จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 299

สีหน้าของฉู่หมิงเฉิงแลดูกระอักกระอ่วนไม่น้อย หันไปมองเย่เทียนเหาที่ยามนี้ใบหน้าแดงเถือกไปแล้ว รู้สึกเวทนาอีกฝ่ายเล็กน้อย

ในเวลาเดียวกัน ฉู่หมิงเฉิงก็รู้สึกตกตะลึง ทึ่งไปกับทักษะทางการแพทย์ของหลินหยุนมากเช่นกัน

ในฐานะเพื่อนสนิทของเย่เทียนเหา คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ฉู่หมิงเฉิงรู้ดีเลยว่า ชีวิตส่วนตัวของคุณชายน้อยแห่งเจียงหนานคนนี้ มีเรื่องให้สะดุดใต้สะดือมากมายขนาดไหน

ไม่ต้องพูดถึงพวกบรรดาแม่สาวบ้าผู้ชายในมหาลัย แม้แต่พวกนางแบบ ดาราสาวโนเนม คุณชายเย่คนนี้ก็มีอันต้องเปลี่ยนใหม่ทุกสัปดาห์เป็นว่าเล่น

ดังนั้น การวินิจฉัยของหลินหยุน จึงเป็นอะไรที่ฉู่หมิงเฉิงเชื่อได้อย่างสนิทใจจริงๆ

ใบหน้าอันงดงามด้านหนึ่งของซ่างกวงชิงฉัน ปรากฏสีแดงเรื่อขึ้นอย่างกระดากอาย ในฐานะสมาชิกของมหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่ง ในฐานะคนที่อยู่ในแวดวงการแพทย์ของจีน รวมถึงฐานะผู้มีความสามารถในอนาคตของมหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่ง การปล่อยให้เกิดเรื่องหมาเห่าใบตองแห้งเช่นนี้ ทำให้สีหน้าของซ่างกวงชิงฉันยังถึงกับหมองคล้ำไปชั่วขณะ

“เย่เทียนเหา นายนี่มันแน่จริงๆเลยนะ จะทำให้ตัวเองอับอายขายหน้า ยังถึงกับอุตส่าห์ถ่อมาสร้างความอับอายจนถึงหลินโจวนี่เชียว!”

“น่ากลัวว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉายาคุณชายไตพร่องของนาย จะแพร่กระจายไปจนทั่ววงการแพทย์จีนซะแล้วล่ะมั้ง!”

เมื่อได้ยินคำว่า “คุณชายไตพร่อง” จากปากสาวงามระดับเทพธิดาอย่างซ่างกวงชิงฉัน ต่อให้หนังหน้าของเย่เทียนเหาจะทั้งด้านทั้งหนาในระดับหนึ่ง เขาก็ยังอดรู้สึกโทสะพวยพุ่งจนเดือดปุด ๆ ไม่ได้

เมื่อสัมผัสถึงแววตาที่เย้ยหยันของผู้ชายที่อยู่รอบๆ ทั้งยังมีผู้หญิงบางคนที่ส่งสายตารังเกียจจ้องมองมา เย่เทียนเหาก็โกรธจัดจนเดินออกมาทันที

“แกพูดจาเหลวไหล ไร้สาระทั้งเพ!”

“คุณชายอย่างฉัน เปลี่ยนแฟนเร็วซะยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันจะเป็นโรคไตพร่องได้ไง!”

เย่เทียนเหารู้ดีแก่ใจว่า หากเขาต้องการจะรักษาชื่อเสียงตัวเองไว้ให้ได้ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องแถแบบหน้าด้าน ๆ เท่านั้นแล้ว

หลินหยุนพูดอย่างเฉยเมย: "ถ้าอยากจะตรวจสอบว่า ไตของนายอ่อนแอจริงหรือเปล่า มันก็มีวิธีที่ง่ายมาก ๆ อยู่นะ นายอยากลองมั้ยล่ะ?"

เย่เทียนเหาไม่กล้าประสานสายตากับหลินหยุน พูดจาอ้อมแอ้มตะกุกตะกัก: "ฉันไม่มีทางหลงกลนายหรอก ! นายต้องใช้โอกาสนี้เล่นอะไรตุกติกกับฉันแน่"

นักศึกษา ม.แพทย์หลินโจว หัวเราะเยาะดังสนั่นขึ้นมาทันที: "โย่ว! ไม่คิดเลยนะว่า อัจฉริยะจากปักกิ่งจะขี้ขลาดตาขาวไม่ต่างอะไรกับพวกหนูท่อเลยนะเนี่ย!"

“ด้วยความกล้าแค่นี้น่ะเหรอ? ทำไมมาเลือกเรียนแพทย์ได้นะ? เกิดวันหน้าเจอเลือดแล้วเป็นลมไปจะทำยังไงล่ะเนี่ย?”

“เฮอะ กะอีแค่ความอดทนกระจิบกระจอกแค่นี้ เมื่อกี้ยังมีหน้าทำเป็นเก่งกล้า ดูถูกวงการแพทย์หลินโจวซะขนาดนั้น!”

“อัจฉริยะของมหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่งน่ะเหรอ ก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลยนี่!”

พวกนักศึกษา ม.หลินโจว ฉวยเอาโอกาสนี้ โจมตีใส่พวกเย่เทียนเหาชนิดที่แทบไม่ให้ได้ผุดได้เกิด

ใบหน้าของเย่เทียนเหาแดงก่ำ พูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง ไม่ว่ายังไงเขาจะยอมให้หลินหยุนทดสอบเขาไม่ได้เด็ดขาด ต่อให้ต้องถูกมองว่าเป็นไอ้ขี้ขลาด หรือพวกหน้าด้าน ก็ยังดีกว่าถูกเรียกว่าไอ้คนไตพร่อง!

ถ้าหลังจากนี้ เขาต้องแบกฉายาคุณชายไตพร่องไปไหนต่อไหน ไม่เพียงแต่ชื่อเสียงของเขาจะถูกทำลายจนป่นปี้ แต่แม้แต่ตระกูลเย่ทั้งตระกูลก็ยังต้องพลอยอับอายขายหน้าไปด้วย แถมดีไม่ดีเรื่องนี้เกิดไปเข้าหูพ่อขึ้นมา เขากลับบ้านไป แล้วไม่ถูกตีจนขาหักเป็นสามท่อนก็แปลกแล้ว!

ซ่างกวงชิงฉัน จ้องมองเย่เทียนเหากับฉู่หมิงเฉิงอย่างเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงกดต่ำเย็นชาสุดขีดว่า: "ตอนแรกที่มาถึง พวกนายสองคนก็ถูกจับไปขังไว้ในห้องรักษาความปลอดภัย พอมาตอนนี้ ยังมาทำให้เกียรติยศหน้าตาของมหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่ง ต้องเสื่อมเสียจนป่นปี้ไม่มีเหลืออีก ไม่ว่ายังไงวันนี้ พวกนายต้องมีคำอธิบายให้ชั้น!"

ใบหน้าของเย่เทียนเหา ปรากฏร่องรอยความอับอายขึ้นมาแวบหนึ่ง รีบผลักความขุ่นเคืองทั้งหมดไปลงที่หลินหยุนทันที: "ชิงฉัน นี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเรานะ! มันเป็นความผิดของไอ้เด็กคนนั้นต่างหาก ฉันจะไม่ยอมปล่อยมันไปง่ายๆแน่!"

เย่เทียนเหาแอบตัดสินใจไว้แล้วว่า จะหาโอกาสแก้แค้นหลินหยุนให้ได้

ใบหน้าของฉู่หมิงเฉิงเย็นชาตึงเปรี๊ยะ ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว แต่กลับใช้สายตาดุดันโหดเหี้ยมจ้องมองเย่เทียนเหาไม่หยุด

เรื่องโง่ๆพรรค์นี้ ทั้งหมดก็เพราะเย่เทียนเหาคนเดียว ที่ดันอวดดีก่อขึ้นมาจนมันกลายเป็นแบบนี้ ตัวเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยสักนิด แต่เพราะเขาดันเป็นบัดดี้ของเย่เทียนเหา เลยต้องมาตกกระไดพลอยโจนไปด้วยแบบนี้

เย่เทียนเหา มองแววตาอึมครึมหดหู่ของฉู่หมิงเฉิงด้วยความรู้สึกผิด: "คุณชายฉู่ เรื่องนี้จะโทษฉันไม่ได้นะ! เจ้าเด็กนั่นเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว นายรีบคิดหาวิธีโต้กลับมันไปสักตาหนึ่งสิ!"

ฉู่หมิงเฉิงหันไปมองหลินหยุนที่ยืนอยู่บนโพเดียม ดวงตาเป็นประกายวาววับ “วางใจเถอะ ฉันไม่ปล่อยให้เขาทำพวกเราขายหน้าอยู่ฝ่ายเดียวแน่!”

ฉู่หมิงเฉิงจ้องมองหลินหยุน แล้วจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า "ทักษะทางการแพทย์ของอาจารย์หลิน ช่างน่าชื่นชมจริง ๆ นะครับ"

“พอดีผมได้ไปเจอโรคประหลาดที่หายากบางอย่างเข้า ครุ่นคิดอยู่นาน ก็ยังคิดหาหนทางรักษาไม่ได้สักที ไม่ทราบว่าอาจารย์หลิน พอจะช่วยชี้แนะสักหน่อยได้ไหมครับ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์