หวางซี่ไห่พูดว่า “ถ้าเขาหาเงินมาได้ห้าร้อยล้าน ก็ไม่จำเป็นต้องไปทำบัตรทองม่วงสูงศักดิ์ ถ้าเขาหาเงินห้าร้อยล้านไม่ได้ เช่นนั้นก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องไปทำบัตรปลอม เพราะถ้าอยากช่วยกู้วิกฤตให้กับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป สิ่งที่จำเป็นคือเงินทอง ไม่ใช่อำนาจจอมปลอม!”
สีหน้าของหวางเจียเฉียงดีขึ้นเล็กน้อย “ฉันเข้าใจแล้ว”
มู่ชิงซานยืนขึ้น เดินไปหาหลินหยุน โค้งคำนับเพื่อขอบคุณเขา “น้องชาย ในการประชุมการประมูลครั้งนั้น ฉันเสียมารยาทกับคุณมาก คาดไม่ถึงว่าคุณจะตอบแทนด้วยคุณธรรม โปรดยอมรับคำคารวะจากฉันด้วย!”
มู่เฉิงก็เดินมา ยิ้มอย่างมีความสุข “ท่านผู้มีพระคุณ ขอบคุณมาก!”
“ไม่ต้องเกรงใจ” หลินหยุนพูดเบาๆ
ในชาติที่แล้ว เขาจำได้ว่าตอนที่เขาได้รู้จักกับมู่เฉิง ยังไม่มีบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป และคิดว่าคงจะถูกบริษัทซี่ไห่กรุ๊ปกลืนกินไปแล้วแน่นอน
เพียงแต่ว่า ตอนที่เขารู้จักมู่เฉิง มู่เฉิงอยู่ในธุรกิจนี้มีประสบการณ์มากพอแล้ว ไม่เหมือนกับตอนนี้ เหมือนเด็กใหม่ที่ยังไม่รู้ประสีประสาอะไร
ดูเหมือนว่า ในชาติที่แล้ว หลังจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกกลืนกินไปแล้ว มู่เฉิงก็ได้เจอความยากลำบากไม่น้อย ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมามาก
แต่ในชาตินี้ เท่ากับหลินหยุนขัดขวางชะตากรรมของมู่เฉิงก่อน และช่วยเขารักษาบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไว้ เช่นนี้มู่เฉิงคงไม่เจอกับความยากลำบากแน่นอน และเสียโอกาสในการฝึกฝน
หลินหยุนไม่รู้จริงๆ สิ่งที่เขาทำตอนนี้สำหรับมู่เฉิง มันดีหรือไม่ดี
อย่างไรก็ตาม ถ้าให้หลินหยุนต้องทนดูธุรกิจของตระกูลเพื่อนสนิทอยู่ในขั้นวิกฤต โดยไม่ยื่นมือเข้าช่วย เขาทำไม่ได้จริงๆ
หวางซี่ไห่มองไปที่หลินหยุนอีกครั้ง เก็บความรู้สึกที่ดูถูกเหยียดหยามไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไอ้หนุ่ม คิดไม่ถึงว่านายจะได้บัตรทองม่วงสูงศักดิ์จากจินซื่อหรง! มันทำให้ฉันประหลาดใจจริงๆ”
“ถ้าวันนี้มีเพียงบริษัทซี่ไห่กรุ๊ปของฉัน ด้วยบัตรทองม่วงสูงศักดิ์ใบนี้ของนาย ก็สามารถทำให้ฉันกลัวจนล่าถอย น่าเสียดาย น่าเสียดาย……”
มู่ชิงซานมองหวางซี่ไห่ ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม นี่คือคู่อริเก่าของเขา ถ้า ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่หลินหยุนออกมาช่วยกะทันหัน ไม่แน่เขาคงจบเห่ไปแล้ว
“หวางซี่ไห่ นายก็ไม่ต้องไปเสียดายแล้ว แม้ว่าวิกฤตของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปจะคลี่คลายลง แต่ครั้งนี้ถือว่าคุณชนะ เพียงแต่ว่า ฉันรับประกันว่า ในอนาคตคุณจะไม่มีโอกาสเช่นนี้อีก!”
หวางซี่ไห่ยิ้มแปลกๆ “คลี่คลายวิกฤตได้แล้ว? คุณคิดว่ามีเงินแล้ว ก็สามารถคลี่คลายวิกฤตของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้หรือ?”
“หึหึ มู่ชิงซาน คุณประเมินค่าฉันต่ำเกินไปแล้ว!”
มูชิงซานสีหน้าเปลี่ยนไป รู้สึกถึงบรรยากาศที่ผิดปกติ เขาเห็นใบหน้าของคนรอบข้างอย่างชัดเจน คือใบหน้าที่มีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
มู่ชิงซานตกใจมาก “หรือว่าหวางซี่ไห่ยังมีแผนเด็ด? ไม่อย่างนั้นคนพวกนี้ที่มากับเขา คงจะไม่มั่นใจขนาดนั้น!”
มู่เฉิงพูดอย่างเย็นชา “หวางซี่ไห่ น้องชายคนนี้ยินดีนำเงินออกมาห้าร้อยล้าน เงินจำนวนนี้แม้ว่าคุณจะขายบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป ก็ไม่สามารถหาเงินมาได้เยอะขนาดนี้! แผนการสมรู้ร่วมคิดของคุณถูกพวกเราทำลายแล้ว คุณยังต้องการอะไรอีก!”
หวางซี่ไห่หัวเราะคิกคักและพูดว่า “คุณคิดว่าแค่บริษัทซี่ไห่กรุ๊ปของฉัน ก็สามารถทำให้ประธานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเหล่านั้น แม้ตัวเองต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นจำนวนมาก ก็ยอมหักหลังบริษัทเหรอ?”
“พวกคุณคิดจริงๆเหรอลำพังบริษัทซี่ไห่กรุ๊ป ก็สามารถทำให้ธนาคารปฏิเสธที่จะให้คุณกู้ยืมได้หรือ?”
“พวกคุณประเมินค่าฉันสูงเกินไปแล้ว!”
สีหน้าของมู่ชิงซานเริ่มแย่ขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่เขากลัวที่สุด ก็เกิดขึ้นในที่สุด
หวางซี่ไห่พูดเยาะเย้ย “มู่ชิงซาน เห็นแก่ที่พวกเรารู้จักกันมาหลายปี ฉันจะบอกความจริงกับนาย ในครั้งนี้คนที่ลงมือจัดการกับนาย ไม่ใช่บริษัทซี่ไห่ของฉัน แต่เป็นท่านเจี่ยงผู้มีอิทธิพลในหลินโจว!”
เมื่อพูดถึงท่านเจี่ยงคำนี้ สีหน้าหวางซี่ไห่แสดงความเคารพทันที
ประธานผู้บริหารที่ติดตามเขาเหล่านั้น แต่ละคนสีหน้าต่างแสดงความเคารพนับถือ แต่ไม่รู้สึกแปลกใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้ข่าวนี้มานานแล้ว
มู่ชิงซานกับมู่เฉิงมีสีหน้าตกตะลึง!
“ท่านเจี่ยงแห่งหลินโจว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...