บทที่ 455 คุมเชิง – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 455 คุมเชิง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากที่หลินตงหัวกลับมาถึงอำเภอจีหมิงแล้ว ก็เริ่มต้นตามหาฉินหลันพร้อมกันกับหวางซูเฟิน
แต่ก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรเลย
หวางซูเฟินสรุปแน่ชัดว่า ฉินหลันถูกคนร้ายลักพาตัวไป และก็ได้ให้หลินตงหัวรีบแจ้งตำรวจทันที
สำหรับเหตุการณ์แบบนี้แล้ว จะดำเนินการในลักษณะกรณีคนหายเท่านั้น ซึ่งหากคนหายยังไม่ครบยี่สิบสี่ชั่วโมงเต็ม ทางตำรวจส่วนใหญ่ก็จะไม่ถือว่าเป็นคดีความ
แต่ว่า หลินตงหัวขัดหวางซูเฟินไม่ได้ จึงต้องรีบไปแจ้งความต่อตำรวจ
บังเอิญก็คือ คุณป้าพนักงานทำความสะอาดคนนั้น ก็กำลังแจ้งความอยู่เช่นกัน
แต่ว่าคงเป็นเพราะตอนนั้นคุณป้าได้เห็นถึงการปะทะต่อสู้กันของนักบู๊ จึงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงพูดเกินความจริงไปบ้าง ทำให้ทางตำรวจเข้าใจผิดว่าเธอมีปัญหาทางระบบประสาท
ถ้าหากว่าหลินตงหัวไม่ได้มาแจ้งความ ทางตำรวจเองก็คงจะย้อนคิดถึงคำพูดของคุณป้าคนนั้น อีกครั้ง
หลังจากที่หลินตงหัวได้เล่ารายละเอียดที่เกี่ยวข้องแล้ว ทางตำรวจก็ได้รีบนำข้อมูลกล้องวงจรปิดในบริเวณนั้นมาทันที และก็ได้ตรวจสอบจนพบเบาะแสของฉินหลัน
สุดท้ายทางตำรวจได้วินิจฉัยว่า เหตุการณ์นี้คือคดีการลักพาตัวที่ได้วางแผนการไว้ล่วงหน้าแล้ว
และคนที่มีส่วนพัวพันเกี่ยวข้อง ไม่ใช่คนธรรมดา
เหตุการณ์ลักษณะนี้ค่อนข้างที่จะซับซ้อนหน่อย
ตามบันทึกลับวงในของประเทศจีน ในปีนั้นมีผู้แข็งแกร่งระดับปรมาจารย์ท่านหนึ่ง เป็นเพราะว่าได้ทำการล่วงละเมิดผิดกฎหมายของประเทศจีนหลายครั้ง จึงโดนฝ่ายราชการจีนตามล่าจับตัว
โดยได้ติดตามจับตัวเป็นเวลาครึ่งปี ถึงขนาดที่ต้องใช้กำลังทหาร พกพาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ในที่สุดจึงสามารถจับกุมตัวปรมาจารย์ท่านนั้นไว้ได้บนภูเขาแห่งหนึ่ง
หลังจากที่ได้กำจัดปรมาจารย์ท่านนั้นแล้ว ก็ได้สูญเสียจำนวนทหารไปมากเช่นกัน
ดังนั้น สำหรับพวกนักบู๊เหล่านี้แล้ว ทางราชการของจีนมักจะปวดหัวลำบากใจมาโดยตลอด
แต่ว่า คนที่ถูกจับเป็นเชลยในครั้งนี้ คือฉินหลัน ซึ่งเป็นเพื่อนของหลินหยุน
โดยหลังจากที่เจียงซ่างหมิงผู้รับผิดชอบอำเภอจีหมิงได้รับทราบเรื่องแล้ว ก็ถึงกับทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความตกใจอย่างมาก
หลินหยุนเป็นถึงผู้ที่แม้แต่ท่านเจี่ยงเองก็ยังต้องพยายามที่จะตามประจบ แม้ว่าเขายังไม่ทราบแน่ชัดถึงเบื้องหลังของหลินหยุน แต่ขนาดคนอย่างท่านเจี่ยงก็ยังตามประจบ ต่อให้มีเจียงซ่างหมิง สักสิบคนก็ไม่สามารถล่วงเกินได้
ถ้าหากฉินหลันเกิดเรื่องขึ้น แล้วหลินหยุนได้รับทราบ ถ้าอย่างนั้นอนาคตหน้าที่การงานของ เจียงซ่างหมิงก็คงจะจบสิ้นเป็นแน่
แม้เพียงจะตั้งข้อหาให้กับเขาว่าปกครองบ้านเมืองไม่สงบสุข ก็เพียงพอที่จะทำให้เจียงซ่างหมิง ติดคุกหลายปีแล้ว
ดังนั้น เมื่อเจียงซ่างหมิงได้รับทราบเหตุการณ์ ก็ได้แอบก่นด่าบรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรของผู้ที่ลักพาตัวฉินหลันเลยทีเดียว
จากนั้นก็ได้รีบสั่งการเคลื่อนกำลังทหาร โดยข้ามผ่านขั้นตอนของตำรวจ แล้วดำเนินการตามเบาะแส ล้อมรอบภูเขาลมปีศาจเอาไว้
ปืนกลหนัก เครื่องยิงจรวด ปืนต่อต้านอากาศยาน โดยอาวุธยุทโธปกรณ์หนักทั่วไปที่ใช้ในการทำสงคราม ก็ได้นำออกมาเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว
ถ้าหากฉินหลันไม่ได้อยู่ในมือของฝ่ายตรงข้าม เจียงซ่างหมิงก็คงจะสั่งให้ระดมยิงอาวุธใส่ไปแล้ว
ที่จริงแล้วคนของสำนักสวนอินก็กลัดกลุ้มอยู่เช่นกัน
ตามแผนการที่เจ้าสำนักสวนอินได้วางเอาไว้ เดิมทีคิดที่จะจับตัวหลินตงหัว แต่เป็นเพราะหลินตงหัวเป็นเจ้าหน้าที่ราชการ พวกเขาจึงกลัวว่าจะไปทำให้ทางราชการโมโห ดังนั้นจึงเลือกที่จะดำเนินการแผนรอง เลือกที่จะจับตัวฉินหลันแทน
คิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาตอบสนองของทางราชการจะรุนแรงดุเดือดขนาดนี้!
โอ้โห แสดงอานุภาพท่าทางที่ไม่ตายกันไปข้างหนึ่งคงจะไม่ยอมเลิกราเป็นแน่!
มีลูกศิษย์สอบถามเจ้าสำนักสวนอินว่า: “เจ้าสำนัก ผู้หญิงสองคนนี้เป็นลูกสาวของเจียงซ่างหมิง อย่างนั้นเหรอ? ทำไมเขาถึงดูเคร่งเครียดขนาดนี้! ”
ที่จริงแล้วถ้าหากเป็นการจับตัวลูกสาวของเจียงซ่างหมิงเอง เขาคงจะไม่ถึงกับเคร่งเครียดขนาดนี้
เขาสามารถที่จะคิดหาวิธีพูดคุยเกลี้ยกล่อมฝ่ายตรงข้ามได้
แต่คาดว่าหลินหยุนคงจะไม่มีจิตใจที่จะพูดคุยกับเขาเป็นแน่ จึงฉวยโอกาสตอนที่หลินหยุนไม่อยู่ รีบจัดการแก้ไขปัญหาให้จบสิ้นไป
หากว่ารอจนหลินหยุนกลับมา ได้รับทราบว่าฉินหลันถูกจับตัวไป เจียงซ่างหมิงคงจะต้องพบกับความโชคร้ายเป็นแน่
เจ้าสำนักสวนอินก็รู้สึกเหลือเชื่อกับปฏิกิริยาการตอบสนองที่รุนแรงของเจียงซ่างหมิง เหตุการณ์นี้ได้บานปลายยุ่งยากไปกันใหญ่แล้ว แต่ว่าถ้าจะให้เขาปล่อยตัวคนออกมาก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำร้ายอะไรต่อฉินหลันกับโม่หยู่เช่นกัน
“หากพวกเราเป็นผู้ที่ส่งตัวแทนไปเจรจาก่อน เกรงว่าฝ่ายตรงข้ามจะเสนอเงื่อนไขที่ยากสำหรับเรา! ” หลินตงหัวพูดขึ้นด้วยความกังวล
เจียงซ่างหมิงยิ้มอย่างขมขื่น: “ข้ากลับหวังว่าพวกเขาจะเสนอเงื่อนไขที่ยากลำบากให้กับเรา แบบนี้อย่างน้อยข้าก็สามารถที่จะทราบได้ว่าพวกเขาต้องการอะไร ตอนนี้พวกเขาไม่เสนอเงื่อนไขอะไรมาเลย ใครจะไปทราบได้ว่าพวกเขากำลังคิดวางแผนอะไรอยู่? หากว่าฉินหลันถูกทำร้าย รอจนคุณหลินหยุนกลับมาถึง คงจะโกรธแค้นอย่างดุเดือดเป็นแน่! ”
หลินตงหัวพิจารณาไม่กี่วินาที พยักหน้าแล้วพูดว่า: “ตกลง ข้าเต็มใจที่จะเป็นตัวแทน ขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเจรจาต่อรอง”
เจียงซ่างหมิงปฏิเสธทันที: “ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด! ” ตอนนี้ยังไม่ได้ช่วยเหลือนำตัวฉินหลันออกมา หากว่าพวกเขายังจะจับตัวนายเอาไว้บนภูเขาอีก ซึ่งหากคุณหลินหยุนรับทราบ คงจะโมโหใส่ข้าอย่างหนักแน่นอน!
“ข้าจะหาคนที่ฉลาดมีไหวพริบสักหน่อยเพื่อขึ้นไปบนภูเขา รับฟังว่าตกลงพวกเขาต้องการอะไรกันแน่? ”
“แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน! ” หลินตงหัวพูดขึ้น
เจียงซ่างหมิงคัดเลือกลูกน้องเด็กหนุ่มที่มีไหวพริบเฉลียวฉลาดขึ้นไปบนภูเขา เพื่อเป็นตัวแทนของทางราชการในการเจรจาต่อรองกับพวกเขา
หลังจากที่เจ้าสำนักสวนอินได้รับทราบข่าว ก็ยิ้มหัวเราะอย่างภาคภูมิใจทันที
ลูกศิษย์ใหญ่ได้รีบพูดประจบขึ้นว่า: “เจ้าสำนักคาดการณ์ได้แม่นยำอย่างกับเทพ นี่ยังไม่ถึงสามวัน พวกเขาก็ส่งตัวแทนมาเจรจาแล้ว”
“รีบไปเชิญตัวแทนเข้ามาด้านใน ข้าจะพูดคุยกับเขา” เจ้าสำนักสวนอินยิ้มและพูดขึ้น
เจ้าสำนักสวนอินไม่ได้สร้างความยุ่งยากให้กับตัวแทนเจรจา ถึงอย่างไรเป้าหมายของพวกเขาก็ไม่ใช่ฉินหลันและโม่หยู่ พวกเขาเพียงแค่ต้องการสิ่งของในวังเทพจันทราที่หลินหยุนได้ไปเท่านั้น
ดังนั้น เจ้าสำนักสวนอินไม่ได้ปกปิดความจริง ได้บอกกล่าวเป้าหมายความต้องการโดยตรงให้กับตัวแทนเจรจา
หลังจากที่ตัวแทนเจรจากลับมาแล้ว ก็ได้นำเงื่อนไขความต้องการของเจ้าสำนักสวนอิน บอกให้กับเจียงซ่างหมิงและคนอื่น ๆ รับทราบ
ได้รับฟังเงื่อนไขความต้องการนี้แล้ว เจียงซ่างหมิงก็ทรุดตัวนั่งลงไปบนเก้าอี้ สีหน้าท่าทางหดหู่
“จบแล้ว จบกันแล้ว แบบนี้คงต้องให้คุณหลินหยุนรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้แล้ว”
ในที่สุดหลินตงหัวกับหวางซูเฟินก็เข้าใจได้สักทีว่า เดิมทีฝ่ายตรงข้ามต้องการที่จะเล่นงาน หลินหยุนเท่านั้น
“ข้าก็ว่าฉินหลันไม่ได้ไปทำอะไรล่วงเกินคนที่นี่เสียหน่อย ทำไมถึงได้มีนักบู๊มาลักพาตัวเธอไปได้! ที่จริงแล้วก็คิดที่จะเล่นงานหลินหยุนไอ้หนุ่มนั่นก็เท่านั้นเอง! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...