เห็นท่าทางที่น่าสังเวชของเย่เทียนเหา ไม่มีใครสงสารเห็นใจเขาเลย
“ถุย สมน้ำหน้า!”
“ใช่ แบบนี้เขาเรียกว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว! ดูสิว่าต่อไปเขายังจะกล้าโอหังขนาดนี้มั้ย!”
นักศึกษากลุ่มหนึ่งเยาะเย้ยเย่เทียนเหา ดูแล้วท่าทางที่โอหังของเย่เทียนเหาเมื่อกี้ ปลุกระดมความโกรธของมวลชนอย่างมาก
หลินหยุนลุกขึ้น กล่าวอย่างเรียบเฉย “พอได้แล้ว”
พี่ดาวพยักหน้าอย่างสุภาพ ตะโกนสั่งลูกน้อง “หยุด!”
เย่เทียนเหาถูกซ้อมปานตายเหมือนหมา นอนอยู่บนพื้นอย่างน่าสมเพช ลูกตาที่มองเพดานไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว
สีหน้าของหลินหยุนเรียบเฉย ก้าวเท้าเดินจากไป
เซี่ยหยู่เวยรีบวิ่งตามไป มาถึงหน้าประตูโรงแรม หลินหยุนหยุดฝีเท้าลง หันหน้าไปมองเซี่ยหยู่เวย
“หลินหยุน นายมันหยิ่งทะนงตัวแบบนี้ตลอดเลย วันนี้นายหยามเย่เทียนเหาต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ พรุ่งนี้ตระกูลเย่ไม่เอานายให้ตายก็คงไม่ยอมรามืออย่างแน่นอน!”
ใบหน้าหลินหยุนยังคงไร้ความรู้สึก “ไม่เกี่ยวกับเธอ”
เซี่ยหยู่เวยโกรธจนหายใจหอบ กล่าวด้วยใบหน้าที่โกรธเคือง “หลินหยุน แม้ว่าฉันจะเกลียดนาย แต่ฉันก็ไม่อยากเห็นนายตาย อำนาจของตระกูลเย่ ไม่ใช่คนอย่างนายจะไปล่วงเกินได้!”
“ตอนนี้ฉันขอชี้ทางสว่างให้นาย หากนายยังอยากมีชีวิตอยู่ ก็ไปขอร้องอีหลิง ตอนนี้ มีเพียงตระกูลอีแห่งเจียงหนานถึงจะสามารถปกป้องนายได้!”
พูดจบ เซี่ยหยู่เวยก็เดินเชิดหน้าจากไป
ใบหน้าของหลินหยุนไม่แยแส แววตาล้ำลึกเหมือนดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า “เซี่ยหยู่เวย เธอยังคงคิดว่าตัวเองถูกต้องอยู่ตลอดเวลา ชาติก่อน ฉันเคารพเธอเหมือนพระเจ้า แต่เธอนั้นทอดทิ้งฉันเหมือนรองเท้า แต่เธอนั้นกลับไม่รู้ ชาตินี้ ฉันไม่ฉันคนก่อนนานแล้ว”
“ความสามารถของฉัน มันไกลเกินจินตนาการของเธอมาก!”
หลังจากที่หลินหยุนจากไปแล้ว นักศึกษาคนอื่นๆก็ตามออกไปด้วย
ไม่นาน ในห้องอาหารก็เหลือเพียงนักศึกษาหกคนที่มาจากมหาวิทยาลัยการแพทย์กรุงปักกิ่ง
ฉู่หมิงเฉิงมองดูเย่เทียนเหาที่นอนอยู่บนพื้นโดยยอมไม่ขยับเลย พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “คุณชายเย่ นายไม่เป็นใช่มั้ย? จะไปโรงพยาบาลมั้ย?”
เย่เทียนเหาไม่ตอบ สายตาว่างเปล่า
ซ่างกวงชิงฉันกล่าวอย่างเย็นชา “เย่เทียนเหา หากนายยังเป็นผู้ชาย ก็ให้มันเข้มแข็งหน่อย! อย่าให้ฉันต้องดูถูกนาย!”
สายตาของเย่เทียนเหา จึงค่อยๆกลับมามีพลังเล็กน้อย
จากนั้น เย่เทียนเหาก็คำรามอย่างคลุ้งคลั่ง หลินหยุน “ฉันกับนายไม่ตายก็จะไม่ยอมเลิกราต่อกัน!”
.............
หลินหยุนเป็นวิทยากรให้คำแนะนำอยู่ที่มหาวิทยาลัยหลินโจว เป็นเวลาสามวัน
แม้ว่าเย่เทียนเหากับฉู่หมิงเฉิงและพวก จะโกรธแค้นหลินหยุนอยู่ในใจ อย่างไรก็ตาม สำหรับทักษะทางการแพทย์ที่หลินหยุนบรรยาย พวกเขากลับยอมรับชื่นชมอย่างมาก
ทักษะทางการแพทย์ที่หลินหยุนบรรยาย ล้วนได้มาจากเทคโนโลยีที่อยู่บนดาวเคราะห์ที่เขาเคยเดินทางผ่านเมื่อชาติที่แล้ว ซึ่งก้าวล้ำโลกไปหลายปี
ไม่ว่าจะเป็นฉู่หมิงเฉิงหรือซ่างกวงชิงฉัน ล้วนมีพื้นฐานที่ส่งต่อมาจากครอบครัว แม้กระทั่งตระกูลเย่แห่งเจียงหนาน ก็เป็นครอบครัวแพทย์(หรือเป็นตระกูลที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับยาทางการแพทย์และเครื่องมือแพทย์)
ดังนั้น สำหรับทักษะทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ที่หลินหยุนบรรยาย พวกเข้านั้นเข้าใจดี
คาบสุดท้ายของวิชา ฉู่หมิงเฉิงตามหาหลินหยุนจนเจอ
ฉู่หมิงเฉิงมองหลินหยุน ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “คุณหลิน ผมหวังว่าคุณจะสามารถมาเข้าร่วมการแข่งขันดอกเตอร์คิงในซีซันนี้!”
หลินหยุนมองเขาแวบหนึ่ง กล่าวอย่างไม่แยแส “ทำไม? แพ้ให้กับฉันแล้วไม่พอใจ? อยากจะเอาคืนฉัน?”
ฉู่หมิงเฉิงยอมรับอย่างตรงไปตรงมา “ใช่ ในแง่ทักษะการแพทย์ ผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุณ แต่คุณพ่อผมเป็นแพทย์ดอกเตอร์คิงเมื่อซีซันที่แล้ว ผมหวังว่าในการแข่งขัน เขาจะทำให้คุณพ่ายแพ้ เพื่อพิสูจน์ทักษะทางการแพทย์ของตระกูลฉู่ของผม!”
“ฉันไม่สนใจ” หลินหยุนกล่าวอย่างเอือมระอา
ฉู่หมิงเฉิงขมวดคิ้ว “คุณหลิน นี่เป็นสารท้าทายที่ผมได้ส่งให้กับคุณ หากคุณปฏิเสธ คุณก็จะเป็นคนขี้ขลาด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...