หลินหยุนออกห่างไปจากตัวของเย่เทียนเหา ระหว่างที่เดินผ่านพวกเซี่ยหยู่เวย ก็ไม่หันไปมองเธอแม้แต่น้อย ราวกับว่าเป็นคนแปลกหน้า
ความหวังเล็กๆที่เดิมทีเซี่ยหยู่เวยยังคิดว่าสามารถคืนดีกับหลินหยุนได้ ก็พังทลายลงไปไม่จนเหลือซาก และขาวซีดไปทั่วทั้งใบหน้า
หลินหยุนหันไปมองอีหลิง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ อย่าให้พวกกระจอกพวกนี้มาทำลายบรรยากาศแห่งความสุขเลย”
หันตัวกลับไป กวาดสายตามองไปยังแขกที่อยู่ในห้องโถง
“ดำเนินงานเลี้ยงต่อ”
คำพูดของหลินหยุน ราวกับประกาศิตของจักรพรรดิ เหล่าคนรวยของเจียงหนานต่างก็รีบขยันทำตามทันที
มีคนรวยคนหนึ่งเพราะยังตกอยู่ในความหวาดกลัว จึงทำตัวไม่ถูก ตอนรินเหล้ามือก็สั่นไม่หยุด เทเหล้าจนเต็มแก้วก็ยังไม่รู้สึกตัว
แต่ว่า เพราะคำพูดของหลินหยุน ต่อให้ต้องฝืนยิ้ม ทุกคนก็ไม่กล้าขัดขืน
บรรยากาศในห้องโถง จู่ๆก็เริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง
อีหยุ่นพอเห็นภาพแบบนี้ แววตาเต็มไปด้วยความตกใจ กับความตกใจ
ต่อให้เป็นเขาที่มีฐานะเป็นถึงเจ้าถิ่นของเจียงหนาน คำพูดแค่ประโยคเดียวก็ยังไม่สามารถทำให้เหล่าคนรวยมากขนาดนี้ของเจียงหนานเชื่อฟังแบบนี้ได้
แต่ว่า หลินหยุนกลับทำมันได้
ทุกคำที่พูดออกไป ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่ง!
หลินหยุนมองไปยังอีหลิง แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ให้พ่อของเธอเก็บกวาดที่เหลือก็แล้วกัน ของขวัญก็ส่งถึงที่แล้ว ถึงเวลาที่ฉันต้องกลับแล้ว”
อีหลิงพูดด้วยเสียงที่ไม่เต็มใจว่า “คุณจะไปแล้วเหรอ? ไม่ว่าจะยังไงก็ควรจะกินอะไรก่อนแล้วค่อยกลับเถอะ!”
“ไม่เป็นไร ฉันควรไปแล้ว”
พอพูดจบ หลินหยุนก็หันตัว แล้วเดินไปยังทางประตู
“คุณอี ยังลืมค่าตอบแทนของผมล่ะ!” หลินหยุนพูดทิ้งท้ายก่อนออกไปจากห้องโถง
อีหยุ่นมองแผ่นหลังของหลินหยุนที่ค่อยๆเดินจากไป จากนั้นก็โค้งคำนับด้วยความเคารพ “ท่านโปรดวางใจ ผมจะรีบสั่งให้คนไปหาบัตรธนาคารของคุณทันที”
พอรู้ตัวอีกที สรรพนามที่อีหยุ่นใช้เรียกหลินหยุ่น ก็ถูกเรียกด้วยความเคารพ
เป็นความเคารพแบบเดียวกับที่มีต่อรุ่นพี่
หลังจากที่หลินหยุนเดินออกไป เหล่าคนมีชื่อเสียงที่อยู่ในห้องโถงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก รู้สึกว่าหินที่อยู่บนอกในที่สุดก็วางได้สักที
เหล่าคนที่มาในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า แต่ละคนเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าลิง ถึงแม้หลินหยุนจะไม่ได้แสดงความเป็นมิตรต่ออีหยุ่น แต่ว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็รู้อยู่แก่ใจ
หลังจากนี้ อำนาจของตระกูลอี จะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มีปรมาจารย์บู๊ที่แข็งแกร่งอยู่หนึ่งคน แค่ความแข็งแกร่งของหลินหยุน ก็คงไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับตระกูลอีอีก
ใครให้อีหยุ่นมีลูกสาวดีๆแบบนี้ล่ะ!
เหล่าคนดังของเจียงหนาน เริ่มพูดเอาอกเอาใจอีหยุ่น
แต่ว่า พอได้เผชิญกับสถานการณ์เมื่อกี้ อีหยุ่นจึงเย็นชากับคนพวกนี้ไม่น้อย เขาเข้าใจแล้ว คนพวกนี้ล้วนเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสี ใครให้ผลประโยชน์กับพวกเขา พวกเขาก็จะเปลี่ยนเป็นสีนั้น
บทที่อีเฉินเย่าต้องการจัดการกับตระกูลอี คนพวกนี้ไม่มีใครที่กล้ายืนออกมาพูดแทนตระกูลอีแม้แต่ประโยคเดียว
ขอแค่ตระกูลอียังมีความยิ่งใหญ่อยู่ พวกเขาก็จะโค้งคำนับเมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลอี ถ้าเกิดตระกูลอีตกต่ำ ต่อให้อีหยุ่นจะไปขอร้องพวกเขา พวกเขาก็คงไม่ยื่นมือไปช่วยเหลือตระกูลอี
มือทั้งสองข้างของอีหลิงกุมหยกที่อยู่ตรงหน้าอก สายตาจ้องมองไปยังทางประตู โดยที่ไม่พูดอะไร
เพียงแป๊บเดียว หลินหยุนก็กลับมาที่ทะเลสาบเยว่หยาได้สามวันแล้ว
สามวันมานี้ หลินหยุนแอบฝึกฝนอยู่ตลอด ตอนนี้เขายังอยู่ในขั้นแรกของแดนแด่เทพเจ้า ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะถึงขั้นกลางของแดนแด่เทพเจ้า นอกซะจากเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่าง
แดนแด่เทพเจ้าสามอัญมณี ระยะแรกเกิดอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ระยะกลางกลั่นร่างเต๋า ระยะสุดท้ายสร้างตัวอ่อนยาทอง
เมื่อเข้าสู่ระยะแด่เทพเจ้าช่วงกลาง หลินหยุนก็จะสามารถหล่อหลอมร่างเต๋าได้แล้ว
เวลาแปดโมงเช้าของวันนี้ หลินหยุนที่เสร็จสิ้นการฝึก ไปยืนอยู่บนดาดฟ้า แล้วมองลงไปยังทะเลสาบเยว่หยา
ทะเลสาบบเยว่หยาในตอนนี้ราวกับเป็นแดนสวรรค์ที่อยู่บนโลกมนุษย์ ทุกต้นไม้ใบหญ้า แม้แต่เหล่าสัตว์เล็กๆ ล้วนได้รับผลประโยชน์จากค่ายกลรวมพลังห้าธาตุพรสวรรค์ ทำให้มีชีวิตชีวาอย่างน่าประหลาดใจ
ขอบเขตที่ถูกค่ายกลห่อหุ้ม ยิ่งทำให้ชี่ทิพย์จากฟ้าดินรวมอยู่ในรัศมีร้อยลี้ พอใช้สายตามองไปยังชั้นอากาศก็เห็นเหมือนกับหมอกบางๆ
ระยะห่างจากแดนชี่ทิพย์ที่เหมือนหมอก อยู่ไม่ไกลแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...