สรุปเนื้อหา บทที่ 195 หมัดและเท้าไม่มีตา – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 195 หมัดและเท้าไม่มีตา ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ไอ้หินใจสั่น ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงอันตราย
ปกติอยู่ในมหาลัยไอ้หินก็เป็นตัวตลกอยู่แล้ว แม้ว่าจะถูกหัวเราะเยาะอีกมันก็ไม่สำคัญอะไร ดังนั้นเขาจึงรีบยอมแพ้โดยไม่ลังเล
“เดี๋ยวก่อน ฉันยอมแพ้แล้ว!”
เพื่อนร่วมชั้นกลุ่มหนึ่งก็สาปแช่งว่า “หลี่หลิวเฉิง นายยังไม่เริ่มต่อสู้ก็จะยอมแพ้แล้ว ทำไมนายเป็นคนขี้ขลาดอย่างนี้?”
“ขายขี้หน้าจริงๆ ฉันพูดแล้ว กลุ่มคนของหลินหยุนเป็นพวกยาจกที่ไม่รู้จักอับอาย” จางเหมิงที่นั่งด้านหลัง ด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม
จากนั้น เขามองไปที่เหยียนเสวเหวินในแถวหลัง ด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน
จางซือจู่และหยางเทียนโย่ว เอามือปิดหน้าโดยตรง “ไอ้หิน ฉันรู้ว่านายจะยอมจำนน แต่อย่างน้อยที่สุด แต่อย่างน้อยนายควรทำท่าทางเสแสร้งสู้ไปสักพัก!”
“พอออกมาก็ยอมแพ้ ต่อไปจะเอาหน้าไปเจอใครอีก!”
แม้แต่จางซือจู่และคนอื่นๆที่อยู่ในห้องนอนเดียวกัน ก็ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาและเย็นชา เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย เหล่มองไอ้หิน แววตาแสดงความรังเกียจปรากฏขึ้น แม้แต่ความคิดที่จะมองก็ไม่มี
หวางหยูหันตกตะลึงครู่หนึ่ง พร้อมกับใบหน้าที่เยาะเย้ย “ยอมแพ้? มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก!”
ในสนาม หลิ่วซิงก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
เพียงแต่ว่า ในเวลาต่อมา หลิ่วซิงก็ยิ้มแปลกๆ “ยอมแพ้? ขออภัย ฉันไม่ยอมรับมัน! เว้นแต่นายจะถูกฉันทุบตีจนนอนลงไป หรือคุกเข่าลงบนพื้นและขอความเมตตาจากฉัน!”
หลังจากพูดจบ โดยไม่รอให้ไอ้หินตั้งสติ เขาก็ชกกำปั้นเข้าหาไอ้หิน
หลังจากโค้ชเห็นสิ่งนี้ ก็ขมวดคิ้ว แต่ว่า ไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนจะยอมรับแนวทางของหลิ่วซิง
ไอ้หินไม่ค่อยสนใจวิชาศิลปะการต่อสู้เลย ดังนั้น โค้ชจึงไม่ชอบเขามาก
“อ๊ะ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับหมัดอันดุเดือดของหลิ่วซิง ไอ้หินรีบเอาสองมือบังศีรษะไว้ นั่งยองๆกับพื้น ปกป้องส่วนสำคัญ
ตูม!
หลิ่วซิงต่อยหมัดตรงหน้าอกของไอ้หิน ต่อยจนไอ้หินล้มลงกับพื้น
“ฉันแพ้แล้ว!” ไอ้หินอ้อนวอนขอความเมตตาอีกครั้ง
ฮึ่ม!” หลิ่วซิงยิ้มเยาะเย้ยอย่างเย็นชา ไม่ยอมหยุด และเตะออกไป
การเตะครั้งนี้ รวดเร็วและแม่นยำ และความแข็งแกร่งของหลิ่วซิงเป็นหนึ่งในสิบอันดับ มีทักษะที่แท้จริงเล็กน้อย
นักศึกษากลุ่มหนึ่งรู้สึกกังวลเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าในขณะนี้ไอ้หินนั้นไม่มีความสามารถในการป้องกันตัวเอง หากถูกเตะอีกครั้ง ไอ้หินน่าจะถูกส่งเข้าโรงพยาบาล
ตอนนี้ โค้ชก็ไม่อยู่นิ่ง
“หลิ่วซิง ทำร้ายคนไม่ได้!”
หลิ่วซิงไม่สนใจ และเตะไอ้หินออกไปไกลกว่าหนึ่งเมตร
ไอ้หินรู้สึกว่าท้องของเขาเหมือนเป็นตะคริว เจ็บปวดจนขยับไม่ได้
“ไอ้หิน!” จางซือจู่และหยางเทียนโย่วยืนขึ้นด้วยความตื่นตระหนก จ้องมองหลิ่วซิงอย่างโกรธจัด
“หลิ่วซิง ไอ้หินมันยอมแพ้สองครั้งแล้ว นายยังลงมือหนักขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่านายจงใจ!” ขณะที่จางซือจู่วิ่งไปหาไอ้หิน พร้อมกับดุด่า
โค้ชก็รีบวิ่งไปที่ไอ้หิน และทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับไอ้หิน
พวกนายสองคน พาเขาไปที่ห้องพยาบาล!” โค้ชชี้ไปที่ชายทั้งสองและตะโกนอย่างกังวล
จางซือจู่รีบห้ามไว้ “อย่าขยับเขา! ตอนนี้เขาเป็นตะคริวที่ลำไส้ ยิ่งเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเจ็บ และอีกสักพักเขาก็จะหาย
โค้ชขมวดคิ้ว “นายรู้ได้อย่างไร? นายเป็นหมอหรือเปล่า?”
“ผมเป็นหมอ!” จางซือจู่ตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น
โค้ชโบกมือให้ชายหนุ่มสองคนที่วิ่งเข้ามา “โอเค พวกนายกลับไปได้แล้ว!”
หยางเทียนโย่วพูดอย่างโกรธเคือง “โค้ช หลิ่วซิงจงใจทำร้ายคนอื่นอย่างชัดเจน คุณต้องให้ความยุติธรรมกับไอ้หินเพื่อนร่วมชั้นคนนี้!
โค้ชขมวดคิ้ว หลิ่วซิงเป็นลูกศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของเขา และเขามีภูมิหลังทางครอบครัวที่ดี และหลี่หลิวเฉิงคนนี้ โค้ชก็เข้าใจดีเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์อาศัยอยู่ในพื้นที่ภูเขาอันห่างไกล
เพราะหลี่หลิวเฉิง โค้ชไม่ต้องการทำให้หลิ่วซิงขุ่นเคือง
เพียงแต่ว่า ครั้งนี้หลิ่วซิงทำเกินไป
มีเสียงหัวเราะจากเพื่อนร่วมชั้น ความสามารถของจางซือจู่กับหยางเทียนโย่วแม้ว่าจะสู้พร้อมกันก็คงจะถูกหลิ่วซิงอักจนน่วมแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าโค้ชจงใจพูดอย่างนี้
ในขณะที่ช่วยหลิ่วซิงลบล้างความผิด ยังทำให้จางซือจู่และเพื่อนอับอายขายหน้าอีกด้วย
จางซือจู่และเพื่อนกำหมัดแน่น อยากจะเข้าไปชกหน้าโค้ช
เพียงแต่ว่า พวกเขารู้ชัดเจน ความโกรธนี้ทำได้เพียงอดทนไว้เท่านั้น!
หลินหยุนที่เฝ้าดูอย่างเย็นชา ก็ลุกขึ้นยืนช้าๆ เดินไปบริเวณที่แข่งขัน
“ฉันสู้กับนาย” หลินหยุนมองไปที่หลิ่วซิง และพูดเสียงเบา
หลิ่วซิงผงะ ยินดีในใจ “ฉันกำลังเครียดว่าจะใช้วิธีไหนบีบให้นายออกมา คาดไม่ถึงว่านายจะออกมาเอง!”
“ฮ่าฮ่า สวรรค์เป็นใจจริงๆ!”
งานที่หวางหยู่หันสั่งหลิ่วซิงคือสั่งสอนหลินหยุนให้หนักๆ ทางที่ดีคือตีจนหลินหยุนเข้าโรงพยาบาล
เพียงแต่ว่า หลิ่วซิงกังวลว่าถ้าไอ้หินไม่ล้มเหลว หลินหยุนคงไม่ยอมสู้กับเขาแน่นอน เช่นนั้นก็ไม่มีวิธีใดๆ
ไม่คาดคิด ยังไม่ทันที่หลิ่วซิงจะบีบหลินหยุนออกมาสู้ หลินหยุนก็ยอมออกมาเอง
ดวงตาหวางหยู่หันเปล่งประกาย จ้องมองหลินหยุนด้วยสายตาดุร้าย “ไอ้เศษสวะคนนี้ กระโดดออกมาอย่างง่ายดาย ดีมาก!”
สักครู่ก็ให้นายรู้ ผลของการโต้แย้งกับฉัน”
หวางหยู่หันคิดเอาไว้แล้ว รอหลินหยุนโดนหลิ่วซิงต่อยจนเข้าโรงพยาบาล เธอก็จะแสร้งทำเป็นไปเยี่ยม จากนั้นก็ถือโอกาสเยาะเย้ยหลินหยุน
ทางที่ดีที่สุด สามารถทำให้หลินหยุนโมโหจนตาย
จางเหมิงเหลือบมองหลินหยุน ยิ้มเหยียดหยาม “หลินหยุนไอ้เศษสวะคนนี้ ชอบเสนอหน้าจริงๆ ไม่ดูว่าตัวเองคู่ควรหรือไม่
เถียนชุ่ยชุ่ยแสดงท่าทางอ่อนโยน สายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “หลินหยุน ทางที่ดีให้หลิ่วซิงชกนายจนตาย! ฮึ่ม เพื่อชำระความแค้นในใจ!”
ครั้งนั้นที่อยู่ในอิมพีเรียลคอร์ท เถียนชุ่ยชุ่ยรู้สึกอับอายมาก
แน่นอน บัญชีความแค้นนี้ เธอเอามาลงที่หลินหยุน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...