได้เปิดขึ้นใหม่
โดยรวบรวมต้าเต๋าภายในสวรรค์ชางฉองได้จำนวนมากเท่าไร พลังความสามารถของหลินหยุนนั้นก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น!
สิ่งที่แตกต่างกันก็คือต้าเต๋ากับหมื่นเต๋า
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ท่ามกลางแท่นบัวทองก็พลันเกิดเสียงคำรามที่โกรธแค้นขึ้น จากนั้น มังกรฟ้าขนาดใหญ่ยักษ์ตัวหนึ่งก็พลันเหาะเหินออกมา และตวาดใส่อจละด้วยความโมโห “อจละ นายเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร? ”
“นายรู้ไหมว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่? ”
“นายกำลังสละละทิ้งพระธรรม! ”
“นายกำลังสละละทิ้งตนเอง! ”
“นายกำลังตกต่ำลง! ”
“นายกำลังทรยศหักหลัง! ”
“ลำพังแค่คำพูดเล็กน้อยของเขา นายทำไมถึงได้ยอมสละละทิ้งต้าเต๋าที่นายได้บำเพ็ญฝึกฝนมาอย่างยาวนานลงอย่างนี้? และสละละทิ้งพระโพธิสัตว์ของตนเองด้วย? ”
“หรือว่านายจะสละละทิ้งพระธรรม แล้วยอมตกต่ำลงไปสู่สภาพที่ทุกข์ทรมานอย่างนั้นเหรอ? ”
ใบหน้าของอจละเต็มไปด้วยความสงบนิ่งและอิ่มเอมใจ โดยที่ไม่ได้หวงแหนร่างทิพย์และต้าเต๋าของเขา รวมถึงความเพียรพยายามที่มีมาอย่างยาวนานแม้แต่น้อยเลย
กลับตรงกันข้าม
ในเวลานี้อจละมีสีหน้าที่ผ่อนคลาย แววตาเต็มไปด้วยความปรารถนา เพราะว่าเขาได้มองเห็นโลกแห่งใหม่แล้ว
โลกที่ทั้งจักรวาลสามารถเป็นพุทธะได้
เขาเงยหน้ามองไปที่มังกรฟ้าอรหันต์ พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ฉันได้ตั้งปณิธานความหวังอันยิ่งใหญ่ไว้แล้ว! โดยที่ไม่ได้สละละทิ้งพระธรรมแต่ฉันได้ค้นพบพระธรรมที่แท้จริงแล้ว! ฉันกำลังจะเดินไปอีกเส้นทางหนึ่งนั่นก็คือเส้นทางของนิกายมหายาน! ”
“มังกรฟ้า! ” เขามองไปยังใต้แท่นบัวทองที่หมิงหนีนั่งอยู่ “ผู้ร่วมสำนักทุกท่าน หรือว่าการที่จะช่วยให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์กลายเป็นพุทธะ ทำให้ทะเลแห่งทุกข์นี้กลายเป็นเส้นทางไปสู่ดินแดนนิพนานที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเรากำลังแสวงหากันอยู่หรอกเหรอ? ”
“วันนี้ ฉันได้เดินออกมาก้าวหนึ่งแล้ว! ”
“ฉันหวังว่าผู้ร่วมสำนักทุกท่าน จะตัดสินใจเลือกเส้นทางแบบเดียวกันกับฉัน! ”
“พุทธะในอดีตนั้น เพียงแค่ทำให้ตนเองพ้นทุกข์ ไม่ได้ช่วยให้สรรพสัตว์พ้นทุกข์ ซึ่งไม่ใช่ตามที่โยมหลินหยุนบอกว่าเป็นนิหายหินยานหรอกเหรอ? อจละไม่ได้ต้องการที่จะทำให้สำนักพระธรรมต้องแตกแยก แต่กำลังตั้งคำถามในใจให้กับตนเอง! ”
“ทุกท่าน ทำไมไม่ลองทำตามฉันดูบ้างล่ะ ลองตั้งคำถามในใจให้กับตนเองดูสิ? ”
เมื่อเขาพูดจบลง ยังไม่ทันที่มังกรฟ้าอรหันต์จะโมโหขึ้นอีกครั้ง ก็มีอรหันต์หกคนก้าวเดินออกมาจากแท่นบัวทอง
อรหันต์หกคนนี้ รวมถึงผู้บำเพ็ญเซียนพระธรรมนับร้อยคนภายใต้อมิตาพุทธ ก็ได้ก้าวเดินออกมาเช่นกัน
พวกคนเหล่านี้ที่นำโดยอรหันต์หกคน ต่างก็พนมมือขึ้น และโค้งตัวแสดงความเคารพไปยัง อมิตาพุทธหมิงหนีบนแท่นบัวทอง พร้อมกับพูดพร้อมเพรียงกันว่า “กราบเรียนอมิตาพุทธ นับตั้งแต่วันนี้ไป ลูกศิษย์เต็มใจที่จะสละละทิ้งต้าเต๋า เพื่อติดตามอจละก้าวเดินไปสู่เต๋าแห่งมหายานด้วยกัน! ”
เมื่อพูดจบลง ทั้งหมดก็ลอยตัวลงมาอยู่ที่ด้านหลังของอจละ แล้วอรหันต์ทั้งหกคนก็เริ่มที่จะสลายทำลายเต๋า
ร่างนักรบอรหันต์ของเขาปรากฏกายขึ้น เพื่อสลายพลังให้หมดไปอย่างต่อเนื่อง
โดยขณะที่พวกเขาสลายเต๋านั้น กลิ่นอายลมหายใจในร่างของหมิงหนีก็ค่อย ๆ ลดลงต่อเนื่อง
นี่ก็คือการอ่อนกำลังลงของพลังต้าเต๋า
แต่ว่าหมิงหนีก็ยังคงนั่งอยู่บนแท่นบัวทองโดยตลอด โดยที่ไม่ได้แสดงอาการท่าทางอะไรออกมา
ถึงขนาดที่ไม่สามารถมองเห็นความเปลี่ยนแปลงอะไร จากบนใบหน้าของเขาได้เลย
แต่ก็ได้ปรากฏตัวของมังกรฟ้าอรหันต์ที่เกิดความโมโหขึ้นจริง ๆ แล้ว “พวกนาย! พวกนายเป็นบ้าไปแล้วอย่างนั้นเหรอ? พวกนายรู้ไหมว่ากำลังทำอะไรกันอยู่? ”
เขาคิดไม่ถึงว่า แม้แต่ท่ามกลางสิบแปดอรหันต์ของพวกเขานั้น มีถึงหกคนที่ตัดสินใจเลือกติดตามไปกับอจละ เพื่อไปแสวงหาอะไรที่ลวงตาจับต้องไม่ได้ที่เรียกว่า พุทธะแห่งมหายาน
จักรวาลกลายเป็นพุทธะ?
เปลี่ยนแปลงทะเลแห่งทุกข์เป็นดินแดนนิพพาน
นี่มันช่างไร้สาระอย่างที่สุด นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...