มณฑลตงไห่ ท่าเรือเซินเฉิง
ในเวลาห้าโมงเย็น ชาวประมงสองคนกำลังเก็บอวนของตัวเอง
ที่นี่อยู่ใกล้ทะเลมากที่สุด ถึงแม้จะจับปลาได้มากกว่า แต่ก็เกิดอันตรายได้ง่าย
เพราะงั้น เมื่อถึงห้าโมง ชาวประมงของที่นี่ก็จะเก็บอวนแล้วกลับบ้าน
แต่ว่า วันนี้กลับแปลกไปจากเดิมนิดหน่อย
เพราะว่าระหว่างที่พวกชาวประมงกำลังจะเก็บอวนเพื่อกลับบ้าน จู่ๆบนทะเลก็มีฝนตกลงมา
ถ้าเกิดฝนตกลงมาจริงๆ งั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร
แต่ฝนที่ตกคราวนี้ไม่ใช่ฝนธรรมดา แต่กลับเป็นฝนปลา
มีเสียงพะทะๆหล่นลงมาบนกระดานไม้ตรงท่าเรือ ไม่ใช่น้ำฝน ล้วนเป็นปลาจากทะเล
นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
ฟ้าแสดงอิทธิฤทธิ์รึไง?
หรือว่า มีเทพมาช่วยเหลือ?
เหล่าชาวประมงต่างก็มองภาพนี้ด้วยความหวาดกลัว มองดูปลาเหล่านั้นกระโดดขึ้นมาจากทะเล แล้วพุ่งเข้ามาทางท่าเรืออย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็หล่นลงมา และดิ้นรนอยู่บนแผ่นกระดาน
แต่ว่า กลับไม่มีใครกล้าเข้าไปเก็บขึ้นมา
จู่ๆก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา พร้อมกับน้ำเสียงที่ไม่พอใจว่า “ข้าเอาปลามามอบให้พวกแก ทำไมถึงไม่เก็บ?”
ใคร?
เหล่าชาวประมงต่างก็ตื่นตกใจ แล้วมองไปยังรอบๆ
แต่ว่า กลับไม่เห็นใครเลย
ทันใดนั้น ทะเลฝั่งตะวันออก เริ่มแรกก็มีจุดสีดำค่อยๆโผล่ออกมา
จากนั้น มันก็ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุดเหล่าชาวประมงก็เห็นได้อย่างชัดเจน นั่นมันคน
คนๆนี้มีผมสีเทาทั้งหัว เป็นชายหนุ่มที่สวมเสื้อคลุมสีแดงเลือด
เขามีใบหน้าที่ขาวมาก ขาวจนเหมือนไม่มีเลือดไหลเวียน ราวกับเป็นมนุษย์ที่ทำด้วยกระดาษขาว
ตรงเท้าของเขา กำลังเหยียบปลาตัวใหญ่ เป็นฉลามตัวใหญ่!
เหล่าชาวประมงตกใจจนเดินถอยหลัง มองคนที่มาเยือนด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว
“แกเป็นคนหรือเป็นผี?”
เริ่มแรกก็มีปลาจากทะเลกระโดดขึ้นมาท่าเรือด้วยตัวเอง จากนั้นก็มีคนประหลาดที่มีผิวขาวซีดราวกับกระดาษ ที่ขี่ฉลามมา
ถ้าเกิดคุณบอกว่ามันเป็นเรื่องปรกติ นั่นต่างหากที่แปลก!
คนที่มาเยือนกระโดดเบาๆ แล้วขึ้นมายืนอยู่บนท่าเรือ จากนั้นก็จ้องมองเหล่าชาวประมงด้วยใบหน้าที่เย็นชา
“ข้าถามอะไร พวกแกก็ตอบแบบนั้น ถ้าเกิดพูดเกินกว่านั้น ตาย!”
พอพูดจบ จู่ๆคนคนนั้นก็ยื่นมือออกมา แล้วทำท่าหันไปจับชาวประมงในอากาศ ชาวประมงคนนั้นรู้สึกแค่ว่าเหมือนมีพลังที่ใหญ่โตกำลังดึงตัวเขาเอาไว้ จนขยับตัวไม่ได้
“อ๊าก ช่วยด้วย!ช่วยด้วย!” ชาวประมงดิ้นรนอยู่บนอากาศ ด้วยใบหน้าที่หวาดกลัว
มุมปากของคนคนนั้นได้เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา พอสะบัดมือ ชาวประมงก็ถูกโยนลงไปในทะเลในทันที ฉลามขาวใหญ่นั้นก็อ้าปากรอเอาไว้ จากนั้นทะเลก็กลายเป็นสีเลือด
“ไว้ชีวิตด้วย ท่านเทพโปรดไว้ชีวิตด้วย!”
คนคนนั้นยิ้มด้วยความพอใจ จากนั้นก็ถามว่า “บอกข้ามา ต้องไปใจกลางเมืองยังไง?”
“ตรง เดินตรงไป จาก จากนั้น ก็เลี้ยวกลับ แล้วขึ้นไปนั่งรถบัส ก็ถึงแล้ว” ชาวประมงคนหนึ่งกลัวจนสั่นไปทั้งตัว แล้วพูดอย่างติดๆขัดๆ
แต่ว่า สิ่งที่น่าตกใจก็คือ เขากลับฟังออก
“ตรงไป เลี้ยวกลับ จากนั้นก็ขึ้นไปนั่งรถบัส อืม เข้าใจแล้ว”
พอพูดจบ เหล่าชาวประมงก็รู้สึกว่ามีลมพัดผ่านตัวไป คนคนนั้นได้หายไปแล้ว
“ผี!”
เหล่าชาวประมงหวาดกลัวจนวิ่งหนีไปรอบๆ
“ฮัลโหล ฉันต้องการแจ้งความ......”
ณ หุบเขาเทพยา
ตรงห้องโถงใหญ่
ณ ใจกลางห้องโถงที่ว่างเปล่าและแปลกตา มีเพียงแค่เจ้าหุบเขาโม่ซิวอู่อยู่คนเดียว
ตอนนี้ ใบหน้าของโม่ซิวอู่ดูซับซ้อนมาก
หลายวันก่อน โม่จือมิ่งได้ทิ้งจดหมายไว้หนึ่งฉบับ จากนั้นก็กลับไปฝึกฝนต่อ
ข้างในเนื้อหาของจดหมาย กลับทำให้โม่ซิวอู่นอนไม่หลับ
จดหมายที่โม่จือมิ่งเขียน มีเพียงแค่ประโยคเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...