จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 201

หวางหยู่หันได้พูดปลอบใจต่อว่า “คุณชายกู้ ชาติตระกูลของคุณสูงศักดิ์ เส้นสายความสัมพันธ์ต่อบุคคลก็กว้างขวาง คะแนนวิชาอื่นของคุณก็ดีกว่าเขามากมายห่างไกลกว่าเขาเป็นพันลี้ แม้ว่าวิชาการต่อสู้ของคุณจะสู้เขาไม่ได้ มันจะเป็นอะไรไปล่ะ? ”

“คุณสามารถแข่งเล่นเปียโนกับเขา การเล่นเปียโนของคุณโด่งดังเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย สามวันหลังจากนี้ก็จะเป็นงานเฉลิมฉลองมหาวิทยาลัย รายการแสดงของคุณไม่ใช่ว่าได้รับการคัดเลือกแล้วหรอกเหรอ? เวลานั้นคุณก็เล่นบรรเลงเพลงให้ไพเราะ ทำให้เขาได้เห็นถึงความสามารถของคุณ”

แววตาของกู้ซิวหรั่นค่อย ๆ กลับมามีประกายมากขึ้น กลิ่นอายความหงอยเหงาซึมเศร้าในตัวของเขาในที่สุดก็มลายหายไป

“คุณพูดได้อย่างถูกต้อง ฉันไม่จำเป็นต้องแข่งขันวิชาต่อสู้กับเขา ความสามารถพิเศษของฉันไม่ใช่วิชาต่อสู้ ฉันเองที่มีทิฐิมากเกินไปหน่อย”

กู้ซิวหรั่นหันมองไปที่หลินหยุนที่นั่งอยู่บนที่นั่ง สองมือกำหมัดแน่น “หลินหยุน ข้ายอมรับว่าวิชาต่อสู้ของนายเก่งกาจยอดเยี่ยมมาก แต่ อย่าลืมว่า ตอนนี้คือยุคเทคโนโลยี ต่อให้วิชาต่อสู้ของคุณจะเก่งกาจแค่ไหน แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ”

“นอกจากวิชาต่อสู้แล้ว นายสู้อะไรข้าไม่ได้สักอย่าง สามวันหลังจากนี้คืองานเฉลิมฉลองมหาวิทยาลัย เวลานั้นข้าจะบรรเลงเพลงประกอบร่วมกับอีหลิง ข้าคงจะได้รับความรู้สึกอันดีจากอีหลิง ส่วนนาย ทำได้เพียงนั่งบนด้านล่างของเวทีแหงนมอง เพื่อดูข้าเอาชนะใจหญิงสาวสวย”

เวลานี้ ผู้ฝึกสอนถูกนักเรียนสองคนประคองร่างกาย แล้วค่อย ๆ นั่งลงไป

แต่ ทางผู้ฝึกสอนบอกให้คนช่วยนำเขาส่งไปที่ห้องพยาบาลโดยตรงเลย ที่จริงแล้วเขาได้รับบาดเจ็บไม่หนัก หลินหยุนไม่มีทางที่จะทำร้ายคนจนบาดเจ็บสาหัสหรือกระทั่งฆ่าคนในมหาวิทยาลัยอย่างแน่นอน

แต่ว่า ผู้ฝึกสอนเองไม่มีหน้าที่จะทนอยู่ต่อไปได้ เมื่อครู่เขาได้กล่าวอย่างโอ้อวดเอาไว้ จะสั่งสอนให้หลินหยุนให้เข็ดหลาบ จะให้เขาทราบว่าเหนือคนยังมียอดคน เหนือฟ้ายังมีฟ้า

แต่ ไม่ทันไรก็ถูกหลินหยุนชกกระเด็นลอยไปไกล ถึงกับเสียหน้าเสียเกียรติเป็นอย่างมาก

ดังนั้น ผู้ฝึกสอนจึงหาข้ออ้างปลีกตัวจากไป เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เมื่อผู้ฝึกสอนจากไป คาบวิชาต่อสู้ก็ใกล้จะสิ้นสุดลง พวกนักเรียนต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ สายตามองไปที่หลินหยุนทั้งอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ

ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ หลินหยุนกลายเป็นม้านอกสายตาของวิชาต่อสู้นี้ คาดว่าข่าวคงจะกระจายโด่งดังไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย

ช่วงบ่ายหลังจากที่เลิกเรียน หลินหยุนกลับไปถึงหอพัก ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกพวกเพื่อนที่เลวทรามตามสอบถามไม่หยุด

หลินหยุนพูดกลบเกลื่อนไปว่าตนเองได้พบกับปรมาจารย์ลึกลับผู้หนึ่ง ถ่ายทอดเคล็ดลับวิชาต่อสู้ให้เขา จึงจะสามารถรอดพ้นจากคำถามเหล่านั้นมาได้

คนอื่น ๆ ต่างก็พากันเชื่อไปบ้าง แต่หลินหยุนเห็นท่าทางที่สงสัยของเลยเฉียง จึงรู้ได้ว่าโกหกหลอกลวงเขาไม่ได้

ในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดของวงศ์ตระกูลนักบู๊ เลยเฉียงจะชัดเจนกว่าคนธรรมดาทั่วไป ที่หลินหยุนแสดงออกมานั้นไม่ใช่วิชาการต่อสู้ แต่มันเป็นวิชาบู๊ที่จริงแท้แน่นอน

แต่ว่า ในเมื่อหลินหยุนไม่พูด เลยเฉียงก็ไม่ได้เข้าไปสอบถาม เพราะว่าเขาต้องการปกปิดสถานะที่แท้จริงของตน

เวลาสามวันผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว เพียงชั่วครู่ งานเฉลิมฉลองสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจวประจำปีก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

วันนี้เป็นวันที่อากาศดีแดดจ้าท้องฟ้าแจ่มใส กล่าวได้ว่าสมดั่งที่ฟ้าประทานพร

ในช่วงบ่ายสี่โมงเย็นได้เริ่มต้นก่อตั้งเวทีที่บริเวณสนามหญ้าของมหาวิทยาลัย โดยเป็นงานเฉลิมฉลองที่หนึ่งปีมีหนึ่งครั้ง อีกทั้งยังเป็นสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่เน้นการเรียนการสอนด้านภาพยนตร์เป็นที่สุด ดังนั้นขนาดของการจัดงานจะต้องยิ่งใหญ่ สิ่งของหลายสิ่งอย่างจะต้องครบถ้วนและใช้งานได้อย่างมืออาชีพ อาทิ ลำโพง ไฟ เป็นต้น

รายการแสดงของมหาวิทยาลัย ไม่ทราบว่าโดนผู้ใดแพร่กระจายออกไป

ทกคนต่างก็รอคอยรับชมการแสดงระหว่างดาวประจำมหาวิทยาลัยอีหลิงกับเดือนประจำมหาวิทยาลัยกู้ซิวหรั่น

โดยเป็นการแสดงของดาวและเดือนประจำมหาวิทยาลัยที่ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจ อีกทั้งยังเป็นการแสดงร่วมกัน ไม่ทันต้องพูดว่าเป็นการแสดงอะไร แค่รู้ว่าเป็นการแสดงของดาวและเดือนประจำมหาวิทยาลัย ก็เพียงพอที่จะทำให้นักเรียนทุกคนคาดหวังตั้งตารอ

เมื่อเข้าสู่ช่วงค่ำคืน งานเฉลิมฉลองมหาวิทยาลัยก็ได้เริ่มต้นขึ้น

หลินหยุนกับจางซือจู่และอีกหลายคนนั่งอยู่บริเวณมุมของสถานที่จัดงาน รับฟังจางซือจู่และอีกหลายคนที่อยู่ตรงนั้นทอดถอนหายใจ

“ได้ยินว่าครั้งนี้ดาวมหาวิทยาลัยอีหลิงจะขึ้นเต้นรำบนเวที จุ๊จุ๊ ครั้งนี้ได้ดูชมอย่างเต็มตาเต็มใจเลยทีเดียว ซึ่งทำให้ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอดูอย่างจริงจัง! ” จางซือจู่พลางแทะกินเมล็ดทานตะวัน พลางพูดขึ้น

หยางเทียนโย่วพูดขึ้นอย่างรวดร้าว “ได้ยินว่าครั้งนี้กู้ซิวหรั่นจะขึ้นแสดงร่วมกันกับอีหลิง มันช่างแย่จริง ๆ กู้ซิวหรั่นไอ้หนุ่มที่มีรูจมูกบาน ที่แอบคิดหมายปองนางฟ้าของฉันมาโดยตลอด ครั้งนี้เกรงว่าเขาจะสำเร็จแผนการที่วางเอาไว้แล้วแน่เลย! ”

“นั่นคือนางฟ้าของข้า สิบแปดมงกุฎหากว่านายกล้าที่จะแย่งกันกับข้า ข้าจะเลิกคบเป็นเพื่อนกับนายเลย! ” จางซือจู่พูดด้วยความโกรธเคือง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์