หลินหยุนมองไปที่ยายหยู ซึ่งไม่ได้รู้สึกดีกับเธอสักเท่าไหร่ ถ้าหากไม่ได้เห็นแก่หน้าของโม่หยู่แล้ว จากลักษณะท่าทางของเธอที่ดูหมิ่นเมื่อสักครู่ ก็เพียงพอที่หลินหยุนจะลงมือสั่งสอนเธอแล้ว
“ความสามารถของข้า ใช่ว่าคุณจะคาดเดาออกได้! ” หลินหยุนพูดขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเธออีก
ยายหยูโกรธจนหน้าดำ ลักษณะท่าทางของหลินหยุนช่างหลงระเริงมากเกินไปแล้วจริง ๆ
แต่ แม้ว่าเธอจะไม่พอใจ ก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร ก็เพราะหลินหยุนเป็นถึงผู้ที่เก่งกาจสามารถต้านทานเสียงขลุ่ยมารกาโหลกล่อมให้หลับใหลของพระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำได้
เห็นหลินหยุนพูดคุยกับกี่คนนั้นอย่างกำเริบเสิบสาน โดยตนเองกลายเป็นเพียงแค่อากาศ พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำโมโหมากจนปอดจะระเบิดแล้ว
“ไอ้หนุ่มน้อย ต่อให้นายสามารถที่จะต้านทานขลุ่ยมารกาโหลของข้าได้ แต่วันนี้นายก็คงต้องตายอยู่ดี! น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น ลมหายใจในร่างกายแรงบ้างอ่อนบ้าง แสงสีเขียวในดวงตาสว่างบ้างมืดบ้าง”
“จะให้นายพบกับพลังความสามารถที่แท้จริงของสำนักมนตร์ดำของข้า! ”
พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง ชุดคลุมสีดำห้อยตกลงไป ปรากฏท่อนแขนที่ขาวราวกับกระดาษ
ฟู่ว์!
ก้อนเปลวไฟสีเขียวสูงสองฟุตได้ลุกโชติช่วงขึ้นบนฝ่ามือของเขา
เปลวไฟนั้นส่งเสียงฟู่ว์ เหมือนกับว่ากำลังลุกไหม้ และก็เหมือนกับว่ามีแมลงขนาดเล็กจำนวนมากกำลังร้อง
เปลวไฟสีเขียวคล้ายกับสิ่งมีชีวิต เหมือนกับน้ำไหล ค่อย ๆ ไหลไปทั่วร่างกายของเขา ทำให้ร่างกายของเขาโดนปกคลุมอยู่ท่ามกลางเปลวไฟสีเขียว
แต่ว่า หลังจากที่เปลวไฟสีเขียวครอบคลุมไปทั่วทั้งร่างกายของเขาแล้ว เปลวไฟสีเขียวนั้นก็ได้ เจือจางลงไปไม่น้อย
โม่หยู่มองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดวงตาเผยความสงสัยขึ้นแวบหนึ่ง: “นี่ นี่คือ......กู่! ”
“นึกไม่ถึงว่านายจะศึกษาวิชาที่ต้องห้ามของสำนัก! ”
ยายหยูถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจว่า: “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ อะไรคือวิชากู่? ”
โม่หยู่มองไปที่หลินหยุน และค่อย ๆ พูดขึ้นว่า: “แมลงร้าย ก็คือสัตว์ล้ำค่าของสำนัก ความตั้งใจใตอนแรกที่เลี้ยงแมลงร้ายนี้ ก็เพื่อใช้รักษาโรคคนป่วย แต่ว่า กลับถูกตระกูลที่มักใหญ่ใฝ่สูงนำไปใช้ประโยชน์ เพาะเลี้ยงแมลงร้ายมีพิษเป็นจำนวนมาก ในที่สุดก็กลายเป็นเครื่องมือที่ใช้ทำร้ายคน ถึงขนาดมีอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ทุกคนต่างก็พูดกันถึงเรื่องของแมลงร้ายเปลี่ยนสี”
“ส่วนของวิชากู่ ก็คือใช้ร่างกายของตนเอง มาเลี้ยงแมลงร้าย ซึ่งพวกแมลงร้ายเหล่านี้กับผู้เลี้ยงได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งสามารถเพิ่มพลังความสามารถใหกับผู้เลี้ยงเป็นอย่างมาก อีกทั้งผู้เลี้ยงก็ยังมีลักษณะพิเศษของหนอนกู่ด้วยบางอย่าง โดยเฉพาะพิษร้ายของหนอนกู่ ซึ่งเมื่อคนถูกพิษเข้าก็จะทำให้เสียชีวิตได้”
“เวลานี้ เขาก็เหมือนกับคนพิษ สิ่งของที่เหมือนกับเปลวไฟสีเขียวบนร่างกายของเขานั้น ก็คือ หนอนกู่จำนวนนับพันนับหมื่นตัว”
ได้ฟังเรื่องราวนี้จบลง ต่อให้เป็นยายหยูที่ไม่เกรงกลัวความตาย ก็อดไม่ได้ที่ขาทั้งสองข้างจะ สั่นไหว
“ก็เป็นเพราะวิชากู่ที่โหดร้ายเกินไป จำเป็นต้องใช้เลือดคนมาเลี้ยงแมลงร้าย ดังนั้นจึงถูกสำนักบัญญัติไว้ว่าเป็นวิชาต้องห้าม ทุกคนในสำนัก ห้ามที่จะศึกษาเด็ดขาด”
“แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้สำนักมนตร์ดำมีอานุภาพยิ่งใหญ่เกรียงไกร ส่วนสำนักมนตร์ขาวของฉันหลงเหลือเพียงแค่ชื่อเสียง ทำได้เพียงปล่อยให้สำนักมนตร์ดำทำลายชื่อเสียงสำนักของฉัน”
พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำหัวเราะอย่างเย็นชา: “ธิดาศักดิ์สิทธิ์ของข้า ต่อให้คุณเตือนเขาแล้วจะมีประโยชน์อะไร? อีกไม่นานเขาก็จะต้องตายแล้ว และกลายเป็นอาหารอันโอชะของหนอนกู่ของข้า”
หลินหยุนสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย: “คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า บนโลกใบนี้ยังจะมีสิ่งชั่วร้ายขนาดนี้อยู่ด้วย”
พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำกระหยิ่มยิ้มย่องและพูดขึ้นว่า: “ฮ่าฮ่า ชั่วร้ายเหรอ? ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกอะไรล่ะ! พวกของรักของข้าหิวกันแล้ว พวกมันได้กลิ่นของเลือดสด พวกมันกำลังทักท้วงฉันอยู่? ”
“อย่ารีบร้อน อย่ารีบร้อน ข้าจะหาคนให้กับพวกเจ้าเพื่อลิ้มรสก่อน จากนั้นจะให้พวกเจ้ากินอาหารมื้อใหญ่! ”
สายตาของพระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำ ทันใดนั้นก็มองไปที่หม่ายู่หวากับภรรยาของเขา
“พระบุตร พระบุตรศักดิ์สิทธิ์ ฉันคือลูกน้องที่จงรักภักดีต่อท่านมากที่สุด! ” หม่ายู่หวาตกใจจน หน้าเขียว กลืนน้ำลายไม่หยุด
“ใช่เหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ให้ข้าดูความจงรักภักดีของนายหน่อยก็แล้วกัน! ”
เงาร่างของพระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำหายวับไป ราวกับผี โดยพุ่งตรงไปยังหม่ายู่หวากับภรรยาของเขา
มือสองข้างบีบคอหม่ายู่หวากับภรรยาของเขา และก็หัวเราะเสียงแหลมอย่างน่าประหลาด
หนอนกู่สีเขียวได้โผล่กันออกมาที่ร่างกายของหม่ายู่หวากับภรรยาของเขา ทันใดนั้น ก็มีแสงสีเขียวสว่างเจิดจ้า ซึ่งช่วงเวลาเพียงแค่ครู่เดียว หม่ายู่หวากับภรรยาของเขาซึ่งทั้งสองคนได้สูญหายไป ส่วนเปลวไฟสีเขียวที่เจือจางบนร่างกายพระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำ ได้กลายเป็นสีเขียวเข้มแล้ว
“นี่......คือวิชาที่ต้องห้ามจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าจะชั่วร้ายขนาดนี้! ” โม่หยู่ตกใจจนหน้าซีด และมีสีหน้าท่าทางที่โกรธแค้น
พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำหัวเราะแหะแหะ: “พวกของรักข้ายังคงร้องเรียกอยู่ พวกมันบอกข้าว่า พวกมันยังกินไม่อิ่ม พวกมันต้องการจะกินอาหารมื้อใหญ่ ไอ้หนุ่มน้อย ถึงคราวของนายแล้ว! ”
พระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำหัวเราะใหญ่ แล้วก็กระโจนเข้าใส่หลินหยุน
มองไปยังพระบุตรศักดิ์สิทธิ์สำนักมนตร์ดำที่กระโจนเข้ามา หลินหยุนแสดงสีหน้าที่เหยียดหยาม: “หนอนสกปรกพวกนี้ คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นของรักของนาย นายยังสมควรที่จะใช้คำว่ามนตร์อยู่อีกเหรอ! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...