สรุปเนื้อหา บทที่ 473 การโจมตีของตระกูลกง – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 473 การโจมตีของตระกูลกง ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ออฟฟิตของเจี่ยงสง
นี่คือสำนักงานใหญ่การผลิตน้ำแห่งชีวิต
ในช่วงเวลานี้ เจี่ยงสงนั่งคุมงานอยู่ที่นี่ตลอด เมื่อเห็นว่าน้ำแห่งชีวิตร้อนแรงกว่าที่เขาคาดไว้ ก็รู้สึกกังวลมาก
มีบริษัทใหญ่ในประเทศและแม้แต่ต่างประเทศจำนวนมากได้มาหาเขา เต็มใจที่จะให้เงื่อนไขที่ดี และขอเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำแห่งชีวิต
แต่ว่า เจี่ยงสงจำคำสั่งของหลินหยุน ขณะนี้ให้ทดลองขายในหลินโจวเท่านั้น และยังไม่ขายไปที่อื่น
เพียงแต่ว่า ทนไม่ไหวกับวิธีการใช้ทั้งไม้อ่อนไม้แข็งของกลุ่มคนเหล่านั้น เจี่ยงสงจึงได้โทรหาหลินหยุน และสอบถามว่าเมื่อไหร่ถึงจะสามารถขยายน้ำแห่งชีวิตสู่ตลาดอื่นได้
หลังจากโทรหลายครั้ง ก็ไม่สามารถติดต่อหลินหยุนได้เลย
เจี่ยงสงเลยต้องยอมแพ้
แม้ว่าน้ำแห่งชีวิตจะไม่สามารถขายให้กับตลาดภายนอกได้ แต่ช่วงเวลานี้ เจี่ยงสงก็ยังเป็นผู้ควบคุมอำนาจใหญ่ และได้กลายเป็นเป้าหมายของบุคคลที่มีอิทธิพลใหญ่จำนวนมากต้องการดึงไปเป็นพรรคพวก
ชั่วขณะ เจี่ยงสงก็รู้สึกลำพองใจขึ้นเล็กน้อย และมีแนวโน้มว่าจะมองไม่เห็นวีรบุรุษผู้เก่งกาจคนอื่นๆอยู่ในสายตา
โดยเฉพาะเรื่องที่เจี่ยงสงวางแผนแสดงละครที่จะลงทุนในอำเภอจีหมิง และประสบความสำเร็จที่ทำให้หลินหยุนยอมเปลี่ยนความคิด และทำให้เจี่ยงเวยหลานชายของเขาได้มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง
นี่ยิ่งทำให้เจี่ยงสงมีพลังอำนาจมากขึ้น และยิ่งทะนงตัวมากขึ้น
แต่ว่า วันนี้เจี่ยงสงได้รับจดหมายฉบับหนึ่งเนื้อความช่างจองหองมาก
จดหมายจากตระกูลกงในซีหนิง
“จากนี้อีกสามวัน ฉันจะมาเยี่ยม เจี่ยงสงในหลินโจว เตรียมพร้อมต้อนรับแขก”
นี่คือจดหมายจากตระกูลกงส่งถึงเจี่ยงสง
ขณะนี้เจี่ยงสงโกรธจัด และคว่ำโต๊ะ แล้วสาปแช่ง “ตระกูลกงในซีหนิงทำไมถึงจองหองได้ขนาดนี้!”
“อีกสามวัน ฉันจะดูว่ตระกูลกงต้องการจะทำอะไร!”
เกี่ยวกับจดหมายฉบับนี้ที่มาจากตระกูลกง เจี่ยงสงไม่ได้จริงจังกับมันนัก ควรทำสิ่งไหนก็ต้องไปทำ
หวางเจ๋อซึ่งกำลังปฏิบัติการอยู่แล้ว หลังจากได้รับข่าวที่ลูกน้องรายงานมา ก็อมยิ้ม “กงซิวซ่างคนนี้ เป็นจิ้งจอกเฒ่าที่ระมัดระวังตัวจริงๆ!”
“เขาต้องการใช้เวลาสามวันนี้ ปล่อยข่าวออกไป เพื่อลองเชิงเกี่ยวกับข่าวคราวของหลินหยุนว่าตายจริงหรือไม่”
“ถ้าหลินหยุนยังไม่ตาย จะต้องมาหาเรื่องที่ตระกูลกงแน่นอน หลังจากผ่านไปสามวัน หากหลินหยุนยังไม่มา ถ้าเช่นนั้นหลินหยุนอาจจะตายไปแล้วจริงๆ”
“ในตอนนั้น เป็นเวลาที่ตระกูลกงของเขาจะต้องไปโจมตีอย่างเต็มที่”
ลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างหลังหวางเจ๋อ พูดอย่างเย็นชาว่า “คุณชายหวาง จิ้งจอกเฒ่าของตระกูลกงเจ้าเล่ห์มาก ถ้าเขารู้ว่าพวกเราไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องการตายของหลินหยุน ในอนาคตเขาจะล้างแค้นพวกเราหรือไม่?”
หวางเจ๋อชำเลืองมองเขา แล้วอมยิ้ม “ฉันเคยบอกแล้วหรือว่าหลินหยุนตายแล้ว?”
“ตั้งแต่ต้นจนจบฉันไม่เคยพูด ฉันแค่บอกว่าหลินหยุนไปที่สำนักมนตร์ดำ ถ้าเขาต้องการคิดแบบนี้ ฉันก็ช่วยอะไรไม่ได้”
ลูกน้องโค้งคำนับและพูดว่า “คุณชายฉลาดมาก!”
หวางเจ๋อแววตาคมลึก มองออกไปในป่านอกหน้าต่าง และพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “นอกจากนี้แม้ว่าหลินหยุนจะกลับมา สำนักเจ็ดดาวก็ไม่ใช่ว่าจะต้องกลัวเขา!”
“ครั้งนี้ ขอเพียงทำให้สำนักเจ็ดดาวบาดเจ็บ พวกเขาจะต้องสู้เป็นสู้ตายกับหลินหยุนแน่นอน”
“จิ้งจอกเฒ่าจากตระกูลกง คิดว่าตระกูลของตัวเองมีความสำคัญมาก ที่จริงแล้ว ตระกูลกงอยู่ในสายตาของฉัน เป็นแค่ตัวจุดชนวน ไม่มีประโยชน์อะไร”
ใบหน้าของหวางเจ๋อ ปรากฏความเหยียดหยาม
อายุยังน้อย มีเล่ห์เหลี่ยมถึงขนาดนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่อยู่ในตระกูลที่สุดยอดอย่างตระกูลหวาง เขาก็เป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่ดีที่สุด
เพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลกงเข้ามาก่อกวนกะทันหัน เจี่ยงสงได้แจ้งข่าวนี้ให้กับควีนจิน
เพราะยังไง ควีนจินและตระกูลกงในซีหนิง ยังคงมีความสัมพันธ์เป็นญาติกันอยู่บ้าง
เวลาสามวัน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เจี่ยงสงและลูกน้องคนอื่นๆจ้องมองหน้ากัน อันที่จริง ในช่วงเวลานี้ได้โทรหาปรมาจารย์หลิน และโทรติดต่อไม่ได้เลย
เป็นไปได้ไหมว่าปรจารย์หลินได้รับภัยอันตรายจริงๆ?
แต่ว่า เจี่ยงสงไม่เชื่อ ปรมาจารย์หลินนั้นมีพลังเหนือคนทั่วไป แม้ว่าจะไปที่สำนักมนตร์ดำ ก็คงไม่เจอปัญหาใดๆ
“พี่กง คุณพูดแบบนี้ ไม่กลัวหรือว่าถ้าปรมาจารย์หลินกลับมาแล้วไปคิดบัญชีกับตระกูลกงเหรอ?” เจี่ยงสงยิ้มเยาะเย้ย
เจ้าบ้านกงยังคงยิ้มเย้ยหยัน “เจี่ยงสง ดูเหมือนว่าคุณคงจะถูกไอ้หนุ่มคนนั้นล้างสมองแล้ว ถึงตอนนี้ยังมองไม่เห็นสถานการณ์ที่ชัดเจนเหรอ วันนี้ฉันจะใช้ข้อเท็จจริงให้พวกคุณได้รู้ชัดเจนว่า ไอ้หนุ่มที่คุณพึ่งพานั้น ได้ตายไปแล้ว”
หลังจากพูดจบ เจ้าบ้านกงก็โบกมือ และชายหนุ่มห้าคนที่อยู่ข้างหลัง ก็ก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ไม่แยแส และล้อมรอบเจี่ยงสงเอาไว้
ลูกน้องของเจี่ยงสงไม่ยอมแน่นอน รีบออกมาสกัดกั้นทันที
แต่ว่า เพียงแค่เผชิญหน้า ลูกน้องเหล่านั้นของเจี่ยงสงก็ล้มลงกับพื้น
เจี่ยงสงตกใจมาก “แม้ว่าลูกน้องเหล่านี้จะไม่ใช่นักบู๊ แต่พวกเขาก็เป็นผู้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ แค่เผชิญหน้าก็ล้มลงทันที!”
“ดูเหมือนว่าคนที่กงซิวซ่างพามา ล้วนเป็นนักบู๊!”
เจี่ยงสงพยักหน้าให้กับชายวัยกลางคนสองคนที่ยืนอยู่ข้างเขา และทั้งสองก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ความเร็วนั้น เหนือกว่าคนธรรมดา
สองคนนี้เป็นนักบู๊ที่เจี่ยงสงทุ่มเงินเยอะในการคัดเลือกมา ทั้งคู่ต่างเป็นพรแสวงสูงสุด
เพียงแต่ว่า ยังคงแค่เผชิญหน้ากัน ก็ล้มลงไป
เจี่ยงสงตกตะลึง และมองไปที่เจ้าบ้านกงผู้เย่อหยิ่ง และสงสัยมาก “แปลกจริงๆ ตระกูลกงหานักบู๊ที่แข็งแกร่งเหล่านี้มาจากไหน?”
“คนหนุ่มเหล่านี้สามารถเอาชนะนักบู๊พรแสวงสูงสุดสองคนนี้อย่างง่ายดายโดยที่ฉันได้ทุ่มเงินไปอย่างมหาศาลเพื่อเชิญมา อย่างน้อยที่สุดก็คงมีความแข็งแกร่งระดับแดนพรสวรรค์”
“นอกจากนี้ ชายวัยกลางคนสองคนและชายชรายังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ดังนั้นไม่รู้ว่าระดับการฝึกฝนของพวกเขาอยู่ในระดับไหน”
“ตระกูลกงไปหายอดฝีมือมากมายเหล่านี้มาจากที่ใด?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...