หัวใจของอีหยุ่นหดหู่ เมื่อกี้เขาก็ไม่มั่นใจหลินหยุน ตอนนี้คุณปู่เจ็ดยังพูดว่าอีเฉินเย่าเก็บซ่อนความแข็งแกร่งของเขา ถ้างั้นก็แสดงว่าหลินหยุนยิ่งสิ้นหวังมากขึ้น
ป๋ายรุ่ยเหวินกับกู้ซิวหรั่นและคนอื่นซึ่งเป็นศัตรูกับหลินหยุน เมื่อเห็นว่าอีเฉินเย่ามีพลังแข็งแกร่งมากเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดมีรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
“หลินหยุน ดูซิว่าครั้งนี้นายจะยังมีชีวิตรอดไหม!
หลินหยุนมองอีเฉินเย่าซึ่งไม่ใส่เสื้อ และมีรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดเต็มไปหมด ไร้ความรู้สึก “เห็นแก่ที่มันไม่ง่ายที่นายจะฝึกฝนได้ถึงขั้นนี้ ฉันจะให้โอกาสนายสักครั้ง ฉันจะนั่งที่นี่ ขอเพียงนายสามารถบังคับให้ฉันยืนขึ้นได้ ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวความแค้นระหว่างนายกับตระกูลอีอีกต่อไป!”
“อะไรนะ!”
อีหยุ่นเบิกตากว้าง ใบหน้าเหลือเชื่อ
“เขาบ้าไปแล้วเหรอ?”
“นั่งนิ่งๆสู้กับอีเฉินเย่า! เขาเอาความมั่นใจมาจากไหน?”
“ไอ้หนุ่มคนนี้ ช่างหยิ่งยโสจริงๆ!”
อีหยุ่นรู้สึกสิ้นหวังอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะไม่มีความมั่นใจในตัวหลินหยุน แต่ในใจก็ยังมีความหวังจางๆ หวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้น
แต่ตอนนี้หลินหยุนหยิ่งยโสขนาดนี้ เหมือนขุดหลุมฝังศพให้ตัวเอง
“เฮ้อ ดูเหมือนวิกฤตครั้งนี้ของตระกูลอีจะรอดยาก!” อีหยุ่นเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าพร้อมกับถอนหายใจ
เกือบทุกคนมีความคิดแบบเดียวกับอีหยุ่น หลินหยุนประมาทเกินไป ความแข็งแกร่งของอีเฉินเย่านั้น ชายชราชุดดำยังเทียบไม่ได้เลย
อีเฉินเย่าก็สะดุ้งเล็กน้อย แล้วใบหน้าที่น่าเกลียดของเขาก็เต็มไปด้วยความอับอาย เขารู้สึกว่าหลินหยุนพูดแบบนี้มันคือการดูหมิ่นเขา
“ไอ้หนุ่ม นายกำลังหาที่ตาย!”
ทันใดนั้นความเร็วของอีเฉินเย่าปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน ร่างของเขาก็เคลื่อนไหว และทุกคนก็เห็นแสงสีแดง พุ่งไปทางหลินหยุนอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นหลินหยุนก็เงยหน้าขึ้น มองไปที่แสงสีแดง จากนั้นจึงชูตะเกียบขึ้นอย่างเฉยชา แล้วคีบอย่างสบายใจ
ฉากที่น่าเหลือเชื่อเกิดขึ้น
ตะเกียบคู่นั้นของหลินหยุนซึ่งดูเหมือนจะหักได้ทุกเมื่อ แท้จริงแล้วสามารถหนีบข้อมือของอีเฉินเย่าที่ต่อยมาไว้แน่น
ตะเกียบดูเหมือนคีมเหล็กขนาดยักษ์ อีเฉินเย่าพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะดิ้นให้หลุด แต่ขยับไม่ได้เลย
“ไป!”
หลินหยุนคลายตะเกียบ และโบกมือเบาๆอีเฉินเย่ารู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งกระแทกใส่ร่างกายของเขาทันที
บูม!
ร่างกายของอีเฉินเย่า ถูกแรงมหาศาลนั้นกระแทกจนปลิวออกไป
ชึดๆๆ……ถอยหลังห้าหกก้าว ถึงควบคุมร่างกายตัวเองให้คงที่ได้
“อะไรเนี่ย!”
ทั่วทั้งห้องโถง ตกอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้ง!
ทุกคน อ้าปากค้างอีกครั้ง เป็นเวลานานกว่าจะหุบปากได้
อีเฉินเย่าพ่ายแพ้จริงๆ!”
“ไอ้หนุ่มคนนั้นแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
อีเฉินเย่าเองก็ตกใจเหมือนกัน มองที่หลินหยุนอย่างเหลือเชื่อ
แต่ว่า อีเฉินเย่าไม่เต็มใจ
“ไอ้หนุ่ม ดูเหมือนว่าฉันประเมินค่าแกต่ำเกินไป”
“นายเป็นคนที่หยิ่งผยอง คราวนี้ ฉันจะสู้ให้สุดใจ!”
ทันใดนั้นอีเฉิงเย่าก็หลับตาลง ร่างกายของเขาลอยจากพื้น แสงสีแดงบนร่างกายของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และทั้งตัวของเขาถูกปกคลุมด้วยแสงสีแดง
“ให้นายได้เห็นวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน ฝ่ามืออาชูร่ามารโลหิต!”
แสงสีแดงที่ปกคลุมร่างกายของอีเฉินเย่า จู่ๆก็รวมตัวกันบนหัวของเขา ก่อตัวเป็นฝ่ามือสีแดงขนาดใหญ่ เหมือนฝ่ามืออาชูร่ามารโลหิต
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...