จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 335

สรุปบท บทที่ 335 ทุกคนในสถานที่นี้ต่างตกตะลึง: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 335 ทุกคนในสถานที่นี้ต่างตกตะลึง จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 335 ทุกคนในสถานที่นี้ต่างตกตะลึง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เมื่อเห็นร่างของชายชราที่สวมชุดดำเคลื่อนตัว เต็มไปด้วยลมกระโชกที่รุนแรงกับไม้เท้า ฟาดลงบนหัวของหลินหยุน

อีหยุ่นทนไม่ได้จนต้องหลับตา และทนไม่ได้ที่จะเห็นหลินหยุนตายอย่างอนาถ

คุณชายโจวกับกู้ซิวหรั่นและป๋ายรุ่ยเหวินและคนอื่นๆ มีรอยยิ้มชั่วร้าย และท่องในใจ “หลินหยุน ไปตายซะ!”

หลินหยุนนั่งอยู่ที่เดิม ตะเกียบยังคีบเค้กถั่วเขียวชิ้นหนึ่ง และเคี้ยวอย่างสบายใจ

ไม่ได้สนใจการจู่โจมของชายชราชุดดำเลย

อีหลิงทนไม่ได้ที่จะอุทาน “หลินหยุน ระวัง!”

การโจมตีของชายชราชุดดำยังมาไม่ถึง แต่ลมกระโชกที่รุนแรงได้พัดมาถึงก่อน พัดจนผ้าปูโต๊ะสีขาวบนโต๊ะที่หลินหยุนนั่งอยู่ สะบัดไปมาอย่างแรง

“ทะนงตน!”

เมื่อเห็นว่าหลินหยุนไม่ระวังตัว ชายชราชุดดำก็ตะโกนเสียงดัง ได้เพิ่มพลังอีกระดับบนฝ่ามือ ใช้พลังออกมาเต็มที่

เมื่อเห็นไม้เท้าที่แข็งแรงพอที่จะทุบรถจนแหลกเหลวได้ กำลังจะไปถึงบนหัวของหลินหยุน ในเวลาต่อไปนี้หลินหยุนคงจะตายอย่างอนาถ

แต่ว่า ในชั่วพริบตา ทุกคนก็ตกตะลึง อ้าปากค้าง และลูกตาเกือบถลนออกมาด้วยความตกใจ

สายตาของทุกคนเห็นฉากที่แปลกประหลาด

ชายชราชุดดำหล่นลงมาจากฟากฟ้า สองมือจับ(ไม้เท้าอีกา) แล้วฟาดไปที่บนหัวหลินหยุน

หลินหยุนยกมือข้างหนึ่งขึ้นเบาๆ และจับ(ไม้เท้าอีกา)ที่อยู่ห่างจากส่วนบนหัวของเขาเพียงเจ็ดนิ้ว อีกมือหนึ่งยังคงคีบเค้กอย่างสบายใจ และค่อยๆเคี้ยว

ทุกคนในสถานที่นี้ต่างเงียบสงบ!

เงียบจนเหมือนเข็มตกลงบนพื้นยังได้ยิน

แม้แต่ชายชราชุดดำเอง ก็ตะลึงจนแนบนิ่ง ตั้งนานยังตั้งสติไม่ได้

“นี่ มันเป็นไปได้ยังไง!”

คนแรกที่ตั้งสติได้คือ ปรมาจารย์ตระกูลอีคุณปู่เจ็ด

เพราะเป็นคนเก่าแก่ในสมัยก่อนของประเทศสาธารณรัฐจีน มีความนิ่งมากกว่าคนหนุ่มๆเหล่านี้

“คนชุดดำนั้นมีความแข็งแกร่งในระดับพรสวรรค์สูงสุด เห็นได้ชัดว่าใช้รากฐานการบำเพ็ญของร่างกายฟาดไม้เท้านั้นลงมา แม้ว่าไอ้หนุ่มคนนั้นจะเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุด ก็เป็นไปไม่ได้และไม่ง่ายที่จะจับไม้เท้าที่จู่โจมมาจากชายชุดดำ!”

หากเป็นปรมาจารย์ มันง่ายที่จะเอาชนะหรือบีบบังคับนักบู๊พรสวรรค์สูงสุด

เพียงแต่ว่า หากต้องการจับไม้เท้านั้นอย่างง่ายดาย แม้แต่ปรมาจารย์ก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน

“ไอ้หนุ่มคนนี้ เก็บซ่อนได้ดี!” นี่คือการประเมินค่าของคุณปู่เจ็ดที่มีต่อหลินหยุน

สองพี่น้องตระกูลป๋าย รวมทั้งเศรษฐีจากเจียงหนานเหล่านั้น ผ่านไปนานพอสมควรกว่าพวกเขาจะหุบปากลง

“ฉันดูไม่ผิดใช่ไหม! ถ่ายหนังกันเหรอ? ไม้เท้าของชายชราที่ฟาดบนหัวของหลินหยุนเป็นเรื่องปลอมใช่ไหม! ไม่อย่างนั้นเขาจะจับได้ง่ายๆอย่างนั้นได้ยังไง!”

หลายคนสงสัยว่าชายชราชุดดำได้สมรู้ร่วมคิดกับหลินหยุนไว้ล่วงหน้า และจงใจแสดงละครให้ทุกคนดู

เพียงแต่ว่า สติสัมปชัญญะบอกพวกเขาว่า ทั้งหมดนี้เป็นความจริง

ชายชราชุดดำและหลินหยุนเป็นศัตรูกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะร่วมมือกับหลินหยุนแสดงละคร

เย่เทียนเหาถึงกับร้องออกมาอย่างแปลกๆ “เป็นไปได้ยังไง! หลินหยุนสามารถต้านการโจมตีของชายชราในชุดดำได้อย่างไร!”

เย่จี้ซื่อมองไปที่หลินหยุน ใบหน้าแสดงความสงสัย มีความคิดไม่ดีแวบเข้ามาในสมอง

หวางเสี่ยวซีดูตื่นเต้นดีใจ “เย้ ต้านได้แล้ว! เยี่ยมมาก ตอนนี้อีหลิงรอดแล้ว!”

เซี่ยหยู่เวยระงับความรู้สึกตกใจ และพูดอย่างเคร่งขรึม “อย่าเพิ่งดีใจเกินไป ยังมีอีเฉินเย่ารออยู่ข้างหลัง? หลังจากชนะเขาแล้ว ถึงจะช่วยอีหลิงได้!”

“ฉันคิดว่าไม่แน่หลินหยุนอาจจะเอาชนะอีเฉินเย่าได้” หวางเสี่ยวซีพูดอย่างมั่นใจ

จ้าวกางเหลือบมองเธออย่างประหลาด และบ่นพึมพำ “เสี่ยวซี ฉันจำได้ว่าแต่ก่อนเธอเกลียดหลินหยุนมากที่สุด ทำไมตอนนี้ถึงพูดเข้าข้างเขา!”

“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฉันติดตามอาจารย์เพื่อฝึกบู๊ แต่เพราะฉันเข้าสำนักช้าเกินไป ดังนั้นฉันทำได้เพียงใช้วิธีฝึกฝนที่เจ็บปวดและโหดร้ายที่สุดเพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย”

พวกแกคงอยากรู้ ว่าทำไม อายุมากแล้วถึงไปฝึกฝน และอายุแค่สามสิบกว่าก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้ใช่ไหม?”

“อันที่จริงนี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไร หลังจากวันที่ฉันได้เข้าสู่พรแสวง(ทักษะที่ไม่ได้ติดตัวมาแต่เกิด เกิดจากการฝึกฝน) ฉันก็เริ่มไปเป็นทหารรับใช้ จนถึงตอนนี้ ไม่ว่างานใหญ่งานเล็กไม่รู้ว่าทำมาแล้วเท่าไหร่ และไม่รู้ว่าต้องดิ้นรนบนเส้นชีวิตความตายมาแล้วกี่ครั้ง ฉันใช้รอยแผลบนร่างกายนี้ เพื่อแลกกับการฝึกฝนบู๊สู่แดนปรมาจารย์”

ขณะที่อีเฉินเย่าพูด ก็ค่อยๆถอดเสื้อของเขาออก หน้าอกและแผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่น่ากลัว

มีบาดแผลจากมีด บาดแผลกระสุนปืนและบาดแผลต่างๆซ้อนทับกัน เห็นแล้วตกใจมาก และบางจุดดูไม่ออกว่าเกิดจากอาวุธชนิดใด

“โอ้ นี่……”

ทุกคนในเหตุการณ์เงียบสงบลงอีกครั้ง มีเพียงลมหายใจของทุกคนที่พยายามจะระงับไว้

สามารถทนรับบาดแผลเยอะขนาดนี้แต่ไม่ตาย เหมือนเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ!

ไม่น่าแปลกใจ ที่อีเฉินเย่าอายุยังน้อย ก็สามารถกลายเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงสุดได้

ดูเหมือนว่า ความเกลียดชังเป็นแรงผลักดันของเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา

อีเฉินเย่าเปิดหน้าอกของเขาไว้ และเดินไปหาหลินหยุน โดยพูดต่อไปว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาฉันไปทั่วโลก เหมือนตายมาแล้วหลายครั้ง เพียงเพื่อต้องการปรับระดับการฝึกฝนให้สำเร็จโดยเร็ว สักวันหนึ่ง จะได้กลับมาตระกูลอี และล้างแค้นให้กับสิบกว่าชีวิตในตระกูลฉันที่สูญเสียไป!”

“วันนี้ฉันมาแล้ว ไม่มีใครสามารถขวางฉันได้!”

ด้วยคำพูดสุดท้าย ร่างกายของอีเฉินเย่าถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดงจางๆ มองไปซึ่งดูเหมือนว่าเขาสวมเสื้อคลุมสีเลือดอีกชั้น

ออร่าที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม หมุนรอบๆทั่วห้องโถง และทำให้ทุกคนเกิดความหวาดผวา

อีเฉินเย่าที่อยู่ข้างหน้า ดูเหมือนจะกลายเป็นสัตว์ร้ายโบราณ พร้อมที่จะเลือกกลืนกินคน

มันน่ากลัวมาก เขา ไม่ใช่มนุษย์!” เศรษฐีในเจียงหนานคนหนึ่งตกใจจนเหงื่อท่วมตัว

คุณปู่เจ็ดหน้าทอดสี “ไม่คาดคิด เมื่อกี้ที่เขาต่อสู้กับฉัน เขาไม่ได้ใช้พลังเต็มที่!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์