พอส่งหลินหยุน โจวเฟินก็หันกลับมา นั่งลงบนโซฟา
เซี่ยเจียนโก๋ถอนหายใจ แล้วนั่งลงบนโซฟาเช่นกัน ใบหน้าดูสับสนเล็กน้อย มีทั้งความรู้สึกซาบซึ้ง และทำอะไรไม่ถูก อารมณ์ที่ชัดเจนที่สุดก็คือความเสียใจ
โจวเฟินมองเขาด้วยหางตา แล้วส่งเสียงหึด้วยความเย็นชาว่า “ตอนนี้รู้จักถอนหายใจแล้วเหรอ? ไม่ฟังคำพูดฉันตั้งแต่แรก ตอนนี้พอได้เห็นความเก่งของเสี่ยวหยุน เลยรู้สึกเสียใจใช่ไหม?”
เซี่ยเจียนโก๋ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ว่าแววตาได้เผยความขมขื่นออกมา
เสียใจไหมเหรอ? มันก็แน่อยู่แล้ว
ทั้งๆที่เป็นลูกเขยของตัวเอง ในฐานะที่เป็นพ่อตา ให้เขาช่วยเหลือแค่พูดประโยคเดียวก็น่าจะพอแล้ว
แต่ว่า ตอนนี้กลับต้องมาขอร้องให้ลูกเขยช่วยเหลือ? แถมยังต้องกังวลว่าลูกเขยจะไม่ไว้หน้าตัวเองอีก
“นี่เป็นการลงโทษสินะ?” เชี่ยเจียนโก๋เสียใจอย่างชัดเจน
โจวเฟินพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “อย่าคิดว่าไม่พูดอะไรแล้วฉันจะไม่รู้ความคิดของคุณนะ ถ้าเกิดเสียใจก็พูดออกมา เสี่ยวหยุนเป็นเด็กดี อีกอย่างฉันก็มองออกว่า เขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกเป็นอย่างมาก”
“ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้คุณมักจะมองเสี่ยวหยุนด้วยสีหน้าแย่ๆ แต่ไม่ว่าจะยังไง ก็ยังไม่เคยทำเรื่องที่แย่จนเกินไป ถึงแม้เบื้องหน้าเสี่ยวหยุนจะแสดงความเย็นชาต่อหน้าคุณ แต่ว่าในใจก็ยังคิดว่าคุณเป็นคนในครอบครัว ไม่ยังงั้น เรื่องในวันนี้ต่อให้คุณจะให้ฉันขอร้องอย่างไง เขาก็คงไม่ยอมตกลงหรอก”
เซี่ยเจียนโก๋อึ้งไปสักพัก มองไปยังโจวเฟิน แววตาได้เผยความดีใจออกมา “สิ่งที่เธอพูดเป็นความจริงเหรอ?”
โจวเฟินพูดว่า “เจ้าเด็กหลินหยุนคนนี้ ถึงแม้จะไม่ค่อยพูดอะไร แต่ในใจกลับเก็บเรื่องไว้มากมาย ใครผิดใครถูก เขารู้ดีอยู่แก่ใจ! คุณสบายใจได้!”
พอพูดจบ โจวเฟินก็มองเซี่ยเจียนโก๋ด้วยความดุร้ายอีกครั้ง
“งั้นเรื่องระหว่างเขากับหยู่เวย เธอว่ายังสามารถคืนดีได้ไหม?” เซี่ยเจียนโก๋ถามด้วยความรู้สึกที่คาดหวัง
สีหน้าของโจวเฟินดูแย่ลงเล็กน้อย ถอนหายใจแล้วพูดว่า “หยู่เวยทำจนเกินไป เรื่องครั้งก่อนที่เธอทำ เกรงว่าคงทำให้จิตใจเสี่ยวหยุนไม่ใช่น้อย เรื่องระหว่างพวกเขาทั้งสอง ฉันว่ายาก!”
“หยู่เวยเอ๋ย สักวันหนึ่ง เธอจะต้องเสียใจกับกระทำของตัวเธอเองในตอนนั้น”
“ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว คุณไปเตรียมตัวก่อน อย่าปล่อยให้เสี่ยวหยุนจัดการคนเดียว ดูว่าการแข่งขันราชาการแพทย์ต้องเตรียมอะไรบ้าง ไม่เข้าใจจริงๆ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว คุณยังคิดที่จะกลับไปทำอะไรที่ตระกูลเซี่ยอีก!”
โจวเฟินบ่นพึมพำ แล้วไปเก็บถ้วยชาม
ใบหน้าของเซี่ยเจียนโก๋ได้เผยความไม่พอใจอยู่ลึกๆ “กลับไปทำอะไรที่ตระกูลเซี่ยเหรอ? นั่นสินะ กลับไปทำไมกัน? บางทีอาจจะกลับไปเพื่อให้สบายใจก็ได้ แล้วไปถามว่าบทที่ขับไล่ฉันออกจากตระกูล ได้เสียใจรึเปล่า!”
ณ มณฑลจงโจว บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปในโรงแรมปี่ไห่
ฉินหลันที่สวมชุดทำงานสีดำทั้งตัว ผมดำยาวสลวยที่มัดเป็นทรงหางม้า ใส่รองเท้าส้นสูง พาสาววัยรุ่นมาสองคน เดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผย
ในล็อบบี้ ย่านสองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้กำลังเล่นเกมกันอยู่ ใบหน้าเต็มไปด้วยความขี้เกียจ
ทั้งล็อบบี้ ไม่มีแขกสักคน แม้แต่พนักงานก็ยังไม่มี
ใบหน้าที่งดงามของฉินหลัน เต็มไปด้วยความเย็นชา
“ไปเรียกผู้จัดการล็อบบี้ออกมาเดี๋ยวนี้!” ฉินหลันตรงไปพูดด้วยเสียงที่เย็นชาใส่โต๊ะด้านหลังของย่านสองคนที่กำลังเล่นเกมกันอยู่
เกมที่ย่านทั้งสองคนกำลังเล่นอยู่ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงสำคัญ ไม่เงยหัวแม้แต่น้อย พูดอย่างรำคาญว่า “รอเดี๋ยว ไม่เห็นรึไงว่ากำลังยุ่งอยู่!”
แววตาของฉินหลันเต็มไปด้วยความโมโห หันไปพูดกับหญิงสาวคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังว่า “รีบโทรตามผู้จัดการของโรงแรมปี่ไห่มาเดี๋ยวนี้!”
“ค่ะ!”
พอผู้หญิงคนนั้นหยิบมือถือออกมา ก็มีคนสวมชุดทำงานสีดำคนหนึ่ง ผู้หญิงหน้าตาสะสวยวัยสามสิบต้นๆ รีบเดินออกมาจากลิฟต์ด้วยความรีบร้อน
“ผู้ช่วยฉิน ท่านมาแล้วเหรอ!”
ย่านทั้งสองคนพอเห็นผู้จัดการของพวกเขา กลับไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย แค่เงยหน้ามองแวบหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปเล่นเกมต่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...