จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 466

สรุปบท บทที่ 466 การโจมตีโดยใช้จิตวิญญาณ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 466 การโจมตีโดยใช้จิตวิญญาณ – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 466 การโจมตีโดยใช้จิตวิญญาณ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำมองไปที่โม่หยู่ด้วยความโกรธแค้น พลังแสงสีเขียวในดวงตาเปล่งประกายสว่างจ้า

“ข้าขอเตือนคุณอีกครั้งว่า อย่าได้มาท้าทายขีดความอดทนอดกลั้นของข้าอีกเป็นครั้งที่สองครั้งที่สาม”

“ถ้าหากคุณยังคงไม่เชื่อฟัง ข้าก็จะไม่รังเกียจที่จะทำให้คุณกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณ เมื่อถึงตอนนั้นก็คงไม่ได้ขัดขวางการรับตำแหน่งเจ้าสำนักของข้าแต่อย่างใด”

โม่หยู่สีหน้าเคร่งเครียด ทนไม่ได้จึงต้องถอยหลังหนึ่งก้าว ไม่กล้าที่จะจ้องสบตากับพระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำ

โม่หยู่ชัดเจนว่า พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำฆ่าคนมาแล้วเป็นจำนวนมากมาย เขากล้าที่จะพูด และก็ทำตามที่พูดได้

“นายไม่มีโอกาสอีกแล้ว” เสียงของหลินหยุนดังขึ้น โดยยังคงมีท่าทางที่เฉยชาเช่นเดิม ราวกับ เทพเจ้า มองดูพวกมดพวกแมลง

พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำหัวเราะด้วยเสียงที่ประหลาดและบาดหู: “ไอ้หนุ่มน้อย ข้ายอมรับว่านายมีพลังความสามารถที่แข็งแกร่ง เกรงว่าน่าจะอยู่ในขั้นปรมาจารย์ระดับใหญ่ แต่ข้าไม่ได้เป็นนักบู๊ธรรมดาทั่วไป วิธีการต่อสู้ของข้านายไม่มีทางคาดเดาได้อย่างแน่นอน”

พูดจบ พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำก็ถอยหลังโดยพลัน ในมือของเขาปรากฏเครื่องดนตรีที่แปลกประหลาดชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะโบราณเรียบง่าย มีรูปร่างคล้ายกับกับสังข์

โม่หยู่กับหม่ายู่หวารวมถึงยายหยูต่างก็อุทานขึ้นพร้อมกัน: “ขลุ่ยมารกาโหล! ”

“ไอ้หนุ่มน้อย ไปตายซะเถอะ! ” พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำหัวเราะฮิฮิ นำขลุ่ยมารกาโหลวางไว้กลางฝ่ามือ ขณะนั้น เสียงฮือที่แปลกปลาดก็ดังขึ้น

ขลุ่ยมารกาโหลนี้ไม่ได้ใช้ปากเป่า แต่ใช้ชี่แท้หรือพลังทิพย์เป่า นี่คือวิธีการโจมตีโดยใช้จิตวิญญาณ

เวทมนตร์มีวิชาหลากหลายแขนงเสียจริง

เสียงฮือ ๆ ราวกับเสียงเด็กร้องไห้จนเสียงแหบ ที่แทบจะไม่มีเสียงนั้น ก็เหมือนกับเสียงเล็บขูดขีดบนกระจกดังจื่ดๆ

หม่ายู่หวาพูดตะโกนใส่ภรรยาด้วยความหวาดกลัว: “เอามือปิดหู ควบคุมสติเอาไว้ ขลุ่ยมารกาโหลไม่ได้แบ่งแยกว่าใครเป็นใคร ถ้าหากต้านทานได้ไม่ดีพอ จะถูกทำลายจิตใจ กลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณได้! ”

โม่หยู่กับยายหยูใช้มือสองข้างป้องปิดที่หู โดยเห็นว่าหลินหยุนยังคงเอามือสองข้างไขว้หลัง ยืนอยู่กับที่ไม่ขยับเคลื่อนไหว โม่หยู่จึงตะโกนออกไปอย่างรีบร้อนทันที: “หลินหยุน เอามือปิดหู ควบคุมสติเอาไว้! ”

หลินหยุนไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่รับรู้สัมผัสถึงคลื่นพลังวิญญาณที่โจมตีเป็นระลอก ๆ อันเกิดจากเสียงของขลุ่ยมารกาโหลอย่างสงบเงียบ

ถ้าหากว่าเป็นจิตวิญญาณของนักบู๊ธรรมดา ส่วนใหญ่จะไม่สามารถต้านทานการโจมตีโดยจิตวิญญาณที่รุนแรงระดับนี้ได้ แต่ว่าผู้ยิ่งใหญ่อย่างมหากษัตริย์ชางฉอง จิตวิญญาณแทบจะไม่มีวันถูกทำลายลงได้ ซึ่งเพียงแค่วิธีการโจมตีโดยจิตวิญญาณระดับโลกมนุษย์ สำหรับเขาแล้วก็เหมือนกับอาการคันที่เกิดขึ้นตามร่างกายเท่านั้น

อีกทั้ง ความรู้สึกแบบนี้ค่อนข้างสบายตัว ก็เหมือนกับมีคนกำลังใช้น้ำอุ่น อาบชำระร่างกายของคุณอยู่เป็นระลอก ๆ

หลินหยุนถึงขนาดรู้สึกสบายใจจนปิดตาลง สีหน้าท่าทางดื่มด่ำกับความสุขเป็นอย่างมาก

“จบกัน! ” โม่หยู่อดไม่ได้ที่จะต้องปิดตาลง: “เห็นลักษณะท่าทางของหลินหยุน ชัดเจนว่าคงจะถูกเสียงของขลุ่ยมารกาโหลครอบงำทำให้เกิดการหลงใหลเคลิบเคลิ้มแล้ว จิตวิญญาณอีกไม่นานคงจะถูกทำลายลง”

โม่หยู่คิดที่จะพุ่งไปข้างหน้าโดยที่ไม่สนใจอะไร เพื่อเรียกสติหลินหยุนกลับคืน แต่ว่าตอนนี้เธอเองก็ยังจะต้องพยายามต่อสู้กับเสียงของขลุ่ยมารกาโหล หากเมื่อไม่มีดวงจิต แม้แต่เธอก็จะต้องถูกครอบงำจนเกิดอาการหลับใหลเช่นกัน

ทำอย่างไรดี? ทำอย่างไรดี?

โม่หยู่จิตใจร้อนรนกระวนกระจาย แต่ก็ไม่มีวิธีการใด ทำได้เพียงร้องตะโกนใส่พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำ: “พอได้แล้ว รีบหยุดได้แล้ว! เขาหลับใหลจนลืมตนเองไปแล้ว หยุดเป่าได้แล้ว! ”

ดวงตาสองข้างที่ปรากฏของพระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำ แสงสีเขียวสว่างบ้างมืดบ้าง ชัดเจนว่าสภาพจิตใจกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ตื่นเต้น

แม้ว่าจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่ก็สามารถคาดเดาได้ว่าตอนนี้เขากำลังมีสีหน้าที่ตื่นเต้นดีใจอยู่อย่างแน่นอน

“ไอ้หนุ่มน้อย ทำให้ข้าถึงกับต้องสูญเสียหุ่นเชิดมนตร์ไปหนึ่งร่าง ข้าก็จะให้นายกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณ เพื่อนำมาใช้กลั่นหุ่นเชิดมนตร์ร่างใหม่ขึ้น! ”

พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำแน่นอนว่าไม่มีทางที่จะปล่อยหลินหยุนไปได้โดยง่าย โดยที่ขลุ่ยมารกาโหลของเขาได้ใช้แสดงพลังเป็นครั้งแรก ซึ่งหลินหยุนไม่ได้ต้านทานป้องกัน ดังนั้นเขาก็จะต้องทนทุกข์ทรมาน หากว่าแสดงพลังเป็นครั้งที่สอง ผลลัพธ์ก็จะไม่รุนแรงขนาดนี้

หลินหยุนมีพลังความสามารถ ที่เหนือกว่าเขามาก ดังนั้น ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่มีทางที่จะปล่อยหลินหยุนไปแน่

เวลาผ่านไปสิบนาทีเต็ม หม่ายู่หวากับโม่หยู่ที่อยู่ด้านข้างต่างก็ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น ขณะที่ใกล้จะสลบนั้น พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำจึงได้หยุดเป่าการบรรเลงลง

ส่วนหลินหยุน ได้ปิดตาลงก่อนหนานี้แล้ว ร่างกายราวกับได้นอนหลับไปแล้วเป็นอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งคล้ายมากกับร่างที่ขาดสติและไร้วิญญาณ

หลินหยุนหาวขึ้นในทันใด

“อ่า! ”

หม่ายู่หวาตกใจจนล้มลงไปนั่งที่พื้น และรีบคำนับอ้อนวอนร้องขอชีวิตต่อหลินหยุน: “ปรมาจารย์ ข้าก็เพียงแค่มาทำหน้าที่เรียกท่านให้ตื่นขึ้น ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร! ”

หม่ายู่หวาตกใจกลัวถึงพลังความสามารถของหลินหยุนมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้หลินหยุนยังสามารถที่จะต้านทานขลุ่ยมารกาโหลได้โดยไม่เป็นอะไร ยิ่งทำให้หม่ายู่หวาตกตะลึงมากขึ้นไปอีก

ถึงขนาดที่ในใจได้ยอมรับแล้วว่า พลังความสามารถของหลินหยุนเหนือกว่าพระบุตรศักดิ์สิทธิ์

ทันใดนั้นหลินหยุนก็ยื่นมือออกมา แล้วก็ยกชูสูงขึ้น

หม่ายู่หวาตกใจจนอกสั่นขวัญหาย และรีบคุกเข่าลงต่อหน้าของหลินหยุนคำนับร้องขอชีวิตอย่างไม่หยุด: “ปรมาจารย์ได้โปรดไว้ชีวิต ปรมาจารย์ได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิด ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรจริง ๆ! ”

หลินหยุนยืดเส้นยืดสายท่อนแขนอย่างสบาย แล้วมองไปที่หม่ายู่หวา และพูดขึ้นว่า: “ไม่ต้องตื่นเต้นตกใจไป ข้าก็แค่ขยับเคลื่อนไหวร่างกายเท่านั้น”

ใบหน้าอันแก่ชราของหม่ายู่หวาแดงก่ำขึ้นในทันที เพียงแค่ขยับเคลื่อนไหวร่างกาย ก็ทำให้เขาตกใจได้ถึงขนาดนี้ ต่อไปหากเป็นที่ล่วงรู้ออกไป เขาเองก็คงไม่มีหน้าที่จะใช้ชีวิตอยู่แล้ว

โม่หยู่มองไปที่หลินหยุนด้วยความดีอกดีใจ พูดขึ้นว่า: “หลินหยุน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ”

“คุณว่าฉันดูเหมือนกับมีปัญหาอะไรไหมล่ะ? การโจมตีโดยจิตวิญญาณระดับขั้นนี้ ก็เหมือนกับการอาบน้ำให้ฉัน สุขสบายจนฉันเกือบที่จะหลับไปแล้ว” สีหน้าของหลินหยุนเหมือนกับว่ายังคงสุขสบาย ท่าทางดูหมิ่นเหยียดหยามเป็นอย่างมาก

โม่หยู่นานทีที่จะแกล้งทำเสียงโกรธ: “นาย......ช่างน่ารำคาญเสียจริง ทำให้คนอื่นคิดไปกันว่านายได้ถูกขลุ่ยมารกาโหลกล่อมจนหลับใหลไปแล้ว โดยเป็นห่วงเป็นกังวลนายอย่างมาก แต่นายนั้น กลับเป็นดีเสียอีก นึกไม่ถึงว่าจะดื่มด่ำจนหลับสบายไปแล้ว! ”

“นานแล้วที่ไม่ได้ประสบกับการโจมตีโดยใช้จิตวิญญาณ อดทนไม่ไหวจริง ๆ ขอโทษด้วย! ” หลินหยุนแสดงความขอโทษต่อโม่หยู่ด้วยท่าทางที่จริงใจ โดยที่มองข้ามพระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำที่อยู่ด้านข้างไปเลย

ยายหยูมองไปที่หลินหยุนด้วยความตกตะลึง: “นาย ทำไมนายถึงไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย? ขลุ่ยมารกาโหลเป็นหนึ่งในท่าไม้ตายการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักมนตร์ดำ ต่อให้เป็นถึงปรมาจารย์นักบู๊ก็ถูกครอบงำจนหลับใหล และก็ต้องกลายเป็นร่างที่ไร้วิญญาณ! ”

“เป็นไปได้อย่างไรที่นายจะไม่เป็นอะไรเลย? ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์