“นี่ใครกล้ามาพูดโอ้อวดตรงนี้!”
เย่สวนฉีหันหัวกลับมาและตะโกนเสียงดัง
คนอื่นๆก็ได้ยินเสียงและมองไปที่ซูจื่อเหลียง
“ฉันเอง!”ซูจื่อเหลียงตอบเสียงดังก้าวไปข้างหน้าเงยหน้าขึ้นสูงและมองเย่สวนฉีด้วยความฉุนเฉียว
“นายสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานนี้ได้หรือ?”เย่สวนฉีถามด้วยสีหน้าไม่แน่ใจ
สำหรับซูจื่อเหลียงความทรงจำนั้นช่างฝังใจเพราะสามารถบีบผู้อาวุโสเก้าลงมือแค่กระบวนท่าเดียวก็ต้องให้เขาผ่านด่านจะเห็นได้ว่าความสามารถของซูจื่อเหลียงแข็งแกร่งเพียงใดหลายคนแอบจำซูจื่อเหลียงไว้แม้แต่เย่สวนฉีก็เหมือนกัน
คนผู้นี้แข็งแกร่งมากในเรื่องบู๊และบางทีอาจจะรู้เรื่องเกี่ยวกับค่ายกลประมาทไม่ได้เย่สวนฉีแอบคิดในใจ
ซูจื่อเหลียงยิ้มเยาะเย้ยและพูดว่า“ถึงแม้ฉันจะทำลายมันไม่ได้แต่ฉันรู้ว่ามีใครบางคนสามารถทำลายมันได้”
“ใคร?”เย่สวนฉีถามด้วยความงุนงงหากมีใครสามารถทำลายค่ายกลฮู๋ซานนี้ได้จริงเขาอยากเห็นให้เป็นบุญตาสักครั้ง
คราวนี้ซูจื่อเหลียงไม่ได้พูดอะไรแต่หลินหยุนได้พูดเสียงบาๆ“ฉันสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานได้!”
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หลินหยุน
หยางเฟยเย่นมองไปที่หลินหยุนด้วยความประหลาดใจ“หลินหยุนค่ายกลนี้ไม่ธรรมดาน่าจะเป็นค่ายกลซั่งกู่แม้แต่ปรมาจารย์เย่ก็ไม่สามารถทำลายได้นายแน่ใจหรือว่าสามารถทำลายมันได้?”
“ถ้าคุณไม่มั่นใจเต็มร้อยฉันขอแนะนำนายอย่าฝืนไปเลย”
หยางเฟยเย่นไม่ได้มีเจตนาดีแต่กังวลถ้าหลินหยุนสามารถทำลายค่ายกลฮู่ซานได้จริงๆนั่นก็แสดงว่าโล่เสว่ฉีคงจะได้ผลประโยชน์เต็มๆเลย?”
หลี่อู๋จี๋ก็ยิ้มเย็นชามองไปที่หลินหยุนด้วยท่าทางที่ดูถูกเหยียดหยาม“ไอ้หนุ่มการทำลายค่ายกลกับความแข็งแกร่งของบู๊มันแตกต่างจากกันมันต้องเป็นปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านค่ายกลโดยเฉพาะถึงจะทำได้เมื่อกี้นายก็ได้ยินคำอธิบายของปรมาจารย์เย่แล้วค่ายกลนี้ใช้พลังรุนแรงโจมตีอย่างเดียวไม่ได้นายจะใช้อะไรมาทำลายค่ายกลนี้?”
คนอื่นๆก็มองไปที่หลินหยุนและยิ้มเยาะเย้ยค่ายกลแตกต่างจากความแข็งแกร่งของบู๊แม้ว่าความแข็งแกร่งของบู๊จะช่วยเสริมการทำลายค่ายกลแต่ถ้าไม่เข้าใจวิธีการของค่ายกลแม้ว่าความแข็งแกร่งของบู๊จะทรงพลังแค่ไหนก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เย่สวนฉีมองไปที่หลินหยุนด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยามหากเป็นซูจื่อเหลียงบางทีเขาอาจจะหวาดกลัวเล็กน้อยเพราะว่ายังไงซูจื่อเหลียงก็รู้เรื่องวิธีการทำลายค่ายกล
เพียงแต่ว่าตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นเด็กเมื่อวานซืนคนนี้เย่สวนฉีไม่เคยเอามาใส่ใจ
เนื่องจากปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลถ้าต้องการทำลายค่ายกลสิ่งแรกคือต้องทำความคุ้นเคยกับรูปแบบค่ายกลต่างๆแล้วเรียนรู้วิธีการที่เกี่ยวข้องกับการทำลายค่ายกล
มันเหมือนกับวิธีการศึกษาแบบแผลพุพองของประเทศจีนในอดีตทุกครั้งที่มีการสอบก็จะพยายามตั้งคำถามให้นักเรียนไม่เพียงแต่นักเรียนต้องทำให้ได้แต่ยังต้องให้นักเรียนท่องจำด้วยอย่างไรก็ตามหากท่องจำคำถามมากมายขนาดนี้ถึงแม้ว่าคุณจะทำไม่ได้คุณก็ท่องจำได้แล้ว
และหลินหยุนอายุยังหนุ่มมากแม้ว่าเขาจะเริ่มเรียนรู้ค่ายกลตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดาความรู้ก็มีจำกัดและเป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะเรียนรู้ค่ายกลทันทีที่เกิดมา
ดังนั้นเย่สวนฉีไม่เชื่อว่าหลินหยุนสามารถทำลายค่ายกลได้!
เย่สวนฉีแสดงสีหน้าเย่อหยิ่งและมองหลินหยุนด้วยความเย้ยหยันและพูดว่า“ไอ้หนุ่มค่ายกลฮู่ซานนี้ไม่อาจทำลายด้วยพลังที่รุนแรงหากนายสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ฉันจะนับถือนายในฐานะอาจารย์!”
หลินหยุนไม่สนใจเขายื่นมือออกมาและโจมตีด้วยพลังทิพย์
ตูม!
การโจมตีแบบทดลองนั้นถูกกระแทกออกมาทันทีจากเกราะป้องกันของค่ายกล
เย่สวนฉีตะโกนเสียงดัง“ไอ้หนุ่มค่ายกลนี้ใช้พลังที่รุนแรงไม่ได้นายต้องการให้ค่ายกลสูญสิ้นผู้คนล้มตายหรือ?”
หลินหยุนเหลือบมองเขาอย่างดูถูกและพูดเบาๆ“ถ้าต้องการทำลายค่ายกลนี้จะต้องสร้างค่ายกลนี้ให้เสร็จก่อน"
“หมายความว่ายังไง?”เย่สวนฉีขมวดคิ้ว
“ไม่ได้หมายความว่าอะไรค่ายกลนี้ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ดังนั้นพวกคุณไม่มีวันทำลายค่ายกลนี้ได้”
ทุกคนประหลาดใจค่ายกลที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์แล้วจะมีเกราะป้องกันได้อย่างไร?
เย่สวนฉีดุ“ไร้สาระค่ายกลที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ไม่เรียกว่าค่ายกลแล้วจะมีบทบาทการป้องกันได้อย่างไร!”
“นั่นเป็นเพราะค่ายกลนี้เรียกว่าค่ายกลนิรันดร์กาลฟ้าดินไม่สมบูรณ์แบบเพราะไม่สมบูรณ์แบบจึงสมบูรณ์เพียบพร้อม”
หลินหยุนยังคงจำสิ่งที่เย่เยว่เคยบอกเขาเกี่ยวกับคำศัพท์นี้ของค่ายกลนิรันดร์คกาล……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...