บทที่ 40 ยอดฝีมือ
“กล้าดีนี่”
แต่ไหนแต่ไร เจี่ยงสง ไม่เห็นเงาหัวของหลินหยุนอยู่แล้ว แม้ว่าจะเป็นจินซื่อหรงก็ตาม ถ้าอาจหาญกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ เจี่ยงสงก็ไม่คิดที่จะเกรงใจ
“เอาตัวมันกลับไป.” เจี่ยงสงพูดกับอาเฟิง
“ครับ ท่านเจี่ยง”
อาเฟิงตะโกนพร้อมโบกมือเรียกเหล่าลูกน้องอย่างเย็นชา "เอาตัวไป! "
ในทันใดนั้น ชายฉกรรจ์ทั้งหกก็ออกมาพร้อมที่จะจับหลินหยุนและคนอื่น ๆ
แต่ทันทีที่ชายฉกรรจ์ทั้งหกมาถึงตัวหลินหยุน พวกเขาก็ถูกหลินหยุนล้มด้วยหมัดเดียว
“นี่มัน....” หวางเสี่ยวซีและคนอื่น ๆ ที่อยู่หลังหลินหยุน ถึงกับตกตะลึง
“หลินหยุนมีแรงเยอะอะไรขนาดนี้” หวางเสี่ยวซีหันไปยังเซี่ยหยู่เวยอย่างงงงวย
เซี่ยหยู่เวยก็คิดสงสัยเช่นกัน เธอและหลินหยุนใช้ชีวิตร่วมกันมาหลายปี เคยเห็นแต่หลินหยุนเป็นฝ่ายถูกต่อยตีเท่านั้น ไม่เคยเห็นเขาชกต่อยกับใคร
“ฉันเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” เซี่ยหยู่เวยพูดพร้อมขมวดคิ้ว
อีหลิงไม่ได้คิดอะไรมาก ใบหน้าของเธอเปี่ยมด้วยความสุข และพูดในใจ “เดิมทีฉันนึกว่าหลินหยุนแค่อาศัยความกล้าที่อยู่ในสายเลือด อยากที่จะแข็งแกร่งขึ้นบ้าง ที่แท้เขาแข็งแกร่งมากจริงๆ”
จ้าวกางเองก็สีหน้าตกตะลึง เขาพูดขึ้นว่า :"หลินหยุนรู้จักการต่อสู้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ครั้งที่แล้วฉันยังกลั่นแกล้งมันอยู่เลย ทำไมเขาถึงไม่ตอบโต้อะไรบ้าง”
เจี่ยงสงดูเห็นการณ์นี้ด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ แต่เขารู้สึกประหลาดใจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ถึงว่าทำไมถึงได้กล้าออกหน้า ที่แท้ก็เรียนมานี่เอง อาเฟิงจัดการซะ”
“ครับ ท่านเจี่ยง”
อาเฟิง ชายตาเดียว หันไปมองหลินหยุน ด้วยนัยน์ตาที่เปี่ยมด้วยไฟแห่งการต่อสู้
“ไอ้หมอนี่มันบ้าเลือดจริง! น่าเสียดายที่แกต้องสู้กับฉัน”
หลินหยุนมองไปที่อาเฟิงด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย และพูดอย่างไม่รีรอ: "อย่าพูดมาก มาเลย!
“รนหาที่ตายหรือไง” อาเฟิงถูกยั่วให้โมโห
ปลายเท้ากระแทกพื้น ตัวลอยพุ่งมายังหลินหยุนดังยิงลูกศร ความเร็วของอาเฟิงเร็วกว่า นักกรีฑาวิ่งลู่ระดับชาติ ในระยะ 100 เมตรถึง 10 เท่า และนี่ถึงขีดจำกัดของร่างกายมนุษย์แล้ว
"เร็วมาก เร็วจนฉันมองเห็นแค่เงา" หวางเสี่ยวซีพูดด้วยความตกใจ
“หลินหยุนจะชนะไหม” ไม่มีใครตอบคำถามนี้ได้ ตอนนี้ในสายตาของทั้ง 3 สาว อาเฟิงแข็งแกร่งมากเกินไป
และแม้ว่าหลินหยุนจะเก่งมากแค่ไหน แต่เขาก็เป็นเพียงนักศึกษา อายุ 20 ของสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว จะเป็นคู่ต่อสู้ของบอร์ดี้การ์ดมืออาชีพอย่างอาเฟิงได้ยังไง!
เจี่ยงสงเอนตัว นั่งลงบนเก้าอี้อย่างสบาย คิดว่าชัยชนะอยู่ในกำมือแล้ว พร้อมกับพูดจาด้วยน้ำเสียงที่ถากถาง
“อาเฟิงติดตามอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่เด็ก อยู่กับฉันมาแล้ว 5 ปี ผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วน พวกของเขามีนักสู้ที่แข็งแกร่งอยู่มาก แกกับเขามันคนละชั้นกัน”
แต่เมื่อหมัดที่เร็วและแรงของของอาเฟิง พุ่งมาในระยะ 1 เมตร ก่อนถึงตัวของหลินหยุน หลินหยุนกลับขยับตัวสวนหมัดที่เร็วแล้วพริ้วไหวตอบโต้กลับไปอย่างจัง
แกร็ก!
ทุกคนต่างได้ยินเสียงของกระดูกที่หัก ภาพตรงหน้าคืออาเฟิงที่ถูกตีกระเด็นปลิวไป ล้มลงกับพื้น เขาพยายามลุกขึ้นยืนกี่ครั้ง ก็ลุกไม่ขึ้น
“อะไรกัน!”
เซี่ยหยู่เวยและทั้งสามคน ต่างหวาดกลัวและมองไปที่หลินหยุนด้วยสีหน้าที่อยากจะไม่เชื่อ
ครั้งนี้ แม้แต่เจี่ยงสงเองก็ต้องตกตะลึงตามๆ กัน
“เป็นไปไม่ได้!”
“อาเฟิงเป็นนักต่อสู้ยอดฝีมือที่มีพละกำลังแข็งแกร่งที่สุดของฉัน วันนี้กลับถูกเจ้าเด็กนิรนามเล่นงานได้ยังไง”
“ไอ้หมอนี่มันเป็นเก่งขนาดไหนกันแน่”
เจี่ยงสง มองไปที่หลินหยุน ด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม และเขาไม่ยอมโดนดูถูกอีกต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...