จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 389

สรุปบท บทที่ 389 คำบัญชาเทพยา: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 389 คำบัญชาเทพยา จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 389 คำบัญชาเทพยา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

มณฑลตงไห่ ท่าเรือเซินเฉิง

ในเวลาห้าโมงเย็น ชาวประมงสองคนกำลังเก็บอวนของตัวเอง

ที่นี่อยู่ใกล้ทะเลมากที่สุด ถึงแม้จะจับปลาได้มากกว่า แต่ก็เกิดอันตรายได้ง่าย

เพราะงั้น เมื่อถึงห้าโมง ชาวประมงของที่นี่ก็จะเก็บอวนแล้วกลับบ้าน

แต่ว่า วันนี้กลับแปลกไปจากเดิมนิดหน่อย

เพราะว่าระหว่างที่พวกชาวประมงกำลังจะเก็บอวนเพื่อกลับบ้าน จู่ๆบนทะเลก็มีฝนตกลงมา

ถ้าเกิดฝนตกลงมาจริงๆ งั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร

แต่ฝนที่ตกคราวนี้ไม่ใช่ฝนธรรมดา แต่กลับเป็นฝนปลา

มีเสียงพะทะๆหล่นลงมาบนกระดานไม้ตรงท่าเรือ ไม่ใช่น้ำฝน ล้วนเป็นปลาจากทะเล

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

ฟ้าแสดงอิทธิฤทธิ์รึไง?

หรือว่า มีเทพมาช่วยเหลือ?

เหล่าชาวประมงต่างก็มองภาพนี้ด้วยความหวาดกลัว มองดูปลาเหล่านั้นกระโดดขึ้นมาจากทะเล แล้วพุ่งเข้ามาทางท่าเรืออย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็หล่นลงมา และดิ้นรนอยู่บนแผ่นกระดาน

แต่ว่า กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปเก็บขึ้นมา

จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา พร้อมกับน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า “ข้าเอาปลามามอบให้พวกแก ทำไมถึงไม่เก็บ?”

ใคร?

เหล่าชาวประมงต่างก็ตื่นตกใจ แล้วมองไปยังรอบๆ

แต่ว่า กลับไม่เห็นใครเลย

ทันใดนั้น ทะเลฝั่งตะวันออก เริ่มแรกก็มีจุดสีดำค่อยๆโผล่ออกมา

จากนั้น มันก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ในที่สุดเหล่าชาวประมงก็เห็นได้อย่างชัดเจน นั่นมันคน

คนๆนี้มีผมสีเทาทั้งหัว เป็นชายหนุ่มที่สวมเสื้อคลุมสีแดงเลือด

เขามีใบหน้าที่ขาวมาก ขาวจนเหมือนไม่มีเลือดไหลเวียน ราวกับเป็นมนุษย์ที่ทำด้วยกระดาษขาว

ตรงเท้าของเขา กำลังเหยียบปลาตัวใหญ่ เป็นฉลามตัวใหญ่!

เหล่าชาวประมงตกใจจนเดินถอยหลัง มองคนที่มาเยือนด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว

“แกเป็นคนหรือเป็นผี?”

เริ่มแรกก็มีปลาจากทะเลกระโดดขึ้นมาท่าเรือด้วยตัวเอง จากนั้นก็มีคนประหลาดที่มีผิวขาวซีดราวกับกระดาษ ที่ขี่ฉลามมา

ถ้าเกิดคุณบอกว่ามันเป็นเรื่องปรกติ นั่นต่างหากที่แปลก!

คนที่มาเยือนกระโดดเบาๆ แล้วขึ้นมายืนอยู่บนท่าเรือ จากนั้นก็จ้องมองเหล่าชาวประมงด้วยใบหน้าที่เย็นชา

“ข้าถามอะไร พวกแกก็ตอบแบบนั้น ถ้าเกิดพูดเกินกว่านั้น ตาย!”

พอพูดจบ จู่ๆคนคนนั้นก็ยื่นมือออกมา แล้วทำท่าหันไปจับชาวประมงในอากาศ ชาวประมงคนนั้นรู้สึกแค่ว่าเหมือนมีพลังที่ใหญ่โตกำลังดึงตัวเขาเอาไว้ จนขยับตัวไม่ได้

“อ๊าก ช่วยด้วย!ช่วยด้วย!” ชาวประมงดิ้นรนอยู่บนอากาศ ด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว

มุมปากของคนคนนั้นได้เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา พอสะบัดมือ ชาวประมงก็ถูกโยนลงไปในทะเลในทันที ฉลามขาวใหญ่นั้นก็อ้าปากรอเอาไว้ จากนั้นทะเลก็กลายเป็นสีเลือด

“ไว้ชีวิตด้วย ท่านเทพโปรดไว้ชีวิตด้วย!”

คนคนนั้นยิ้มด้วยความพอใจ จากนั้นก็ถามว่า “บอกข้ามา ต้องไปใจกลางเมืองยังไง?”

“ตรง เดินตรงไป จาก จากนั้น ก็เลี้ยวกลับ แล้วขึ้นไปนั่งรถบัส ก็ถึงแล้ว” ชาวประมงคนหนึ่งกลัวจนสั่นไปทั้งตัว แล้วพูดอย่างติดๆขัดๆ

แต่ว่า สิ่งที่น่าตกใจก็คือ เขากลับฟังออก

“ตรงไป เลี้ยวกลับ จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งรถบัส อืม เข้าใจแล้ว”

พอพูดจบ เหล่าชาวประมงก็รู้สึกว่ามีลมพัดผ่านตัวไป คนคนนั้นได้หายไปแล้ว

“ผี!”

เหล่าชาวประมงหวาดกลัวจนวิ่งหนีไปรอบๆ

“ฮัลโหล ฉันต้องการแจ้งความ......”

ณ หุบเขาเทพยา

ตรงห้องโถงใหญ่

ณ ใจกลางห้องโถงที่ว่างเปล่าและแปลกตา มีเพียงแค่เจ้าหุบเขาโม่ซิวอู่อยู่คนเดียว

ตอนนี้ ใบหน้าของโม่ซิวอู่ดูซับซ้อนมาก

หลายวันก่อน โม่จือมิ่งได้ทิ้งจดหมายไว้หนึ่งฉบับ จากนั้นก็กลับไปฝึกฝนต่อ

ข้างในเนื้อหาของจดหมาย กลับทำให้โม่ซิวอู่นอนไม่หลับ

จดหมายที่โม่จือมิ่งเขียน มีเพียงแค่ประโยคเดียว

ใบหน้าของโม่ซิวลี่เต็มไปด้วยความดุร้ายจากนั้นก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “เฮิง เจ้ายังคิดว่าข้าเป็นน้องสาวของเจ้าอีกเหรอ? ยังคิดว่าหมิงหยู่เป็นหลานชายของเจ้าอีกเหรอ? หรือว่าสามีและลูกชายของข้า ยังเทียบความสำคัญของคำบัญชาเทพยาไม่ได้อีกรึไง?”

ในเมื่อโม่ซิวอู่หมดหนทาง ใบหน้าของเขาได้เผยความมุ่งมั่นออกมา “ได้ ข้าจะใช้คำบัญชาเทพยาเดี๋ยวนี้!”

โม่ซิวลี่เปลี่ยนจากความโกรธเป็นดีใจ แล้วพูดออกไปว่า “พี่ใหญ่ ขอบคุณพี่ใหญ่!”

……

เมื่อมีคำบัญชาเทพยาออกไป พวกนักบู๊ที่เคยติดหนี้บุญคุณหุบเขาเทพยา ออกมาเกือบหมด

เพียงครู่เดียว นักบู๊ครึ่งหนึ่งของโลกบู๊ ต่างก็เริ่มเคลื่อนไหว

นักบู๊ทั้งหมดต่างก็ได้รับข่าวสารจากหุบเขาเทพยา ให้ฆ่านักบู๊ที่ชื่อว่าหลินหยุน

เริ่มแรกก็เป็นนักบู๊ที่อยู่ใกล้หุบเขาเทพยา จากนั้นก็เริ่มแพร่กระจายไปยังหลินโจว

จากนั้น นักบู๊ประมาณครึ่งหนึ่งของโลกบู๊ ต่างก็ไปรวมตัวที่หลินโจว

ทั้งแผ่นดินจีน ได้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ บรรยากาศของการฆ่าฟันถูกแพร่กระจายไปทั่ว

ชื่อของหลินหยุน เป็นครั้งแรก ที่ถูกแพร่กระจายไปทั่วโลกบู๊

เช้าตรู่ เวลาหกโมง

ใจกลางอำนาจของชาวจีน ที่พักอาศัยของประธานาธิบดีจีน

หงซานเหอที่ใส่ชุดทหารเต็มยศ ยังไม่ทันได้สวมหมวก รีบเดินทางมาหาตั้งแต่เช้าตรู่

ข้างในห้อง ประธานาธิบดีจีนที่กำลังดื่มชาอย่างสบายใจ แววตาดูลึกลับ ไม่มีใครที่สามารถมองออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

ในฐานะที่เป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดในประเทศจีน ประธานาธิบดีจีนมีชีวิตที่เรียบง่ายมาก แน่นอนว่า นอกจากเวลาที่เข้าสังคม

บางทีเพราะว่าเวลาส่วนใหญ่ประธานาธิบดีจะยุ่งอยู่กับการเข้าสังคม เพราะงั้นเขาถึงได้เกลียดชีวิตแบบนั้น ชอบใช้ชีวิตที่เรียบง่ายเพื่อชดเชย

หงซานเหอรีบพุ่งเข้ามาด้วยความร้อนรน พอเจอหน้า ก็พูดด้วยความดุดันว่า “แย่แล้ว เรื่องใหญ่ที่เจ้าเด็กนั้นก่อเอาไว้ หุบเขาเทพยาได้ออกคำสั่งคำบัญชาเทพยากับเขา นักบู๊ครึ่งหนึ่งของโลกบู๊ เริ่มมีการรวมตัวกันแล้ว”

“โอ้ ผมรู้แล้ว” ประธานาธิบดีตอบกลับอย่างสบายๆ จากนั้นก็ดื่มชาต่อ

นี่......

หงซานเหอขมวดคิ้ว หลังจากที่เขาได้ข่าวนี้ ก็รีบมารายงานโดยทันที นึกไม่ถึงว่าท่านประธานาธิบดีจีนจะไม่เก็บมาใส่ใจด้วยซ้ำ

“ท่านประธานาธิบดี เรื่องนี้ถ้าเกิดจัดการไม่ดี จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่ได้นะ!”

“เจ้าเด็กนั้นมันเป็นตัวหายนะ ท่านน่าจะฟังผมตั้งแต่แรก น่าจะสั่งสอนขาซะหน่อย!”

ประธานาธิบดีจีนยิ้มโดยไม่พูดอะไร รอให้หงซานเหอพูดจบ จึงยิ้มเบาๆแล้วพูดว่า “ท่านหง นั่งก่อน คุณลองมาดูเอกสารนี้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์