สามวันต่อมา โรงแรมระดับห้าดาวที่เปิดขึ้นใหม่ในเมืองหลินโจว โรงแรมโล่เฉิน
โดยที่ทั้งโรงแรม ในวันนี้ได้ถูกเจี่ยงสงเหมาจองเอาไว้แล้ว
ด้านนอกโรงแรม ได้เชิญยามจำนวนมากมาจากบริษัทรักษาความปลอดภัย ยืนประจำการในทุกช่วงระยะห่างห้าก้าว โดยล้อมรอบโรงแรมโล่เฉินเอาไว้ทั้งหมด
มาตรการรักษาความปลอดภัยระดับนี้ ถ้าหากไม่ทราบ คงจะคิดว่าเป็นการพบปะพูดคุยกันของผู้นำระดับสูงของประเทศ เพื่อปรึกษาหารือเรื่องราวระดับชาติ
จากชั้นหนึ่งจนถึงชั้นสาม ปล่อยวางลงทั้งหมด ใช้สำหรับเป็นห้องโถงจัดงานเลี้ยงฉลองในวันนี้
รูปแบบการตกแต่งของโรงแรมโล่เฉิน ทันสมัยเหมาะสมเป็นอย่างมาก คนที่อยู่บนชั้นสองและชั้นสาม สามารถมองเห็นห้องโถงที่ชั้นหนึ่งได้ เหมาะสำหรับใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับแขกผู้มาร่วมงานที่มีจำนวนมาก
แม้ว่าจะอาศัยใช้นามของปรมาจารย์หลิน แต่เจี่ยงสงคือผู้ที่เริ่มต้นคิดจัดงานเลี้ยงฉลองตัวจริง
อีกทั้ง เจี่ยงสงเข้าใจอย่างชัดเจนถึงเป้าหมายของงานเลี้ยงฉลองในครั้งนี้
เพื่อที่จะสร้างความสั่นสะเทือนโด่งดังให้เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้คน เป็นการปูทางเพื่อจำหน่ายน้ำชี่ทิพย์
ดังนั้น เจี่ยงสงจึงได้ส่งบัตรเชิญ ให้กับผู้ที่มีชื่อเสียงและมีหน้ามีตาทั้งหมดในเมืองหลินโจว
เถียนชุ่ยชุ่ยมาร่วมงานในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก แน่นอนว่า ลำพังแค่อาศัยสถานะของเธอ คงไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเข้าร่วมงานที่นี่ได้
แต่ว่า พ่อของเสิ่นหย่งมีชื่ออยู่ในรายชื่อแขกที่เชิญพอดี เธอจึงติดตามเสิ่นหย่ง มาเข้าร่วมงานที่นี่ด้วย
มองไปโดยรอบล้วนเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จที่แต่งกายในชุดสูทที่ภูมิฐาน เถียนชุ่ยชุ่ยตื่นเต้นจนร่างกายอ่อนแรงลง น้ำเสียงที่พูดนั้นก็ไพเราะเป็นพิเศษ
“พี่หย่ง คนนั้นเมื่อครู่ไม่ใช่ท่านรองนายกเว่ยแห่งเมืองหลินโจวของพวกเราเหรอ? เขาก็มาร่วมงานด้วย! ”
เสิ่นหย่งเงยหน้าขึ้น มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ส่วนเถียนชุ่ยชุ่ยที่อยู่ในชุดกระโปรง สีขาว และมือที่ขาวนวลได้ควงแขนของเขาไว้
ขณะที่เดินนั้น เต็มไปด้วยบุคลิกความเป็นสุภาพบุรุษ
“ไม่ต้องตระหนกตกใจไปหรอก ไม่เพียงแค่ท่านรองนายกเว่ยเท่านั้น แม้แต่ผู้นำของมณฑลก็มาร่วมงานกันตั้งหลายท่าน”
“อะไรนะ! คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า ปรมาจารย์หลินจะมีเกียรติมีหน้ามีตามากขนาดนี้! ” เถียนชุ่ยชุ่ยอุทานขึ้นเบา ๆ จากนั้นก็เอามือป้องปิดที่ปาก แล้วรีบมองไปยังรอบข้าง พบว่าไม่มีใครจ้องมอง มาที่เธอ จึงเบาใจลงได้บ้าง
“เสิ่นหย่ง เถียนชุ่ยชุ่ย! ” ที่บริเวณไม่ไกลนัก หวางหยู่หันได้ปล่อยมือจากพ่อของเธอ แล้วก็วิ่งตรงมาที่เถียนชุ่ยชุ่ยสองคนนั้น
“พวกคุณก็มากันด้วยเหรอ! ” หวางหยู่หันแปลกใจเล็กน้อย เดิมทีเธอคิดติดตามพ่อมาร่วมงานเพื่อที่จะหาประสบการณ์เพิ่มพูนความรู้ แต่หลังจากที่มาถึงแล้ว พบว่าไม่มีคนที่รู้จักเลย
ตอนนี้ได้พบเจอกับเถียนชุ่ยชุ่ย ก็รู้สึกดีใจเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่ต่างแดนในทันที
“หวางหยู่หัน! ” เถียนชุ่ยชุ่ยก็ได้กระซิบถามขึ้นว่า: “คุณก็มาด้วยเหรอ! ”
“อืม” หวางหยู่หันพยักหน้า
“เถียนชุ่ยชุ่ย หวางหยู่หัน! ” ก็มีเสียงเรียกดังขึ้นมาอีก จางเหมิงที่ควงแขนอยู่กับเหยียนเสวเหวิน ก็ได้เดินเข้ามาหา
“จางเหมิง! ” เถียนชุ่ยชุ่ยกับหวางหยู่หันก็ตะโกนเรียกขึ้นเบา ๆ ด้วยความดีอกดีใจ
“คุณก็มาด้วยเหรอ! ” เถียนชุ่ยชุ่ยพูดขึ้น
จางเหมิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจและพูดขึ้นว่า: “งานเลี้ยงฉลองของปรมาจารย์หลิน พวกเราจะไม่มาเข้าร่วมได้อย่างไรกันล่ะ! ”
คิดถึงที่ว่าเหยียนเสวเหวินที่อยู่ด้านข้างของจางเหมิง สามารถเชิญปรมาจารย์หลินได้ หวางหยู่หันกับเถียนชุ่ยชุ่ยต่างก็พากันอิจฉา
“พวกเราไปด้วยกันเถอะ! อีกสักครู่ปรมาจารย์หลินก็มาแล้ว ให้เสวเหวินพาพวกเราไปถ่ายรูปร่วมกับปรมาจารย์หลิน! ” จางเหมิงลากไปที่แขนของเหยียนเสวเหวิน และพูดขึ้นอย่างเฉยเมย เหมือนกับว่าเธอสนิทสนมกับปรมาจารย์หลินมากมายอย่างไรอย่างนั้น
เหยียนเสวเหวินที่อยู่ด้านข้างเกิดความกังวลใจ คนอื่นต่างก็คิดว่าพ่อของเขาสามารถพูดคุยกับปรมาจารย์หลินได้ แต่เขาเองนั้นทราบถึงข้อเท็จจริง เรื่องเหล่านี้ต่างก็เป็นสิ่งที่เขาโกหกสร้างเรื่องขึ้นมา ซึ่งในความเป็นจริงพ่อของเขาไม่ได้รู้จักกับปรมาจารย์หลินเลย
เหยียนเสวเหวินหลบสายตาไปมาและพูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า: “เหมิงเหมิง คุณพูดเสียงเบาลงหน่อย วันนี้ผู้คนที่มาร่วมงานต่างก็เป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้น! ”
จางเหมิงพูดขึ้นโดยไม่เข้าใจว่า: “คนใหญ่คนโตแล้วยังไงกัน? หรือว่าจะมีสถานะใหญ่โตไปกว่าปรมาจารย์หลินงั้นเหรอ? พวกเราเป็นแขกวีไอพีของปรมาจารย์หลิน จะไปเกรงกลัวอะไรล่ะ! ”
เหยียนเสวเหวินยิ่งร้อนใจมากขึ้น มองไปโดยรอบไม่มีผู้ใดจ้องมองมาที่พวกเขา เหยียนเสวเหวินจึงเบาใจลงได้บ้าง
“คุณถ่อมตัวลงหน่อยจะได้ไหม ผู้คนที่มาในวันนี้ต่างก็เป็นแขกวีไอพีที่ปรมาจารย์หลินเชิญมาทั้งนั้น คุณอยากให้คนอื่นมาหัวเราะเยาะว่าพวกเราไม่รู้จักกาลเทศะอย่างนั้นเหรอ! ”
จางเหมิงก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงใด ๆ อีกทันที หากว่าเกิดความอับอายขายหน้าขึ้นในงานวันนี้ คงจะกลายเป็นจุดด่างพร้อยที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตอย่างแน่นอน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...